เอ็มบีเอ็มจีหนุนนักลงทุน เปิดตัวเวนเจอร์ แคปปิตอล

เอ็มบีเอ็มจี ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการเงินเปิดตัว กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนรูปแบบใหม่ (Venture Capital) อีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่กำลังแสวงหาโอกาสทำกำไรด้วยเงินเริ่มต้นต่ำในบริษัทที่มีการเติบโตสูง

กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนรูปแบบใหม่นี้หรือที่เรียกว่า “กองทุน พีค ฟิฟทีน” (Peak 15 Fund) จะเสาะหาบริษัทที่กำลังเติบโตแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดทุน มีผลิตภัณฑ์น่าสนใจ มีแผนธุรกิจที่ดี มีการบริหารจัดการที่สามารถตรวจสอบได้ และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสำหรับนักลงทุนผู้เข้าร่วมเป็นพันธกิจ

มร. แกรแฮม แมคโดนัลด์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มบีเอ็มจีกรุ๊ป กล่าวว่า “บริษัทขนาดย่อมเริ่มประสบปัญหาในการหาเงินทุนจากธนาคาร แต่ในขณะเดียวกัน กลับยังมีกลุ่มนักลงทุนเป็นจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศที่อยู่ในฐานลูกค้าของเอ็มบีเอ็มจี กำลังมองหาโอกาสทางการลงทุนกับธุรกิจเหล่านี้ เพื่อเข้าร่วมในการเติบโต และเพิ่มการกระจายความเสี่ยงไปยังกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนที่หลากหลาย”

มร.แมคโดนัลด์ กล่าวเสริมว่า “ขณะนี้ทางกองทุนกำลังเร่งหาโอกาสทางการลงทุนในธุรกิจไทย โดยขณะนี้ได้ปิดการเจรจากับบริษัทเอ็ม สตรีม (mStream) ผู้ผลิตสื่อดิจิตอลในต่างประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างมากในประเทศจีน ไปเรียบร้อยแล้ว”

เอ็มสตรีมได้ทำสัญญาซื้อบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของแผงนิตยสาร 4,900 แผงในห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ในกรุงเซี่ยงไฮ้ ซึ่งแผงนิตยสารดังกล่าวจะได้รับการแปลงโฉมให้เป็นแผงนิตยสารดิจิตอลที่สามารถเผยแพร่โฆษณาทางทีวี เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และส่วนแบ่งทางการตลาด

แผนในอนาคต

ในอนาคต กองทุนนี้จะให้ความสำคัญกับตลาดเอสเอ็มอีในประเทศไทย “เราเชื่อว่ามีเจ้าของกิจการเป็นจำนวนมากในประเทศไทยที่มีความคิดที่ดีและมีสินค้าที่มีคุณภาพ แต่มีเงินทุนไม่เพียงพอในการพัฒนากิจการ เราคาดหวังว่าพีค ฟิฟทีนจะช่วยระดมทุนให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ไปถึงจุดที่พวกเขาสามารถเข้าถึงกองทุนสนับสนุนอื่นๆ ได้”

มร.แมคโดนัลด์ กล่าวต่อว่า “กองทุนเอ็ม เอ ไอ แมทชิ่ง ฟันด์ (MAI Matching Fund) ซึ่งจัดตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยเงินอนุมัติกองทุนหนึ่งพันล้านบาทนั้น นับเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสอดคล้องกับกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนรูปแบบใหม่นี้ กองทุนเอ็ม เอ ไอ แมทชิ่ง ฟันด์จะร่วมลงทุนสูงสุดจนถึงอัตราร้อยละ 50 ของเงินเริ่มลงทุนในแต่ละกองทุนร่วม ซึ่งจะถือเป็นหุ้นบุริมสิทธิ์ที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง เงินสนับสนุนนี้จะช่วยขยายทุนเดิมจากนักลงทุนรายย่อย และช่วยเพิ่มผลตอบแทน แม้บริษัทจะยังไม่ได้จดทะเบียนในเอ็ม เอ ไอ เรามีความยินดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลในการจัดตั้งกองทุนเอ็ม เอ ไอ แมทชิ่ง ฟันด์นี้ขึ้น ซึ่งจะช่วยลดหนี้และเพิ่มช่องทางการหาทุนในภาวะวิกฤติระหว่างที่บริษัทกำลังพัฒนา และช่วยให้บริษัทเอสเอ็มอีก้าวไปสู่บริษัทระดับกลางได้ง่ายยิ่งขึ้น”

ชนิตร ชาญชัยณรงค์ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอ็ม เอ ไอ แมทชิ่ง ฟันด์มีเป้าหมายที่บริษัทซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตและมีวัตถุประสงค์ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอในอนาคต เรามองหาธุรกิจที่มีการเติบโตสูง พร้อมด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ”

“กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน พีค ฟิฟทีน ซึ่งกำลังหาแพ็คเกจกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนให้แก่นักลงทุน เป็นการริเริ่มซึ่งตรงกับที่เราคาดหวังไว้จากภาคเอกชน ที่สามารถดำเนินการไปด้วยกันได้” นายชนิตรกล่าว

เกี่ยวกับพีค ฟิฟทีน

พีค ฟิฟทีน คือชื่อหนึ่งของเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ ตั้งชื่อโดยทหารนักสำรวจชาวอังกฤษ เมื่อเทือกเขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก ยอดเขาทุกยอดในเทือกเขาหิมาลัยซึ่งยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการขณะนั้นได้รับการตั้งชื่อเป็นชุดตัวเลขโรมัน ในปี พ.ศ. 2399, พีค ฟิฟทีน ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นเทือกเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อระลึกถึง เซอร์ จอร์จ เอเวอร์เรสต์ นายพลนักสำรวจชาวอินเดียบุคคลแรกที่บันทึกตำแหน่งที่ตั้งของเทือกเขาในปี 2384

เกี่ยวกับเอ็มบีเอ็มจี กรุ๊ป

เอ็มบีเอ็มจี กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 ในฐานะบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวางแผนและให้คำแนะนำทางด้านการเงิน การลงทุน และกฎหมาย ให้แก่นักธุรกิจชาวต่างชาติและบริษัทต่างๆ ในทวีปเอเชีย โดยมีลูกค้ากว่า 7,600 รายในประเทศไทย ในปัจจุบัน โดยร้อยละ 65 เป็นนักธุรกิจและบริษัทจากประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย

นับตั้งแต่การดำเนินธุรกิจ เอ็มบีเอ็มจี ได้ขยายการให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมียอดการลงทุนของลูกค้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3.3 พันล้านบาท (หรือหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ) และยังคงเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน นอกจากนี้ เอ็มบีเอ็มจียังได้ร่วมมือกับ ไมดัส แคปปิตอล (หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า ไมตันออปติมัล) ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟ ให้เป็นผู้บริหารการลงทุนระดับโลกที่ดีที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา