โครงการด้านสิ่งแวดล้อมของดีเอชแอล ได้รับการยอมรับจากองค์กรพิทักษ์สภาพภูมิอากาศชั้นนำของโลก

ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ได้รับการยอมรับจาก Climate Counts องค์กรที่ไม่มุ่งหวังผลกำไร ชั้นนำ ซึ่งทำงานร่วมกับ Clean Air-Cool Planet จัดอันดับให้ดีเอชแอลเป็นบริษัทที่นำหน้าในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เหนือองค์กรรายใหญ่อื่นๆ ในอุตสาหกรรม ลอจิสติกส์ การพิจารณาดังกล่าวเป็นผลจากการประเมินบริษัทต่างๆ ที่มีระบบการตรวจสอบ การลดผลกระทบ ตลอดจนการรายงานผลกระทบจากการทำธุรกิจที่มีต่อสภาพภูมิอากาศ ซึ่งผลปรากฏว่า ดีเอชแอล มีคะแนนในหมวดหลักๆ ทั้งหมดสูงกว่าบริษัทรายใหญ่อื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมลอจิสติกส์เหมือนกัน โดย ได้รับ 67 คะแนนจากคะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน

ในด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีประสิทธิภาพ Climate Counts พบว่า “ดีเอชแอลมีเป้าหมายที่แน่วแน่และชัดเจนในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการเฝ้าสังเกตกิจกรรมขององค์กรที่ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง และมุ่งลดผลกระทบที่มีต่อภาวะโลกร้อน (เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ climate footprint) โดยเน้นลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน และโครงการอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบโลกร้อน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ในโครงการดังกล่าว ตลอดจนส่งเสริมโครงการต่างๆ ที่รณรงค์ให้พนักงานตระหนักถึงสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะ”

มร. จอห์น มัลเลน ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดเผยว่า “การที่โครงการปกป้องสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัทของเรา ได้รับการยอมรับในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทราบว่า ดีเอชแอลเป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์เพียงรายเดียวที่สามารถปฏิบัติตามข้อบังคับในหมวดหลักๆ ได้มากถึงสองในสาม ภายในปีแรกที่เราเริ่มโครงการ GoGreen อย่างครบวงจร

ในด้านการขนส่งทางบกนั้น ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงมาตรฐานการปล่อยก๊าซของยานพาหนะ โดยมีการทยอยเปลี่ยนยานพาหนะชนิดเดิมที่ใช้เชื้อเพลิงแบบปกติ และขณะนี้ยังมีการทดลองใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือกชนิดอื่นๆ เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพ นอกจากนี้ ดีเอชแอลยังร่วมมือกับลูกค้าในการหันมาใช้การขนส่งระบบราง และขนส่งทางน้ำ ซึ่งเป็นช่องทางการขนส่งที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำหนักของสินค้าที่รับบรรทุก

ด้านนางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “สำหรับกิจกรรมของ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย นั้น เรามีการดำเนินการหลายอย่างที่สอดคล้องกับสิ่งที่ดีเอชแอลกำลังทำกันในระดับโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยน บัลลาสต์ทั้งหมดที่ศูนย์กระจายสินค้าดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิฯ จากเดิมที่เป็นบัลลาสต์แบบธรรมดา มาเป็นบัลลาสต์แบบประหยัดไฟ ซึ่งผลที่ได้คือ เราสามารถลดการใช้พลังงานได้สูงถึงร้อยละ 30”

“นอกจากนี้ เรายังใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แทนการใช้รถบบรรทุกขนาดเล็ก ในการขนส่งเอกสารและชิปเม้นท์จากศูนย์กระจายสินค้าไปยังสำนักงานศุลกากร บริเวณเขตปลอดอากร (Free Zone) ในส่วนของรถตู้ที่ใช้ในการให้บริการของ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ส่วนใหญ่เป็นรถที่เติม B5 (น้ำมันไบโอดีเซล 5%) ส่วนที่เหลือเติมก๊าซธรรมชาติ (CNG) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้มากที่สุด” นางชนัญญารักษ์ กล่าวเสริม

สำหรับ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส แล้ว วิธีการปรับปรุงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเครื่องบิน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือการลงทุนเปลี่ยนเครื่องบินรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ซึ่งดีเอชแอลค่อยๆ นำเครื่องบินรุ่นใหม่มาแทนเครื่องบินรุ่นเก่าที่ให้บริการในเส้นทางบินระหว่างทวีป เช่น การใช้เครื่องบินโบอิ้ง B747-400F จำนวน 6 ลำ ในเส้นทางบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกโดยร่วมกับ โพลาร์ แอร์ คาร์โก และในปี 2552 นี้ ดีเอชแอลจะเริ่มใช้เครื่องบินบรรทุกสินค้าแบบใหม่ B777-200LRF ที่มีลำเครื่องกว้าง ในเส้นทางระหว่างยุโรปและเอเชีย ในนามสายการบินแอโรลอจิก (AeroLogic) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างดีเอชแอลกับลุฟท์ฮันซา คาร์โก นอกจากนี้ ดีเอชแอลได้ริเริ่มทดลองวิธีการเพิ่มความหนาแน่นในการบรรทุกของเครื่องบินขนส่งสินค้า โครงการดังกล่าวจะนำไปสู่การใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เราสามารถลดปริมาณเที่ยวบินลงได้

ด้านการพัฒนาการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในส่วนของอาคารนั้น ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาวิธีลดการใช้พลังงาน โดยได้มีการตรวจวัดเรื่องแสง ความร้อน และการควบคุมอาคารในส่วนของพื้นที่นำร่อง นอกจากนี้ ดีเอชแอลยังได้ซื้อพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ที่เป็นไปได้

ทั้งนี้ Climate Counts ได้ให้คะแนนดีเอชแอลตามหลักเกณฑ์ 22 ข้อ ใน 4 หมวดหลัก ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การลดปริมาณ นโยบาย และการรายงานผล โดยดีเอชแอลได้รับรางวัลสำหรับการตรวจวัดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2545 การประเมินผลให้ความสำคัญกับการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ของดีเอชแอลในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การลงทุนในโครงการที่ใช้พลังงานหมุนเวียน และการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ตลอดจนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการขนส่งสินค้า นอกจากนั้นการส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนข้อมูลสาธารณะอย่างละเอียดของดีเอชแอลในด้านความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาภาวะโลกร้อนก็ได้รับการยอมรับด้วยเช่นกัน

เมื่อเทียบกับผลคะแนนในปีที่ผ่านมา ดีเอชแอลได้คะแนนเพิ่มสูงขึ้นมากเนื่องจากการพัฒนาในความพยายามด้านการวัดผล การกำหนดเป้าหมายการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การรายงานผลทั้งในส่วนของปริมาณก๊าซที่ลดลง และการมีส่วนร่วมมากขึ้นในการออกเสียงต่อนโยบายเชิงบวกที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การได้รับการยอมรับถือเป็นการเปิดศักราชของปีนี้ซึ่งนับเป็นปีที่ยากสำหรับธุรกิจ โดย มร. มัลเลน กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถึงแม้ว่าเราต้องเผชิญกับความท้าทาย ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายของปี 2552 ทั้งในด้านการขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางบก และด้านอสังหาริมทรัพย์”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ GoGreen กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซด์ www.dpwn-gogreen.com

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Climate Counts และผลคะแนน กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.climatecounts.org