มาร์ช (Marsh) บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยและที่ปรึกษาความเสี่ยงชั้นนำของโลกออกโรงเตือนผู้ประกอบธุรกิจใน ประเทศไทยเกี่ยวกับกฎหมายความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย (Act on Liability for Injury from Unsafe Products) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
ในการประชุมหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ มีบริษัทชั้นนำ เข้าร่วมประชุมมากมาย โดยคุณโรบิน อาร์มสตรอง ซีอีโอบริษัท มาร์ช พีบี จำกัด (Marsh PB Co., Ltd.) ได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่บริษัทต่างๆ อาจต้องเจอ รวมถึงทางออกของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
“การบังคับใช้กฎหมายใหม่ดังกล่าวเป็นก้าวย่างที่สำคัญของประเทศไทยในการพัฒนาคุณภาพของผู้ผลิตสินค้าและการคุ้มครองผู้บริโภคให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล” คุณอาร์มสตรอง กล่าว
“อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวอาจทำให้หลายบริษัทประสบปัญหาโดยไม่รู้ตัว มาร์ชจึงขอแนะนำให้บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตและบริษัทผู้ส่งออกตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘เรามีกรมธรรม์ประกันความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์ หรือยัง’ และ ‘เรามียุทธศาสตร์การเรียกคืนสินค้าที่ดีพอหรือยัง’”
กฎหมายใหม่ฉบับดังกล่าวครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่ สินค้าเพื่อการอุปโภคและบริโภค อาหาร เครื่องปรุงอาหาร วัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบ ยา และสินค้าเพื่อสุขภาพ
“ความเสี่ยงที่เด่นชัดที่สุดคือ ไม่ว่าบริษัทใดก็อาจถูกฟ้องได้โดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม กรมธรรม์ประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์จะช่วยบรรเทาภาระของบริษัทที่ถูกฟ้องร้องได้” คุณอาร์มสตรอง กล่าว
กรมธรรม์ประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย แต่กฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้จะทำให้กรมธรรม์ประเภทนี้มีความสำคัญมากขึ้นในแง่ของการลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัทจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
“ผู้ทำธุรกิจในประเทศไทยควรพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงของบริษัทอย่างละเอียดและควรพิจารณาถึงการมีกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อลดความเสียหายอันเกิดจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศที่เฟื่องฟูจนทำให้ผลิตภัณฑ์ของไทยแพร่หลายไปทั่วโลก บริษัทต่างๆ ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การบริหารความเสี่ยงด้านการเงินเป็นไปอย่างรัดกุมก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้”
กรมธรรม์ประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์
กรมธรรม์ประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์จะช่วยคุ้มครองธุรกิจของท่านจากความรับผิดตามกฎหมายอันเนื่องมาจากความบกพร่องของผลิตภัณฑ์และส่งผลให้ผู้บริโภคบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือได้รับความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ซึ่งความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจเกิดจากขั้นตอนการออกแบบ ผลิต หรือการให้ข้อมูลการใช้ที่ผิดพลาด
โดยปกติกรมธรรม์ประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์นี้จะระบุวงเงินชดเชยสูงสุดต่อระยะเวลาเอาประกันภัย 12 เดือน และกรมธรรม์ดังกล่าวจะถูกออกแบบให้เหมาะสมตามลักษณะธุรกิจของแต่ละบริษัท นอกจากนี้กรมธรรม์ดังกล่าวยังครอบคลุม ค่าใช้จ่ายเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี ค่าทนาย ค่าศาล และค่าสินไหมทดแทนสำหรับคู่กรณี แต่ทั้งนี้จะไม่ครอบคลุมค่าปรับเพิ่มเติมจากการลงโทษของศาล
เกี่ยวกับ มาร์ช
มาร์ช เป็นบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยและเป็นบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงชั้นนำของโลก มีพนักงานกว่า 24,000 คนที่พร้อมให้คำแนะนำและให้บริการทางธุรกิจกับลูกค้าในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มาร์ชเป็นบริษัทในเครือมาร์ช แอนด์ แมคเลนแนน คอมพานีส์ (Marsh & McLennan Companies หรือ MMC) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผู้ให้บริการอย่างมืออาชีพในระดับโลกและมีพนักงานกว่า 55,000 คน และมีผลประกอบการกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี นอกจากนั้นแล้ว MMC ยังเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท กาย คาร์เพนเทอร์ (Guy Carpenter) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยต่อ, บริษัท โครลล์ (Kroll) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง, บริษัท เมอร์เซอร์ (Mercer) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการ บริหารทรัพยากรบุคคล รวมถึงให้บริการและคำปรึกษาด้านการเงิน และ บริษัท โอลิเวอร์ ไวแมน (Oliver Wyman) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจ ทั้งนี้หุ้นของ MMC ได้ถูกจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ชิคาโก้ และลอนดอน ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ http://www.mmc.com หรือ http://www.marsh.com
ติดต่อ: วิลเลียม ซาร์เจนท์
โทร: +65-8139-7400
อีเมล: william.sargent@marsh.com
