ธนาคารกรุงเทพ ปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง

ธนาคารกรุงเทพ ปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ช่วงจำหน่ายที่ 1 ที่ธนาคารกรุงเทพได้รับการจัดสรรจากกระทรวงการคลังให้เป็นผู้จัดจำหน่ายในวงเงิน 7,100 ล้านบาท สำหรับให้สิทธิผู้ซื้อที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ผู้ที่เกิดก่อนหรือภายในปี พ.ศ.2492) เผยกระจายสู่สาขาทั่วประเทศจำนวนกว่า 900 สาขา ในรูปแบบ ‘จองซื้อก่อนได้ก่อน’ ได้ครบหมดเต็มวงเงินภายใน 1 ชั่วโมงที่เปิดขาย ทั้งนี้ธนาคารได้เตรียมจัดจำหน่ายในช่วงที่ 2 วันที่ 15-16 กรกฎาคม 2552 และช่วงที่ 3 วันที่ 17, 20, 21 กรกฎาคม 2552 ตามวงเงินที่ได้รับจัดสรรและเงื่อนไขที่ทางการกำหนดไว้

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จในการจัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ในช่วงที่ 1 ที่เปิดจำหน่ายวันนี้เป็นวันแรก แก่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ผู้ที่เกิดก่อนหรือภายในปี พ.ศ.2492) วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ทางการได้เพิ่มขึ้นมาจากวงเงินเดิม 15,000 ล้านบาท ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศจำนวนกว่า 900 สาขา ในรูปแบบ ‘จองซื้อก่อนได้ก่อน’ ได้ครบเต็มวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงการคลังให้ธนาคารเป็นผู้จัดจำหน่ายจำนวน 7,100 ล้านบาท ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว ภายใน 1 ชั่วโมงที่เปิดขาย

สำหรับลูกค้าที่สนใจ และพลาดโอกาสในครั้งนี้ สามารถติดต่อขอซื้อได้ในช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2552 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไป (รวมผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป) และช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 17, 20, 21 กรกฎาคม 2552 ซึ่งเป็น 3 วันสุดท้าย วงเงินคงเหลือรวม 5,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไป (รวมผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป) ซึ่งสามารถจองซื้อได้ไม่จำกัดวงเงิน จำกัดการซื้อ 1 คำเสนอขอซื้อ ต่อ 1 ช่วงจำหน่าย ที่สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ ยกเว้นสาขาไมโคร ตามวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงการคลัง หรือที่ธนาคารพาณิชย์อีก 6 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นธนาคารตัวแทนจำหน่าย ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือที่เว็บไซด์ www.bangkokbank.com

พันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยกระทรวงการคลัง อายุ 5 ปี วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท หน่วยละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับ 3% ปีที่ 3 เท่ากับ 4% ปีที่ 4-5 เท่ากับ 5% วงเงินซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท กำหนดจ่ายอัตราดอกเบี้ยปีละ 2 งวด