ตลท. หนุนยกระดับมาตรฐานวิชาชีพบัญชี สร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จับมือสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ พัฒนาวิชาชีพบัญชี มุ่งปรับปรุงมาตรฐานเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน โดยตั้งเป้าให้บริษัทใน SET50 เริ่มใช้มาตรฐานการบัญชีสากล ภายในปี 2554

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และศาสตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชีฯ ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือการพัฒนาวิชาชีพบัญชี

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าในภาวะที่ตลาดทุนทั่วโลกมีการแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ลงทุน ความเชื่อมั่นในการลงทุนนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดทุนมีความน่าสนใจ ดังนั้น จึงเกิดกระแสการผลักดันให้ใช้มาตรฐานการบัญชีสากล หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) ในการจัดทำรายงานทางการเงินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนที่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของบริษัทในประเทศต่าง ๆ ได้สะดวก ส่งเสริมให้มีการลงทุนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น

“ตลาดทุนในกว่า 100 ประเทศ ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการบัญชีสากล ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการบัญชีสากลเช่นกัน จึงได้ให้การสนับสนุนสภาวิชาชีพบัญชีฯ ในการพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี ซึ่งจะส่งเสริมให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก” นายปกรณ์กล่าว

ด้านศาสตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชีฯ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “สภาวิชาชีพบัญชีฯ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกถึง 65,000 คน มีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชีของไทยให้มีมาตรฐานและคุณภาพระดับสากล โดยความร่วมมือและการสนับสนุนเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาด้านต่าง ๆ อาทิ มาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี การประกันคุณภาพการปฏิบัติงานสอบบัญชี และการเผยแพร่ความรู้ทางบัญชี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป โดยสภาวิชาชีพบัญชีฯ และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนร่วมกันที่จะให้บริษัทจดทะเบียนใน SET50 ปฏิบัติใช้มาตรฐานการบัญชีสากลในปี 2554”

ดร. วีรวัฒน์ กาญจนดุล อุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่าสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของบริษัทจดทะเบียนในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีไทย และได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสภาวิชาชีพบัญชีฯ มาอย่างต่อเนื่อง “บทบาทที่สำคัญของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย คือการเผยแพร่ข้อมูลให้กับบริษัทจดทะเบียนได้รับทราบถึงแนวโน้มของการพัฒนามาตรฐานบัญชีของไทย และเปิดรับฟังความเห็นรวมทั้งข้อเสนอแนะจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อนำไปหารือกับสภาวิชาชีพบัญชีฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุน” ดร. วีรวัฒน์กล่าว

ความร่วมมือในการพัฒนาวิชาชีพบัญชีในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเสริมสร้างคุณภาพงานสอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยส่งผลให้รายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาตลาดทุนให้มั่นคงในระยะยาว