ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยได้พัฒนาและนำระบบ ARMS ซึ่งเป็นระบบซื้อขายหลักทรัพย์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อทำหน้าที่แทนระบบซื้อขายหลักทรัพย์เดิมที่ชื่อ ASSET เพื่อรองรับปริมาณธุรกรรม รวมถึงรองรับตราสารใหม่ในอนาคตได้อย่างมั่นใจ และยังมีส่วนสนับสนุนโครงการ ASEAN Linkage ในอนาคตมั่นใจขีดความสามารถของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ไทยเทียบเคียงกับตลาดหุ้นชั้นนำ
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ระบบใหม่ชื่อ Advanced Resilient Matching System หรือ ARMS ที่พัฒนาขึ้น และนำมาใช้งานแทนระบบซื้อขายหลักทรัพย์เดิมคือระบบ ASSET (Automated System for the Stock Exchange of Thailand) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ARMS จะเอื้ออำนวยให้สามารถรองรับปริมาณธุรกรรม และการออกตราสารใหม่ในอนาคต และช่วยสนับสนุนโครงการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศ ASEAN หรือ ASEAN Linkage ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุนไทย และนับเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไปในอนาคต
ระบบ ARMS เป็นระบบที่มีความทันสมัยของเทคโนโลยี และต่อยอดความสามารถและจุดเด่นมาจากระบบ ASSET ทั้ง ความเร็วในการตอบสนองต่อการรับส่งคำสั่ง ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาค โดย ARMS ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมเทคโนโลยีสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทดสอบการทำงานของระบบ ARMS อย่างครบถ้วน ทั้งกับหน่วยงานภายใน และบริษัทสมาชิก รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องเป็นเวลากว่า 1 ปี พร้อมทั้งมีการตรวจสอบและประเมินผลความถูกต้องของข้อมูล รวมถึงประเมินความพร้อมในการใช้งานทั้งระบบอย่างละเอียด ครบถ้วน ตามมาตรฐานสากล จึงมั่นใจว่าระบบ ARMS มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความมั่นคง และสามารถตอบสนองการรับส่งคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ใช้ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยคอมพิวเตอร์อย่างเต็มรูปแบบ (Fully Automated Computerized System) มาตั้งแต่ปี 2534 ชื่อระบบ ASSET ที่ได้มาตรฐานสากลรวมเวลากว่า 17 ปี โดยการพัฒนาของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถรองรับมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน และอำนวยความสะดวกแก่บริษัทสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นไปด้วยความโปร่งใสและสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
