ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส แห่งแรกในต่างประเทศ

รูปภาพ: คุณชนินทธ์ โทณวณิก (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และ มร. ยาเซอร์ ชาราฟูดดิน ชาราฟ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ ชาราฟ ดีจี

กรุงเทพฯ – ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเปิด โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ และพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับ เดียร่า ซิตี้ เซ็นเตอร์ หนึ่งในทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของดูไบ การเปิด โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ ในครั้งนี้ ยังถือเป็นการนำแบรนด์ ดุสิตปริ๊นเซส ออกสู่สายตาชาวต่างชาติครั้งแรก รวมทั้งสอดคล้องกับการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยผลการรายงานจาก Travel and Tourism Competitiveness 2009 ได้จัดให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ในอันดับต้นๆในด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการคาดการว่าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะมีการเติบโตถึงร้อยละ 2.8 ภายในระยะเวลาสิบปี

โรงแรมระดับ 4 ดาว ซึ่งมีห้องพักและห้องสวีทรวม 120 ห้องแห่งนี้ ได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยมพร้อมห้องประชุมและสัมมนา, ห้องอาหาร, คาเฟ่, ห้องออกกำลังกาย, สระว่ายน้ำและจากุซซี่ และบาร์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ ได้สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งกลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ที่คุ้มค่า โดยโรงแรมตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ, ท่าอากาศยานดูไบ เอ็กซ์โป เซ็นเตอร์ และสนามกอล์ฟ Ernie Els-designed Dubai Creek ซึ่งสามารถเดินทางถึงภายใน 5 นาที อีกทั้งยังสามารถเดินถึง เดียร่า ซิตี้ เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คุณชนินทธ์ โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “การเป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวในตะวันออกกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้ประเทศนี้เป็นแหล่งการค้าที่สำคัญสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของดุสิต ความสำเร็จของธุรกิจใหม่ที่เราสร้างขึ้นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเป็นมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจและโครงการอื่นๆในภูมิภาคนี้ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในตลาดอื่นๆอีกด้วย นอกจากนี้แบรนด์ของเรายังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในความเป็นไทย ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวมากมายจากประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ การเปิดโรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่เราจะนำวัฒนธรรมการบริการแบบไทยและคุณค่าความเป็นดุสิตสู่ใจกลางเมืองดูไบ”

1/4
ผลการรายงานจาก The Travel and Tourism Competitiveness 2009 ซึ่งครอบคลุมข้อมูลจาก 133 ประเทศทั่วโลก ได้จัดอันดับให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา ขึ้นมา 7 อันดับจากปีที่แล้ว และยังถือเป็นอันดับที่ 33 ของโลก นอกจากนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังเป็นที่ 1 จาก 133 ประเทศ ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว, อันดับ 3 ด้านการให้ความสำคัญธุรกิจการท่องเที่ยวของรัฐบาล และอันดับ 4 ด้านโครงสร้างการขนส่งทางอากาศ

“การเปิดโรงแรมใหม่ของดุสิตในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับการเติบโตของดูไบและความนิยมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองที่มีสีสันและแวดล้อมไปด้วยผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม การเปิด ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและความหลากหลายให้กับดูไบ ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์และแผนการของดูไบภายในปี พ.ศ. 2558” คุณชนินทธ์ กล่าวเพิ่มเติม

หลังจากการเปิด โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ซิตี้ เซ็นเตอร์ ดูไบ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล มีแผนการเปิดให้บริการ โรงแรม ดุสิตธานี อาบู ดาบี ในปี พ.ศ. 2554 และตามด้วยโรงแรมอีก 4 แห่งซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมในเครือดุสิตในเร็วๆนี้ ได้แก่ โรงแรม ดุสิตธานี เลควิว ไคโร, โรงแรม ดุสิตธานี ซานย่า, โรงแรม ดุสิต เทวารัณย์ นิวเดลี และ โรงแรม ดุสิตดีทู นิวเดลี