ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าเพิ่มบัตรเดบิตอีก 2.5 ล้านใบ ออกบัตรใหม่ K-My Debit Card บัตรเดบิตออกแบบเองได้เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย มุ่งกลุ่มลูกค้าอินเทรนด์ชอบความแปลกใหม่ พร้อมความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตแทนเงินสด เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มอีกกว่า 70%
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารกสิกรไทยจะรุกตลาดบัตรเดบิตมากขึ้น โดยตั้งเป้าในการเพิ่มบัตรใหม่ 2.5 ล้านใบ จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 4 ล้านใบ โดยจะมีการออกบัตรรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งล่าสุดธนาคารฯ เตรียมออก K-My Debit Card บัตรเดบิตรูปแบบใหม่ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้ภาพที่ชื่นชอบ ทั้งภาพตนเอง ภาพคนที่รัก หรือจะออกแบบภาพหรือลายบนบัตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองได้เต็มทั้งใบ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2552 นี้
ลูกค้าที่มีบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันของธนาคารฯ สามารถทำบัตร K-My Debit Card ได้ที่ จุดออกแบบบัตรที่สาขา พร้อมรับบัตรได้ทันที ใน 8 สาขา ได้แก่ สาขาสยามสแควร์ สาขาย่อยเซ็นทรัล ลาดพร้าว สาขาย่อยจามจุรีสแควร์ สาขาเออร์บิน สแควร์ (ประชาชื่น 12) สาขาซีคอนสแควร์ 1 สาขาย่อยเดอะมอลล์ บางกะปิ สาขาย่อยฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสาขาย่อยเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า หรือเลือกออกแบบหน้าบัตรเดบิตของตัวเองผ่านทางเว็บไซต์ www.KBankcard.com แล้วรับบัตรที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาใดก็ได้ทั่วประเทศ ภายหลังจากที่ลูกค้าสั่งบัตร 7 วัน โดยสามารถเลือกภาพหน้าบัตรได้จากภาพโปรดส่วนตัว ภาพจากคลังภาพ (Image Library) ที่ทางธนาคารเตรียมไว้ หรือถ่ายรูปใหม่จากเว็บแคมที่สาขาเพื่อให้ได้รูปที่ต้องการทันที
K-My Debit Card สามารถใช้รูดชำระค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่มีเครื่องหมายวีซ่าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมงกว่า 3.5 ล้านแห่ง ในวงเงินสูงสุดวันละ 100,000 บาท เบิกถอนเงินสดจากเครื่องเอทีเอ็มได้สูงสุดวันละ 200,000 บาท หรือโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มด้วยวงเงินสูงสุดถึง 1,000,000 บาทต่อวัน
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตร K-My Debit Card สามารถสมัครใช้บริการ K-mAlert บริการรับข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ (SMS) เพื่อทราบยอดการใช้จ่ายจากบัตรได้ฟรี หรือบริการ K-eMail Statement เพื่อรับสรุปยอดการใช้จ่ายผ่านทางอีเมล์ ทุกสัปดาห์ ทุก 2 สัปดาห์ หรือทุกเดือน
นายอำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า K-My Debit Card จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีบัตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสามารถเลือกรูปแบบและดีไซน์รูปแบบบัตรได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถใช้บัตรดังกล่าวในการซื้อสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ ซึ่งในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าจะเพิ่มการใช้บัตรเดบิตในการซื้อสินค้าอีกกว่า 70% หรือมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากกว่า 17,000 ล้านบาท
