ธนาคารเกียรตินาคิน คงเป้าสินเชื่อที่ 0-5%

“ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” คงเป้าสินเชื่อที่ 0-5% หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 52 มีกำไรสุทธิ 379 ลบ มองเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง เร่งปรับองค์กรและการบริการรองรับการแข่งขัน หลังประสบความสำเร็จจากควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ โดยเอ็นพีแอลของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักลดลงมาอยู่ที่ 2.2% จากสิ้นปีอยู่ที่ 2.5% และเตรียมโปรโมชั่นพิเศษเงินฝากประจำและออมทรัพย์ ร่วมงาน Money Expo

นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินของธนาคารฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 1 ปี 2552 มีกำไรสุทธิ 379 ล้านบาท ลดลง 37.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2551 เนื่องจากมีการขยายฐานเงินฝากอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อชะลอตัวลงตามนโยบายที่จะเน้นคุณภาพสินทรัพย์ และขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวังและรอบคอบ จากความสำเร็จในการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ ปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีจำนวน 7.08% ของสินเชื่อรวม (คำนวณตามเกณฑ์ ธปท.) ลดลงจาก 7.15% ณ สิ้นปี 2551 ส่วนทางด้านสินทรัพย์มียอดรวมอยู่ที่ 115,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 ประมาณ 0.4% โดยธนาคารฯ มีการให้สินเชื่อและลูกหนี้รวม 80,386 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างเงินฝากนั้น ปัจจุบัน ธนาคารฯ มีเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ อยู่ที่ 97,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนราว 0.1% โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ที่ 15.34% จากเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดคือ 8.5% นอกจากนี้ ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2551 ไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 1 บาท และคงเหลือจ่ายปันผลงวด 1 กรกฎาคม – 30 ธันวาคม 2551 จำนวน 0.75 บาท/หุ้น ส่งผลให้ปีนี้ธนาคารฯ จ่ายเงินปันผลทั้งปีกว่า 49% ของกำไรสุทธิประจำปี 2551”

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงประมาณการทางการเงินในปี 2552 ตามเดิม โดยตั้งเป้าควบคุมคุณภาพของสินทรัพย์ ส่วนการเติบโตของสินเชื่อนั้น คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0-5% โดยในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะเติบโตได้ในระดับที่ทรงตัว และขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 7 สาขา จากเดิม 37 สาขา เป็น 44 สาขาในสิ้นปี 2552

ด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีมูลค่า 56,397 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากสิ้นปี 2551 ตามปริมาณยอดขายรถยนต์ในตลาดที่มีจำนวนลดลง โดยธนาคาร มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 2.2% ของสินเชื่อเช่าซื้อรวม ลดลงจาก 2.5% ณ สิ้นปี 2551 ซึ่งแผนงานของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปี 2552 นี้ จะเน้นการจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรและเต็นท์รถยนต์ที่เป็นคู่ค้า จัดกิจกรรมไปตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ งาน “ธงฟ้า รถมือสอง” รวมถึงมหกรรมยานยนต์ในแต่ละภูมิภาค ตลอดปี 2552

นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนงานด้านเงินฝากและการตลาดว่า “ในภาวะที่ดอกเบี้ยเงินฝากลดลง สายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ได้หันมาเน้นในเรื่องการพัฒนาระบบการให้บริการ และเร่งปรับโครงสร้างกลุ่มลูกค้าเงินฝากเพื่อขยายฐานลูกค้า ตลอดจนใช้กลยุทธ์ขยายสาขาในจุดที่มีศักยภาพในการระดมเงินฝาก เพื่อรองรับการแข่งขันและการกระจุกตัวของเงินฝากที่สำนักงานใหญ่ และสาขาอโศก ทั้งนี้ ในปี 2552 ที่ธนาคารจะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 7 สาขา นั้น จุดยุทธ์ศาสตร์หลักของเงินฝากจะอยู่ที่ เยาวราช สี่พระยา และวิภาวดีรังสิต เป็นต้น ที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดให้บริการช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่องทางบริการ KK ATM และ KK e-Banking โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดให้บริการ KK e-Banking (บริการเช็คยอดบัญชีผ่านทางอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าทั่วไป) และในไตรมาส 2 ของปี จะเพิ่มบริการ KK Alert หรือการแจ้งเตือนธุรกรรมทางการเงินผ่าน SMS ซึ่งจะเป็นบริการนวัตกรรมใหม่ ที่จะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น และเป็นการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการสื่อสาร”

สำหรับงาน MONEY EXPO วันที่ 7-10 พฤษภาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้น กลุ่ม เกียรตินาคิน ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินและ บล.เกียรตินาคิน เตรียมเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมคุณภาพและบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าตลอดมา โดยลูกค้าจะได้พบกับความคุ้มค่าทุกเส้นทางการลงทุนจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินคุณภาพที่บรรจงคัดสรรออกแบบมาโดยเฉพาะ พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นพิเศษและผลตอบแทนที่ดี ในบูธจะแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ 1. KK Savings หรือโซนเงินฝาก แบ่งเป็น ฝากออมทรัพย์ เริ่มต้นที่ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติ (ปัจจุบัน อยู่ที่ 1-1.25%) และเงินฝากประจำ 6 เดือน และ 12 เดือน ที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สูงกว่าเงินฝากประจำเทอมเดียวกันของธนาคารที่ประกาศอยู่ในปัจจุบัน 2. โซน KK Bancassurance ประกันสะสมทรัพย์ ที่ได้รับผลตอนแทนต่อปีมากกว่า3% 3. โซน KK Fund Mart & Securities Trade ที่รวบรวมกองทุนต่างๆ ที่ บล.เกียรตินาคินเป็นตัวแทนจำหน่ายถึง 19 บริษัทจัดการ รวมถึงบริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ กับ บล.เกียรตินาคิน พร้อมแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ และ 4. โซน KK Surely Assetบริการทรัพย์เด่น ทำเลทอง (ทรัพย์สินรอการ อาทิ ที่ดินเปล่าในย่านธุรกิจ อาคารพาณิชย์ต่างๆ) ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยในแต่ละผลิตภัณฑ์ ธนาคารจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง รับรองได้ว่าจะเป็นอัตราที่สร้างผลตอบแทนได้ดีแน่นอน

สรุปได้ว่า ลูกค้าใหม่ที่ทำธุรกรรมทางด้านเงินฝากครบทั้ง 4 โซนกับธนาคารภายในงาน จะได้รับของสมนาคุณถึง 4ต่อ ต่อที่ 1 เงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำตามเทอมที่กำหนด ต่อที่ 2 ของสมนาคุณพิเศษ อาทิ ตุ๊กตาหมี KK Blue Star มูลค่า 150 บาท เมื่อเปิดบัญชี KK Savings Plus หรือ KK Magic Box มูลค่า 650 บาท เมื่อเปิดบัญชีเงินฝากประจำ และ KK e-Mug มูลค่า 250 บาท เมื่อสมัครใช้บริการ KK e-Banking รวมถึง Gift Voucher มูลค่า300 บาท เมื่อซื้อประกันสะสมทรัพย์ทุกๆ 100,000 บาท ต่อที่ 3 ฟรีบัตร ATM พร้อมยกเว้นค่าแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก และต่อที่ 4 ได้รับสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลบทวิเคราะห์หุ้นและความเคลื่อนไหวของภาวะเศรษฐกิจรายวัน ทาง www.kiatnakin.co.th ที่จัดทำโดยทีมนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของ บล.เกียรตินาคิน รวมมูลค่าทั้งสิ้นราว 1,600 บาท