บ๊อช ปรับแผนรุกตลาดระบบรักษาความปลอดภัย

บ๊อช เดินหน้าปรับแผนรุกตลาดระบบรักษาความปลอดภัย มั่นใจยังโตต่อเนื่อง เหตุเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน เตรียมส่ง 3 สินค้า CCTV ,ระบบเตือนการบุกรุก และ Fire Alarm เจาะตลาดบ้าน ร้านค้า เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย เหมาะกับคนสูงอายุ ด้าน Pro sound ให้ หจก.ภัทร รุ่งโรจน์ เป็นผู้แทนจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ EV

ว่าที่ร้อยตรีสมาน ทาโคตร ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยถึงแผนการทำตลาด และขยายตลาดของผลิตภัณฑ์ระบบ รักษาความปลอดภัย ในปี 2552 ว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจในตลาดโลกจะมีปัญหา แต่ในส่วนของผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยน่าจะยังโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ความปลอดภัยในเรื่องของชีวิตและทรัพย์สินต้องยิ่งให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของบ๊อชเองได้มีการปรับตัวในส่วนของการตลาดเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และตลาด โดยกลุ่มธุรกิจระบบโทรทัศน์วงจรปิดหรือ CCTV บ๊อชยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีระดับสูง แต่จะขยายไลน์ไปจับกลุ่มผู้ใช้โดยตรงด้วยการจัดทำแพ็คเกจ CCTV ที่เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านพักอาศัย ออฟฟิสขนาดกลางถึงเล็ก หรือร้านค้า ร้านอาหารทั่วไป โดยจัดพิเศษขึ้น 3 แพ็คเกจ ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ราคาอยู่ระหว่าง 49,900 – 59,000 บาท ซึ่งแพ็คเกจดังกล่าวนี้มีจำหน่ายที่โฮมโปร และ ตัวแทนจำหน่ายบ๊อชทั่วประเทศ

ในส่วนของระบบเตือนการบุกรุก บ๊อชได้ทำการขยายช่องทางการขายไปยังกลุ่มโมเดิร์นเทรด อาทิ โฮมโปร โฮมเวิร์ค และได้มีการทำ Roadshow ตามสาขาต่างๆเพื่อโปรโมทตัวสินค้าระบบเตือนการบุกรุกทั้งแบบไร้สาย ซึ่งเหมาะกับบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว และแบบเดินสายซึ่งเหมาะกับบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานให้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะชุดเตือนการบุกรุกแบบไร้สาย ลูกค้าสามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้

สำหรับระบบเตือนอัคคีภัย หรือ Fire Alarm ได้เจาะตลาด สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ด้วยการร่วมมือกับทางบริษัทแปซิฟิค เทคโนโลยี ดิสตริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของระบบเตือนอัคคีภัยรุ่น FP10X พร้อมจัดชุดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการทำ Road Show และรณรงค์ให้ติดระบบเตือนอัคคีภัยในสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน เพื่อนให้คำแนะนำกรณีเกิดเพลิงไหม้ จะสามารถป้องกันตัวได้อย่างไร ซึ่งราคาแพ็คเกจจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งถือว่า เหมาะกับ ออฟฟิสขนาดกลางถึงเล็ก ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานกวดวิชาต่างๆ เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังเตรียมจัดสัมนาเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส? และการบรรยายในหัวข?อเรื่อง”บทสรุปเหตุการณ?เพลิงไหม? สถานท่องเที่ยวกลางคืน” , “กฏหมายควบคุมอาคาร และบทบัญญัติข?อบังคับของสถานบันเทิง” ให?กับผู?ประกอบการ ตัวแทนจําหน?าย และผู?ที่สนใจทุกท?าน ณ ห?อง การะเวก โรงแรมเรดิสัน ในวันที่ 25 มีนาคม 2552 นี้

นอกจากนี้ ในส่วนของไลน์สินค้าใหม่อย่างระบบเสียง Professional sound บ๊อชได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายปี 2551 ที่ผ่านมา และล่าสุดบ๊อชได้แต่งตั้ง หจก.ภัทร รุ่งโรจน์ เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ EV ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ใช้ในงานคอนเสิร์ต ขนาดเล็ก – ใหญ่ ระบบเสียงในหอประชุม โรงมหรสพ สนามกีฬา และสถานบันเทิงต่างๆ โดย หจก.ภัทร รุ่งโรจน์ จะเป็นทั้ง โชว์รูมจำหน่าย ติดตั้ง และศูนย์บริการซ่อม ครบวงจร ตลอด 24 ชั่วโมง

“เราสามารถแบ่งตัวเลขภาพรวมของตลาดเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย ได้แก่ ระบบโทรทัศน์วงจรปิด ระบบเตือนการบุกรุก ระบบเตือนอัคคีภัย ระบบควบคุมการเข้า-ออก ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ ซึ่งตัวเลขภาพรวมของตลาดกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท อีกส่วนคือระบบสื่อสาร ได้แก่ ระบบชุดประชุม ระบบเสียงประกาศสาธารณะ ระบบระบบเสียง Professional Sound ซึ่งตัวเลขภาพรวมของตลาดอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาทเช่นกัน “ ว่าที่ร้อยตรีสมาน กล่าว

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2550-2551 ผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย ของบ๊อชมีอัตราการเติบโตดีมาก โดยเฉพาะโทรทัศน์วงจรปิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตของยอดขายมากที่สุด ปัจจัยสำคัญมาจากการตื่นตัวในเรื่องการปรับปรุงและเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง เนื่องจากผู้บริโภคเล็งเห็นความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์คุณภาพกับผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่บ่อยครั้ง ไม่สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ หรือไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนจนสามารถนำไปดำเนินคดีได้ ทำให้การลงทุนเกือบจะสูญเปล่า ซึ่งบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้ทำการติดตั้งผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย ของบ๊อช ในหลายๆ หน่วยงานที่สำคัญ อาทิ โครงการสนามบินนานาชาติ/ อาคารสินค้าปลอดภาษี , ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ , รวมถึงการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ และ สำนักงานแห่งใหม่ของบริษัทการบินที่มีชื่อ ซึ่งถือเป็นสำนักงานที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดระบบ IP ที่ใหญ่ที่สุดใน เอเชียแปซิฟิค