“FINIXX” เขย่าวงการยางรถยนต์พรีเมี่ยม เปิดนวัตกรรมยางเรเดียล กับ “Mix SIS”

ฟีนิกซ์ นิว เทคโนโลยี บริษัทพัฒนานวัตกรรมความปลอดภัยทางด้านการทหารหลากรูปแบบ อาทิ รถหุ้มเกราะ กระจกกันกระสุน และยางกันกระสุน เป็นต้น แตกไลน์ธุรกิจสู่การพัฒนายางเรเดียลระดับพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย “Mix SIS” เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปเป็นครั้งแรกของโลก ระบุชัดป้องกันการรั่ว การซึมจากการถูกของแหลมและสิ่งมีคมบริเวณหน้ายางได้ถึง 97% โดยรับประกันสูงสุดถึง 4 ปี ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม เตรียมเปิดตัวผ่านสื่อทางการตลาดเต็มรูปแบบ 23 พ.ย.นี้ พร้อมเดินหน้าขยายตัวแทนจัดจำหน่าย และเปิดฟินิกซ์ช็อปทั่วประเทศ

นายจาง เหว่ย ต๋า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ นิว เทคโนโลยี จำกัด (FINIXX NEW TECHNOLOGY) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดตัวนวัติกรรมยางเรเดียลใหม่ล่าสุด ที่มีการนำเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยทางด้านการทหารมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า Mix SIS ในการทำยางเรเดียลที่มีความปลอดภัยสูงสุดเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเป็นครั้งแรกของโลก ภายใต้แนวคิด “FINIXX never goes flat” หรือ “ฟินิกซ์ไม่มีแบน” ที่เหมาะสำหรับรถยนต์และรถกระบะทุกประเภท โดยวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้เป็นผลิตภัณฑ์ยางเรเดียลคุณภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ทั้งนี้ในช่วงแรกของการเปิดตัวใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเตรียมเปิดจะตัวอย่างเป็นทางการผ่านสื่อทางการตลาดเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป อาทิ มีภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อประเภทป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้จะมีกิจกรรมทางการตลาดที่ต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงเน้นการขยายฐานดีลเลอร์ ร้านค้ายางรถยนต์และร้านฟินิกส์ทั่วประเทศด้วย

“ผลิตภัณฑ์ยางนิรภัยฟินิกซ์ นับเป็นนวัตกรรมยางรถยนต์ใหม่ล่าสุดของโลก ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างให้กับวงการยางรถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยในเบื้องต้นจะเน้นการสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก่อน ทั้งกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม และกลุ่มดีลเลอร์และร้านค้ายางทั่วไป และจะรุกตลาดอย่างต่อเนื่องในปีหน้านี้ เบื้องต้นบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ไว้ประมาณ 40,000 เส้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท ส่วนภายในสิ้นปี 2552 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 100,000 เส้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณเพื่อทำการตลาดรวมประมาณ 70 ล้านบาท หลังจากนั้นจะมีการขยายฐานเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงจะขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซี่ยน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงประเทศในตะวันออกกลางด้วย โดยคาดว่าในระยะประมาณ 4 ปี ฟินิกซ์จะมียอดขายสูงถึง 1 ล้านเส้น หรือมีมูลค่าทางการขายมากกว่า 4,500 ล้านบาทต่อปี ” นายจาง กล่าว

FINIXX TIRE เป็นยางเรเดียลนิรภัยที่เกิดจากความร่วมมือของนักธุรกิจในประเทศไทย และนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนและจีน ในการพัฒนาและประดิษฐ์ยางนิรภัยประเภท Self-Seal Leakage ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Mix SIS ( Mix Thermoplastic Elastomer Styrene Isoprene Styrene block polymer ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตยางนิรภัยเพื่อการทหารและเหล่าทัพ ที่มีคุณสมบัติพิเศษในเวลาใช้งานปกติซึ่งมีความนุ่มนวล เงียบ มีการรีดน้ำที่ดี ทนต่อการสึกหรอ แต่เมื่อถูกสิ่งของแหลมคมทิ่มแทง จะมีคุณสมบัตินิรภัยที่พิเศษตรงที่มีความสามารถในการสมานแผลรั่วได้อย่างสนิท โดยไม่ต้องจอดเปลี่ยนยางหรือปะยาง เนื่องจากเทคโนโลยีของ Mix SIS มีคุณสมบัติที่โดดเด่น ได้แก่ การหล่อตัวขึ้นรูปในอุณหภูมิที่สูง มีสถานะเป็นของเหลวกึ่งแข็ง มีแรงยึดเหนี่ยวสูง สามารถคืนตัวได้รวดเร็วและมีความยืดหยุ่น ไร้การกัดกร่อนและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการรั่วซึมได้มากกว่าร้อยละ 97 มีค่ามาตรฐานการทรงตัวของล้อยาง ? ร้อยละ 7 ในสภาวะการใช้งานปกติ ทำให้ช่วยประหยัดอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงได้ดี ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวสามารถรับประกันด้านการใช้งานได้ถึง 80,000 กิโลเมตร หรือ 4 ปี ถึงแม้ถูกสิ่งแหลมคมตำทั้งนี้ผลจากคุณสมบัติพิเศษที่ล้ำสมัยของเทคโนโลยี Mix SIS ทำให้ FINIXX Tyre กลายเป็นนวัตกรรมใหม่และก้าวข้ามยุคเทคโนโลยีของยางนิรภัยทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนยาง ซึ่งเชื่อมั่นว่ายางฟินิกซ์จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี ทั้งกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ รวมถึงผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป ที่ต้องการความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุดนั่นเอง

นายสุพัฒน์ สังข์สุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายขายยางฟินิกส์ บริษัท ฟินิกซ์ นิว เทคโนโลยี จำกัด กล่าวเสริมว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ยางเรเดียลของฟินิกซ์ที่จะมีการเปิดตัวสู่ตลาด เริ่มแรกจะมีด้วยกัน 4 รุ่น คือ SKY-X สำหรับรถยนต์นั่งขนาดกลาง , PRESTIGE-X สำหรับรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ , FLOW-X สำหรับรถกระบะทั่วไป และ IMMORTAL-X สำหรับรถSUV ซึ่งผลิตภัณฑ์ยางนวัตกรรมใหม่ของ FINIXX ที่ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมในครั้งนี้ โดยตั้งราคาเริ่มตั้งแต่ประมาณ 3,000-6000 บาทต่อเส้น อย่างไรก็ตามการรุกตลาดยางรถยนต์ระดับ พรีเมี่ยมนั้น มีคู่แข่งทางการตลาดขนาดใหญ่หลายเจ้า ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงได้วางกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านดีลเลอร์และร้านยางทั่วประเทศ รวมถึงการขยายตลาดโดยตรง ด้วยการเปิดฟินิกซ์ช็อป โดยจะเปิดสาขาแรกบริเวณสะพานตากสิน ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ และจะมีการทยอยเปิด FINIXX SHOP ในศูนย์สรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศได้ประมาณ 100 สาขา ภายในสิ้นปี 2552 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการให้บริการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Call Center โทร 02-296-9935 ซึ่งคาดว่าจะช่วยรองรับความต้องการของลูกค้า และรองรับการขยายตลาดยางเรเดียลของฟินิกซ์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน