‘พีเจ้น’ ยอดขายฉลุยสวนวิกฤต เตรียมแตกไลน์ธุรกิจใหม่บุกตลาดอย่างต่อเนื่อง

มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล ฉลองความสำเร็จยอดขายโต 15% วางแผนรุกตลาดต่างหวัด จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ หวังสร้างเครือข่ายบริการให้ครบวงจร พร้อมเตรียมแผนสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ และปรับแพ็จเกจจิ้งใหม่ให้สอดรับกับนโยบาย Global Visual Identity ให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วโลกกลางปี 52 ตอกย้ำภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการเด็กและทารกอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปีโต 10 %

นายนิรามัย ลักษณานันท์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กแบรนด์ “Pigeon” เปิดเผยว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมืองภายในประเทศที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้ภาพรวมของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา กลับมีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มระดับกลางถึงบนที่ยังคงมีเกณฑ์การเติบโตที่ดี เนื่องจากสินค้าแม่และเด็กเป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ สอดคล้องกับแผนการตลาดที่เป็นการสร้างแบรนด์ Pigeon ให้เข้าไปอยู่ในใจคุณแม่ พร้อมกับการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้สินค้าของ Pigeon ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มในระดับพรีเมียม และมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับได้ทุกความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รุกจัดกิจกรรมเดินสายควบคู่กับการจัดกิจกรรมทางการตลาดใน 4 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2551 ที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้ คือ เติบโต 15% จากปี 2551 โดยบริษัทฯ มีตัวเลขยอดขายรวม 348 ล้านบาท ซึ่งยอดขายหลักมาจาก ขวดนมและจุกนม, ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิว พีเจ้น เบบี้ ไวพส์, แผ่นซับน้ำนม และจากกลุ่มสินค้านำเข้า อาทิ เครื่องปั๊มน้ำนม, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทารก เป็นต้น

“ทั้งนี้ บริษัทฯ แม่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้วางนโยบายที่เป็นการสร้างแบรนด์ Pigeon ให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง วางยุทธศาสตร์ Global Visual Identity ที่จะทำให้สินค้าและบรรจุภัณฑ์มีลักษณะเดียวกันทั่วโลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2551 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ วางแผนรองรับแผนดังกล่าวในปีนี้ เพื่อให้ Pigeon เป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนในแง่ของสินค้าที่ส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยอย่างแท้จริง และช่วยสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองยิ่งขึ้นผ่านสินค้าและบริการของเรา ซึ่งเป็นปณิธานสูงสุดของบริษัท” นายนิรามัย กล่าว

นายเมธิน เลอสุมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายการดำเนินงานของบริษัทในปี 2551 นี้ว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้สัดส่วนลูกค้าในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เป็น 50:50 จากเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา Pigeon มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วน 70:30 โดยแผนดังกล่าวจะเป็นแผนระยะยาวที่บริษัทฯ วางไว้ 3-5 ปี เนื่องจากพฤติกรรมของคุณแม่ในต่างจังหวัดยังมีความแตกต่างจากคุณแม่ในกรุงเทพอยู่มาก ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าแนวทางในการใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ Pigeon นี้ จะนำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในต่างจังหวัดมีความโดดเด่น และเชื่อว่าคุณแม่ยังคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ด้วยงบการตลาดกว่า 25 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำภาพความเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กและทารก” ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้ จะเน้นไปที่การขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ ผ่านสินค้า พีเจ้น เบบี้ ไวพส์ และรักษาฐานเดิมในกรุงเทพฯ รวมถึงขยายกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ (Potential Customers) ในต่างจังหวัดให้หันมาใช้สินค้าของเราเพิ่มมากขึ้น ผ่านกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจใหม่เพิ่มเติมในอนาคต โดยจะเป็นหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตสินค้า หรือผู้ประกอบการที่ต้องการขยายฐานธุรกิจ ซึ่งบริษัทจะรับหน้าที่ทั้งผู้จัดจำหน่ายสินค้า และผู้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดให้ เป็นการใช้จุดแข็งที่มีอยู่สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2552 นี้