TFEX เปิดเทรด Stock Futures 24 พฤศจิกายนนี้

ตลาดอนุพันธ์เตรียมเปิดซื้อขาย Stock Futures ครั้งแรกในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ชี้ Stock Futures ช่วยบริหารพอร์ตลงทุน เพิ่มโอกาสทำกำไรทั้งในภาวะหุ้นขึ้นและหุ้นลง พร้อมเปิดตัววิธีการวาง Margin แบบใหม่ ให้ผู้ลงทุนสร้างกลยุทธ์ซื้อขายได้โดยใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 นี้ TFEX จะเปิดซื้อขาย Stock Futures หรือ ฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญรายตัวเป็นครั้งแรก โดย Stock Futures ที่จะซื้อขายในรอบแรกนี้เป็นฟิวเจอร์สของหุ้น 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ PTT, PTTEP และ ADVANC ซึ่งเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ มีสภาพคล่องสูง และเป็นหุ้นที่ผู้ลงทุนนิยมลงทุน โดยเฉพาะผู้ลงทุนสถาบัน ดังนั้น TFEX จึงมั่นใจว่า ผู้ลงทุนจะให้ความสนใจซื้อขาย Stock Futures เพื่อบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น”

Stock Futures ที่จะเปิดซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ จะมีขนาดเท่ากับ 1,000 หุ้นต่อ 1 สัญญา และมีสัญญาที่ครบกำหนดในเดือนต่าง ๆ ให้เลือกซื้อขายทั้งสิ้น 4 สัญญา ได้แก่ เดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดย หากผู้ลงทุนถือไว้จนสัญญาครบอายุ ก็จะใช้วิธี “ชำระราคาเป็นเงินสด” (Cash Settlement Price) กล่าวคือ จะได้รับเงินส่วนกำไร หรือ จ่ายเงินส่วนขาดทุนให้แก่คู่สัญญา โดยไม่มีการส่งมอบหุ้นกันจริง ๆ ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับ SET50 Index Futures อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฐานะการถือครองสูงสุด หรือที่เรียกว่า Position Limit ของ Stock Futures นั้น ในช่วงเริ่มต้นซื้อขายนี้ TFEX กำหนดไว้เพียง 5,000 สัญญาต่อหุ้นอ้างอิง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการกำกับดูแลการซื้อขาย

นางเกศรากล่าวเสริมว่า “ในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนอย่างในปัจจุบัน Stock Futures จะมีส่วนช่วยให้ผู้ลงทุนบริหารพอร์ตลงทุนได้ดียิ่งขึ้น เช่น สามารถใช้ Stock Futures ป้องกันความเสี่ยงให้แก่พอร์ตลงทุน ทำให้พอร์ตลงทุนนั้นไม่ต้องมีการขายหุ้นออกไป และยังมีโอกาสรับสิทธิประโยชน์ในด้านเงินปันผลอีก อันจะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด นอกจากนี้ ในภาวะที่หุ้นปรับตัวสูงขึ้น ผู้ลงทุนก็สามารถใช้ Stock Futures เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุนได้”

นอกจากเปิดซื้อขาย Stock Futures แล้ว TFEX ยังได้มีการปรับหลักเกณฑ์การซื้อขายเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ TFEX มีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ใหม่อีก 3 เรื่อง ได้แก่ การปรับกฎเกณฑ์ด้านการวางหลักประกัน โดยกำหนดให้ผู้ลงทุนทั่วไปเปลี่ยนไปใช้วิธีการคำนวณหลักประกันแบบพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้ลงทุนสถาบันใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะช่วยประหยัดต้นทุนการวางหลักประกันมากกว่าวิธี Fixed Formula ที่ใช้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ TFEX ยังมีการปรับเกณฑ์ circuit breaker ใหม่ โดยจะใช้แนวทางเดียวกันสำหรับทุกสินค้าอ้างอิงที่เป็นหุ้นและดัชนีหุ้นที่ซื้อขายใน TFEX คือ สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุดหรือลดลงต่ำสุด ได้ไม่เกิน 30% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า อย่างไรก็ดี TFEX จะหยุดทำการซื้อขายชั่วคราวก็ต่อเมื่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดทำการซื้อขายชั่วคราวอันเป็นผลมาจากมาตรการ circuit breaker ซึ่งกฎเกณฑ์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้ดูแลสภาพคล่องสามารถเสนอซื้อขายได้ในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของฐานะการถือครองสูงสุด (Position Limit)ของ SET50 Index Futures และ Options ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 สัญญา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุน