นักลงทุนแห่จอง BLA เกลี้ยง 200 ล้านหุ้น

หุ้น BLA ร้อน รายย่อย-สถาบันแห่จองเกลี้ยง 200 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด 25 ก.ย. นักลงทุนมั่นใจธุรกิจโดดเด่น บล.บัวหลวง แกนนำอันเดอร์ไรต์ มั่นใจหุ้น BLA เทรดวันแรกยืนเหนือจอง 13.50 บาท ด้านผู้บริหาร “ชาญ วรรธนะกุล” ปลื้ม ลั่นเดินหน้ารักษาอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง เผยแผนช่วงที่เหลือของปี 2552 ยังมุ่งเดินหน้าขยายเครือข่ายและพัฒนาคุณภาพตัวแทน

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ผู้จัดการการจัดสรรหุ้นสำหรับนักลงทุนประเภทสถาบัน และแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า การขายหุ้น BLA ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น ราคาขายหุ้นละ 13.50 บาท ในระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2552 ที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งประเภทสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก จนสามารถปิดการขายได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2552

“การที่หุ้น BLA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจนสามารถขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่เปิดจองนั้นถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีมาก แสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อตัวบริษัทฯ รวมไปถึงภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่เอื้ออำนวย จึงคาดว่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการซื้อขายหุ้น BLA ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้คึกคัก” นายพิเชษฐ กล่าว และมองว่า ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าวน่าจะทำให้ในวันเปิดซื้อขายวันแรกของหุ้น BLA ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 13.50 บาทได้

ด้านนายชาญ วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่หุ้น BLA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขนาดนี้ก็รู้สึกดีใจ และต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การต้อนรับและให้ความเชื่อมั่นเป็นอย่างดี

“ถือว่าเราประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ท ตั้งแต่ไปให้ข้อมูลนักลงทุนก็ได้รับการตอบรับที่ดีโดยนักลงทุนสถาบันทั้งภานในประเทศและต่างประเทศ ได้แสดงความจำนงจองซื้อหุ้น (Book Build) เข้ามามากกว่า 2.5 เท่า จนสามารถขายหุ้นได้หมดตั้งแต่เปิดขายวันแรก ทั้งนี้คงเป็นเพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัท ซึ่งมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างมั่นคงมาเป็นลำดับ อีกทั้ง อุตสาหกรรมประกันชีวิตโดยรวมมีแนวโน้มที่ดี มีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2552 ยังคงมุ่งขยายเครือข่ายและพัฒนาคุณภาพตัวแทน การพัฒนาประสิทธิภาพการขยายตลาดผ่านธนาคาร และการให้ความสำคัญกับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า” นายชาญ กล่าว

ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมครั้งนี้ จำนวน 2,700 ล้านบาท จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มเงินกองทุนให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของธุรกิจประกันชีวิตในอนาคต