HSBC ทะลวงแผนธุรกิจในกลุ่ม Young Blood “พลิกวิกฤติการเงินเป็นโอกาสของคนมีไอเดีย”

หนุ่มสาวไฟแรงทั่วโลก เริ่มหันมาเกาะเทรนด์ทำธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการเรียนหนังสือ พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากนักธุรกิจรุ่นใหม่ ๆ มากมายที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังมีข้อมูลว่า 2 ใน 3 ของเศรษฐีทั่วโลก ล้วนก้าวมาจากการเป็นผู้ประกอบการทั้งสิ้น ในเมื่อเหรียญมี 2 ด้านเสมอ เพราะฉะนั้น “วิกฤติเศรษฐกิจ” ก็อาจเป็น “โอกาสทองของคนมีไอเดีย” ที่บ่อยครั้งเปิดทางให้ต้นกล้าใหม่แทงยอดขึ้นสู่การเป็นไม้ใหญ่ !

นี่จึงเป็นที่มาของงานเสวนาทันยุคในชื่อ “เจาะแผนธุรกิจ ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่”
ที่ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ได้จัดขึ้นต้อนรับศักราชใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเชิญนักธุรกิจ Young Blood ผู้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยมาเปิดใจเรื่องแผนธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาและคนรุ่นใหม่ได้ขยายมุมมองใหม่ ๆ ฝึกคิดแผนธุรกิจเพื่อเตรียมพร้อมเป็นผู้ประกอบการในอนาคต และเรียนรู้การฝ่าวิกฤติอย่างชาญฉลาด

เริ่มต้นทะลวงวิธีคิดเชิงธุรกิจกันที่นักธุรกิจหนุ่ม ณัฐชัย อึ้งศรีวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทพัฒนาโปรแกรมบนมือถือที่มีลูกค้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในเมืองไทยและข้ามชาติภายใต้ชื่อบริษัท “ครีเอ้” จำกัด หนึ่งในผลงานของเขาคือ เว็บไซด์สุดฮิบ “Play Ground” (www.pg.in.th) ที่มีผู้ใช้บริการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใช้บริการกันล้นหลาม ณัฐชัย บอกว่า “ มีการวิจัยว่า 2 ใน 3 ของรูปที่เราถ่ายมักจะดูคนเดียว จึงคิดบริการ Play Ground ที่ช่วยให้คนถ่ายรูปจากมือถือปุ๊บก็อัพโหลดขึ้นเว็บทันที โดยเป็นแอพพลิเคชั่นตัวแรกและตัวเดียวของโลกที่เชื่อมโยงฟังก์ชั่นของกล้องดิจิทัลบนมือถือ แผนที่ของกูเกิล และเว็บบล็อกเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ประโยชน์อย่างหนึ่งของเว็บนี้คือ เวลาไปเที่ยวหรือกินที่ไหนก็สามารถถ่ายรูปมายืนยันและแบ่งปันแผนที่ให้คนอื่นตามไปได้ด้วย”

“ผมมองว่าตลาดไอทียังโตได้อีกมาก โดยเฉพาะโปรแกรมบนมือถือและบนเว็บก็ยังไม่แพร่หลายมากนัก สำหรับผู้ที่สนใจในธุรกิจนี้ คิดว่าเราสามารถชนะคู่แข่งหรือชนะฝรั่งได้ด้วยมุมมองวิธีคิดเรื่องไลฟ์สไตล์แบบเอเชีย เพราะฝรั่งไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทย หรือคนเอเชีย ชอบคนที่น่ารัก กุ๊กกิ๊ก …แนวทางที่ครีเอ้ใช้มาตลอดคือ เมื่อคิดได้แล้ว ต้องทำให้เร็ว และต้องมี business model ด้วย ไม่ใช่สินค้าหรือบริการดูดี แต่ไม่ทำเงิน …แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องลงมือทำ”

ขณะที่อีกหนึ่งนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ นายณัทธร รักษ์ชนะ เจ้าของธุรกิจเครื่องหอมอันเลื่องชื่อ Karmakamet ที่มีจุดเริ่มต้นที่จตุจักร จนขึ้นห้างสุดโมเดิร์นของไทย และขจรขจายไปในอีกหลายประเทศเอเชีย และกำลังจะไปถึงยุโรป ได้สะท้อนแนวการทำธุรกิจแบบพอเพียง มีความสุขและยั่งยืนว่า

“เกิดจากความหลงใหลส่วนตัวในเรื่องของกลิ่น ว่าเป็น factor หนึ่งที่ไม่ลบออกจากความทรงจำ และยังผูกพันกับเรื่องของความทรงจำ เราเห็นว่ามันมีช่องว่างอยู่เพราะตั้งแต่ตื่นเข้า ขับรถ ทำงาน นอน ก็ยังมีเรื่องของกลิ่นอยู่ ธุรกิจเริ่มต้นที่จตุจักร ซึ่งเป็นตลาดที่ยากมาก เพราะคนเดินมีตั้งแต่รวยถึงจน และยังมีคนต่างวัฒนธรรมหลากหลายมาก แต่ถึงยากก็สนุกและท้าทายจนวันนี้เรามี shop ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และขยายไปสู่ร้านชา และเปิด Aromatic Hotel ที่สมุยด้วย ..ทุกวันนี้ เราก็ยังเน้นทำธุรกิจให้เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป มีเป้าหมายสร้างความมั่นคงให้ชีวิตตัวเอง และต้องการให้ลูกน้องมีชีวิตที่มั่นคง …ผมเชื่อว่าการทำธุรกิจด้วยความใส่ใจและระมัดระวังทำให้เราอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป”

ด้านสาวเก่ง หัวใจแกร่ง คุณเล็ก-อุทัยวรรณ สุขพรรณพิมพ์ แห่งร้านเช่าหนังสือแบบ delivery “ปันกัน” ธุรกิจที่พลิกวิธีคิดธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ไปสู่การเดินหน้าเข้าหาผู้เช่าถึงที่ และสร้างระบบการปันหนังสือให้กับคนหลายคนอ่าน สมาชิกจึงได้หนังสือใหม่ที่มีราคาถูก

“เป็นคนชอบอ่านนิตยสาร จึงเกิดแนวความคิดว่าหากนำไปหมุนเวียนให้คนอื่นได้อ่านแทนที่ซื้อมาอ่านครั้งเดียวแล้วทิ้ง ก็เท่ากับไม่เพียงช่วยลดโลกร้อน แต่ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับทุกคนอีกด้วย ทำให้ได้อ่านหนังสือที่ชื่นชอบ ในราคาที่ประหยัด แถมยังมีหัวหนังสือให้เลือกอ่านได้มากกว่าที่เราจะซื้ออ่านเองตามปกติอีกด้วย” ปรากฏว่าร้าน “ปันกัน”เริ่มขยายตัวออกไปจากการบอกกัน “ปากต่อปาก” โดยลูกค้าหลัก ๆ ของร้านจะเป็นธุรกิจบริการ เช่น ร้านทำผม, ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, สปา ไปจนถึงเจ้าของบ้านที่รักการอ่านหนังสือนิตยสาร โดยทั้งหมดล้วนได้รับความคุ้มค่าคุ้มราคาจากบริการนี้”

คุณเล็กได้ฝากข้อคิดให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจการทำธุรกิจว่า “ไม่ว่าจะเรียนหนังสือหรือทำงาน ควรจะมีแผนงานที่จะคิดบนกระดาษหรือในสมอง และมีสติ สิ่งสำคัญคือความตั้งใจทำกับสิ่งที่รัก สิ่งนั้นก็จะสำเร็จตามมาเอง”

หนุ่มเมืองจันท์ สรกล อดุลยานนท์ นักเขียนชื่อดัง ซึ่งได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่เขาได้สัมผัสจากนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากมาย เล่าว่า “จากประสบการณ์ที่ได้สัมภาษณ์นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักเริ่มธุรกิจจากความลุ่มหลงในสิ่งนั้น แล้วคนกลุ่มนี้ก็จะเริ่มถาม ถาม ถาม และไม่ยอมหยุดหาค้นหาคำตอบในเรื่องที่สนใจนั้น ๆ จนกระทั่งสามารถเริ่มธุรกิจได้ในที่สุด …และก็มีบ่อยครั้งที่นักธุรกิจดัง ๆ ก็ได้การจุดประกายไอเดียมาจากสิ่งรอบตัว ใกล้ตัว แล้วนำมาปรับใช้กับทุกเรื่องในงานของเขา”

สำหรับงานเสวนา “เจาะแผนธุรกิจ ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” นี้ จัดขึ้นภายใต้โครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” ที่โรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดและการเขียนแผนธุรกิจ ผ่านการฝึกอบรมการเขียนแผนธุรกิจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกับเปิดกว้างให้นักธุรกิจและผู้สนใจเข้าฟังด้วย โดยมีผู้ให้ความสนใจร่วมงานอย่างคับคั่ง

ในเมื่อ “เหรียญมี 2 ด้าน” เสมอ ไม่แน่ว่าสถานการณ์ที่หลายคนมองว่า “วิกฤติ” ในขณะนี้ อาจกลายเป็น “โอกาสครั้งสำคัญ” ของ “คุณ” ก็ได้..