สำรวจความเห็นผู้ชมงาน “MOTOR EXPO 2009”

วิเคราะห์ผลสำรวจผู้ชมงานมหกรรมยานยนต์ ชี้พฤติกรรมและทัศนคติผู้ใช้รถเปลี่ยน รถเอนกประสงค์มาแรง ผู้หญิงอำนาจการตัดสินใจซื้อสูง และมีแนวโน้มหันใช้แก๊ส หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการกองสารสนเทศ บริษัท สื่อสากล จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมยานยนต์ในแต่ละปีจะมีการทำวิจัยข้อมูลทางสถิติ ทั้งจากผู้เข้าชมงาน (Visitors) และผู้ร่วมงาน (Exhibitors) ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังเปรียบเทียบแต่ละปี พบว่า มีความน่าสนใจและสามารถใช้คาดการณ์พฤติกรรม และทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้ โดยผู้จัดงานใช้ข้อมูลเหล่านั้นประกอบการปรับปรุง พัฒนามาตรฐานการจัดงานมาโดยตลอด

สถิติงาน“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” ที่ผ่านมา ผู้ชมงานเกินครึ่งกรอกแบบสอบถามว่ากำลังสนใจซื้อรถภายใน 6 เดือนข้างหน้า คิดเป็นค่าเฉลี่ยสูงถึง 64% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 49.9% ชี้ให้เห็นแนวโน้มตลาดรถปี 2553 ว่าน่าจะดีขึ้นหากไม่มีปัจจัยใดมากระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

สำหรับทิศทางตลาดรถยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป คือ ความนิยมในรถยนต์เอนกประสงค์ (MPV) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 6.8% (ปี 2551) เป็น 13.2% (ปี 2552) ผลสำรวจผู้เข้าชมงาน พบว่าส่วนใหญ่ 53.2%มาชมงานกับครอบครัว มากับเพื่อน 33.5% มากับญาติพี่น้อง 11.1% กล่าวคือกว่า 90% ของผู้ชมงานไม่ได้มาคนเดียว และกว่าครึ่งหนึ่งชมงานร่วมกับครอบครัว แนวโน้มผู้เข้าชมงานผู้หญิงเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากข้อมูลผู้ซื้อรถในงานพบว่าผู้หญิงมีอำนาจในการตัดสินใจซื้อรถสูง

ด้านผลสำรวจพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาใช้แก๊สเพิ่มขึ้นจาก 6.3% เป็น 18.9% ส่วนใหญ่ยังติดกับ เบนซินและดีเซล แต่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจาก ปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยังเลือกเบนซิน 56.5% ลดลงจาก 63.7% และดีเซล 22.8% ลดลงจาก 28.7%

ขณะเดียวกันผลการสำรวจมาตรฐานการจัดงานทั่วไปค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ที่ 85.8% นับว่าประสบความสำเร็จ

“การพัฒนาระบบวิจัยข้อมูลงานมหกรรมยานยนต์เป็นสิ่งที่ผู้จัดงานให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาการวิจัยพฤติกรรมการใช้ชีวิต (Life Style) ของผู้ใช้รถ ซึ่งคาดว่าจะช่วยพัฒนารูปแบบการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้รถในอนาคตอีกด้วย” นายชลัทชัย กล่าว