กรุงเทพฯ วันที่ 25 มีนาคม 2553: เฮลธ์ อิมแพค สบช่องรุกตลาด บิวตี้เฮลธ์แคร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “คูรามิ แฮร์โทนิค” [KURAMI HAIR TONIC] สูตรเย็นบำรุงรากผมให้แข็งแรงและสดชื่น ภายหลังประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น มุ่งเจาะกลุ่ม นิชมาร์เก็ต [Niche market] ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 20 ล้านบาท เสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทั้ง แชมพูและวิตามิน ที่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 10% จากมูลค่าตลาดรวม 600 ล้านบาท
ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด เปิดเผยว่า ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เฮลธ์ อิมแพค ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและรากผมในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อแก้ปัญหาผมบาง ผมร่วง ซึ่งพบในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิง โดยส่งไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาด ทำให้เห็นโอกาสที่จะทำตลาดในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ คูรามิ [KURAMI] โดยมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คูรามิ และผลิตภัณฑ์แชมพู คูรามิ เหมาะกับผู้มีปัญหาผมร่วงและบาง ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเสริมไลน์ คือ แชมพูขจัดรังแค กับอาหารเสริมสำหรับคนผมยาว ซึ่งมีผลตอบรับจากตลาดเป็นที่น่าพอใจ สามารถมีส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 10% และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12 % ต่อปี จากมูลค่าตลาดรวม ประมาณ 600 ล้านบาท ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับปัญหาผมร่วง ทั้งนี้ เพื่อขยายไลน์สินค้ากลุ่มดูแลเส้นผมให้ตอบสนองความต้องการของตลาดมากขึ้น ล่าสุด ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คูรามิ แฮร์โทนิค โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้ที่ประมาณ 20 ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์ คูรามิ แฮร์โทนิค สูตรเย็น ได้ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้เหมาะกับคนไทย โดยศึกษาจากความต้องการของคนในแถบเอเชีย ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการหลุดร่วงและทำให้ผมขึ้นใหม่แข็งแรง ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อน จากการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ คูรามิ แฮร์โทนิค แล้วพบว่าได้รับความพึงพอใจสูง เพราะสัมผัสได้ทันทีว่ารากผมแข็งแรงขึ้น ซึ่ง คูรามิ แฮร์โทนิค เป็นสูตรลดการหลุดร่วงของเส้นผม มีคุณสมบัติในการบำรุงลึกให้รากผมแข็งแรงและสดชื่น อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติและโปรตีน โดยบรรจุอยู่ในขวด ขนาด 90 ซีซี จำหน่ายในราคา 440 บาท ใช้ได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งมั่นใจว่า เป็นราคาที่ผู้บริโภค สามารถตัดสินใจซื้อได้ มีวางจำหน่ายภายในร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ ภญ.กรรณิการ์ กล่าวและเพิ่มเติมว่า
กลุ่มเป้าหมายของ คูรามิ คือ กลุ่มคนวัยทำงานทั้งชายและหญิง โดยจะเน้นกลุ่มผู้ชายเป็นหลัก อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป การจัดวางงบส่งเสริมการตลาดในช่วง 3 ปีแรกนั้น ตั้งงบประมาณไว้ที่ 30 % ของยอดขาย โดยเน้นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้ง เป็นผู้สนับสนุนรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และเน้นการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ณ. จุดขาย เป็นหลัก อาทิ การแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ การจัดโรดโชว์ในแหล่งออฟฟิตบิวดิ้งและร้านขายยากว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับให้บริการการตรวจสภาพเส้นผม เพื่อส่งเสริมให้แบรนด์ คูรามิ เป็นที่จดจำของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ จะใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็มกับกลุ่มลูกค้า โดยมีบริการคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 02-860-4561 เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพผมที่ถูกต้อง รวมไปถึง การจัดโปรโมชั่นพิเศษอย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง
ปีที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม คูรามิ มีสัดส่วนรายได้จากการจัดจำหน่าย แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คูรามิ จำนวน 50 % คูรามิแชมพู จำนวน 40 % และตัวอื่น ๆ อีกประมาณ 10 % ในปีนี้ ตั้งเป้าการรุกตลาด โดยเน้นที่ คูรามิ แฮร์ โทนิค เพื่อมุ่งขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายวัยทำงาน และกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจใช้เวชสำอางในการดูแลผม มากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่ง คูรามิ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยดูแลรักษาสุขภาพผมได้อย่างมีคุณภาพ และตอบสนองความต้องการให้กับผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ
สำหรับ การแข่งขันในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ในตลาดโมเดิรน์เทรดถือว่าอยู่ในสภาวะที่สูงมาก แต่ในส่วนของร้านขายยายังคงมีช่องทางในการแข่งขันได้ดี แม้ว่าปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลเส้นผมค่อนข้างมาก แต่หลาย แบรนด์เริ่มหายไปจากตลาด สาเหตุหลักคือ ใช้แล้วไม่ได้ผลเท่าที่ควร ในขณะที่ คูรามิ เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคและร้านค้ารู้จักให้การยอมรับ การต่อยอด โดยนำผลิตภัณฑ์ คูรามิ แฮร์โทนิค ที่มีราคาสมเหตุผลมาทำตลาด จึงมั่นใจจะได้รับการต้อนรับอย่างดี แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระยะฟื้นตัวก็ตาม ภญ.กรรณิการ์ กล่าวสรุปในที่สุด
