ธนาคารกรุงเทพจัดสัมมนาใหญ่ SME กลางปี 2552 “การปรับตัวในยุคเศรษฐกิจโลกวิกฤต”

ธนาคารกรุงเทพร่วมกับชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี จัดสัมมนาใหญ่ ครึ่งปี 2552 หัวข้อ “การปรับตัวในยุคเศรษฐกิจโลกวิกฤต” ด้วยเล็งเห็นถึงความรุนแรงที่จะส่งผลกระทบในวงกว้างของวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เน้นการสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมรับฟังยุทธศาสตร์ธุรกิจในยุคเศรษฐกิจโลกวิกฤต จาก 3 นักธุรกิจเอสเอ็มอีชั้นนำของไทย

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของการจัดสัมมนาครั้งนี้ว่าเกิดจากที่ธนาคารกรุงเทพเห็นว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้เป็นครั้งที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอี การทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดควบคู่กับการ “สร้างภูมิคุ้มกัน” ที่เข้มแข็ง และเป็นหนทางในการอยู่รอดของธุรกิจในยุคนี้

ธนาคารกรุงเทพซึ่งมีโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีมาตลอดตั้งแต่ครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปีพ.ศ. 2540 จนกระทั่งปัจจุบัน จึงได้จัดสัมมนาเพื่อให้เอสเอ็มอีได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมกับรับทราบยุทธศาสตร์ในการต่อสู้วิกฤตจากเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันเอง โดยนักธุรกิจที่ธนาคารกรุงเทพได้เชิญมาในวันนี้อยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร สิ่งทอ และแปรรูปการเกษตร ประกอบด้วย ดร. วราทัศน์ วงศ์สุรไกร รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทโรงเส้นหมี่ชอเฮง คุณชเล วุทธานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสิ่งทอซาติน และคุณจงสฤษดิ์ คุ้นวงษ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มบริษัทจุลไหมไทย ซึ่งทั้ง 3 ท่านเป็นนักธุรกิจที่มี “ภูมิคุ้มกัน” เข้มแข็งในการต่อสู้วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น

บริษัทโรงเส้นหมี่ชอเฮง เป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งข้าวเจ้าและเส้นหมี่ที่ครองความเป็นผู้นำมาตลอด 76 ปี และยังสามารถรักษาระดับการเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจโลกวิกฤต โดยการทุ่มเททำวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณภาพผลผลิตดีขึ้นและต้นทุนถูกลง ประหยัดพลังงานและขณะเดียวกันก็เน้นเรื่องความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า

บริษัทสิ่งทอซาติน เป็นผู้ผลิตสิ่งทอประเภทเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอนที่มีแบรนด์และดีไซน์ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าที่โดดเด่น ในช่วงที่อุตสาหกรรมสิ่งทอประสบวิกฤตอย่างหนักบริษัทสิ่งทอซาตินซึ่งมีตลาดหลักที่ยุโรป สามารถปรับตัวเข้าหาตลาดในประเทศและตลาดเพื่อนบ้านมากขึ้นโดยการสร้างแบรนด์ “พาซาย่า” ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

สำหรับกลุ่มบริษัทจุลไหมไทย เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะการทำนวัตกรรมสายพันธุ์ไหม และทำธุรกิจไหมครบวงจร เพื่อป้อนตลาดต่างประเทศและในประเทศ โดยเป็นเส้นไหมที่มีคุณภาพโดดเด่นตามที่ตลาดต้องการ นอกจากนั้นจุลไหมไทยยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ไหม และสินค้าเกษตรแปรรูปที่เป็นผลผลิตการเกษตรจากไร่กำนันจุลอีกด้วย โดยการสัมมนาในหัวข้อนี้มีคุณสร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย

นอกจากฟังการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว การสัมมนาครั้งนี้ยังมีการออกบูธแสดงสินค้าของผู้ประกอบการ SME และผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่น่าสนใจอีกกว่า 40 รายการ