“ไวตามิ้ลค์” เดินเครื่องแบบเต็มพิกัด ทุ่มงบฯ ก้อนโต กว่า 600 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักร ป้อนไลน์ “ไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก” พร้อมเน้นมาตรการตรวจสอบคุณภาพทุกกระบวนการเทียบเท่าระดับโลก รับอานิสงค์ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ หันดื่มน้ำนมถั่วเหลืองทดแทน
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำนมถั่วเหลือง ภายใต้ แบรนด์ ไวตามิ้ลค์ เปิดเผยว่า จากความต้องการนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในแง่ปริมาณ ส่งผลให้บริษัทฯ มองว่าตลาดนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มในปีหน้าจะเติบโต และสามารถจะมีขนาดใกล้เคียงกับตลาดนมวัวพร้อมดื่มได้ ที่สำคัญสินค้าใหม่ของบริษัทฯ “ไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก” ซึ่งออกสู่ตลาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก ทำให้บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 25 ล้านลิตรต่อปี รองรับอัตราการเติบโตของตลาดน้ำนมถั่วเหลืองในอีก 5 ปีข้างหน้า
“ไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของสินค้าในหมวดน้ำนมถั่วเหลือง เนื่องจากมีการนำธัญพืชสีดำ 4 ชนิด ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อันได้แก่ ข้าวสีนิล, ข้าวบาร์เลย์, งาดำ และมอลต์ มาผสมรวมกับน้ำนมถั่วเหลืองคุณภาพสูง ซึ่งทำให้ได้รสชาติใหม่ หลังจากเปิดตัวสินค้าไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นได้เกือบ 10% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญเรื่องของโภชนาการมากขึ้น และไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก มีรสชาติดี กลมกล่อม ถูกปากผู้บริโภค อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังได้ดำเนิน กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่เน้นการสร้างความแตกต่างให้กับภาพลักษณ์ของตัวผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ชาย ตั้งแต่วัย 18 ปีขึ้นไป” นายธรรมศักดิ์ กล่าว
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณรวมกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรในไลน์ขวดและไลน์ยูเอชที สำหรับรองรับการขยายตัวของตลาดผู้บริโภค โดยเริ่มที่การขยายกำลังการผลิตสินค้า “ไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก” เพื่อป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน ยังเน้นที่ตลาดภายในประเทศ แต่ในปี 2552 บริษัทฯ จะเริ่มส่งออกไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก รุกตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มที่ตลาดในแถบเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, พม่า, ลาว และกัมพูชา และยังส่งออกไปยังประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งนิยมรับประทานน้ำนมถั่วเหลืองมากกว่านมวัว” นายธรรมศักดิ์ กล่าวต่อ
นอกจากนี้ ไวตามิ้ลค์ ยังได้เตรียมออกไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก ยูเอชที ขนาด 180 ซีซี ในต้นปี 2552 เป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ที่มีพฤติกรรมนิยมรับประทานเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองในปริมาณที่น้อยกว่า 300 ซีซี และยังรองรับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวลง ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังให้ความสำคัญต่อการรับประทานสินค้าคุณภาพ จากเดิมที่บริษัทฯ มีสินค้าในหมวดไวตามิ้ลค์ ทูโก อิน แบล็ก สองขนาด ได้แก่ ขนาดขวดทูโก 300 ซีซี และยูเอชที 330 ซีซี
นอกเหนือจากการซื้อเครื่องจักรใหม่ในการเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว ในส่วนการผลิตนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ชนิดขวดก็ยังคงความเป็นผู้นำมานานกว่า 50 ปี โดยปัจจุบันไวตามิ้ลค์ นับเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวที่มีระบบการบรรจุนมถั่วเหลืองชนิดขวดที่รวดเร็วที่สุดในเอเชีย โดยสามารถผลิตได้กว่า 180,000,000 ขวดต่อปี เมื่อรวมกับระบบการจัดการขนส่งและจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไวตามิ้ลค์สามารถส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน นั่นย่อมหมายถึงว่า ผู้บริโภคจะได้รับน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลา
สำหรับตลาดน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ในประเทศไทยขณะนี้ นับว่ามีปริมาณการบริโภคของประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ช่องว่างทางด้านราคาระหว่างน้ำนมถั่วเหลืองกับผลิตภัณฑ์นมประเภทอื่น และวิกฤตกระแสข่าว “เมลามีน” จากประเทศจีน ตลอดจนการเพิ่มความสนใจในการรักษาสุขภาพของผู้บริโภค ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคต่างหันมาดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัวมากขึ้น โดยในสิ้นปี 51 นี้ คาดว่าตลาดนมถั่วเหลืองจะสามารถเติบโตได้ 9% ขณะที่ตลาดน้ำนมพร้อมดื่มรวมเติบโตเพียง 1% เท่านั้น ทั้งนี้ไวตามิ้ลค์เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มรวม โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 16% เพิ่มขึ้นจากต้นปี 2%
“ถึงแม้ว่าหลายคนจะมองว่าขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีขึ้นและอาจจะต่อเนื่องถึงปีหน้า แต่นมยังคงเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด พ่อแม่ยังคงต้องซื้อนมให้ลูกดื่ม ผมจึงมั่นใจเหลือเกินว่า ในปีหน้าตลาดนมถั่วเหลืองจะมีขนาดใหญ่และเติบโตจนใกล้เคียงกับตลาดนมวัวได้ นั่นหมายถึงว่า เป็นจังหวะที่ดีของไวตามิ้ลค์ในการขยายตลาดนมถั่วเหลืองให้เพิ่มขึ้นอีก การซื้อเครื่องจักรใหม่นี้จึงเป็นหนึ่งในแผนทางการตลาดเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ให้รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทั้งภายใน ประเทศและต่างประเทศทั่วโลก” ผู้จัดการใหญ่กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในเรื่องของกระบวนการตรวจสอบทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การตรวสอบคุณภาพในระหว่างกระบวนการผลิต การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยได้รับการรับรองจากหลากหลายหน่วยงานที่มีชื่อเสียงทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะยังคงรักษามาตรฐานในการคัดเลือกวัตถุดิบและการควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในระดับสูงต่อไป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ และ ปลอดภัย มั่นใจได้ 100%
