เปิดตัว “โคล สโตน ครีมเมอรี่” ชูคอนเซ็ปต์ไอศกรีมซูเปอร์พรีเมียม มีไอเดีย ลีลาเสิร์ฟเร้าใจ

บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป เปิดประสบการณ์ความอร่อยใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบไอศกรีม ด้วยการเปิดตัว “โคล สโตน ครีมเมอรี่” ไอศกรีมมิกซ์-อินระดับซูเปอร์พรีเมียมจากอเมริกาที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรสชาติความอร่อยสไตล์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์ ชูความแตกต่างด้วยคอนเซ็ปต์ไอศกรีมมีไอเดียให้ผู้บริโภคสร้างสรรค์ความอร่อยได้ตามใจชอบ พร้อมลีลาการเสิร์ฟที่สนุกสนานเร้าใจ เปิดตัวสาขาแรกที่ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งเป้าปีนี้จะขยายอีกกว่า 5 สาขา กวาดยอดขายกว่า 60 ล้านบาท และขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ขายดีที่สุดในกลุ่มไอศกรีมซูเปอร์พรีเมียม ภายใน 5 ปี

นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า โคล สโตน ครีมเมอรี่ (Cold Stone Creamery) นับเป็นไอศกรีมมิกซ์-อินระดับซูเปอร์พรีเมียมรายแรกและเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้สร้างประสบการณ์ความอร่อยแปลกใหม่และความสนุกสนานให้กับผู้บริโภคทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนจากร้านไอศกรีมทั่วไป และผู้คนทั่วโลกต่างก็ยอมรับว่าเป็นไอศกรีมที่ดีที่สุด จนนำไปสู่การขยายสาขาถึง 1,450 แห่ง ทั้งในอเมริกา แคนาดา สแกนดิเนเวีย แม็กซิโก ตะวันออกกลาง และเอเชีย สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุดลำดับที่ 15 ที่จะได้ลิ้มลองความอร่อยที่แปลกใหม่จาก โคล สโตน ครีมเมอรี่ และนับเป็นประเทศที่ 6 ในเอเชีย

“จุดเด่นที่ทำให้ โคล สโตน ครีมเมอรี่ เป็นไอศกรีมที่ทุกคนชื่นชอบ คือ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อร่อยเข้มข้นไม่เหมือนใครสไตล์อเมริกัน ใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพดีที่สุด ทำสดใหม่ทุกวันด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก นอกจากนี้ โคล สโตน ครีมเมอรี่ ยังมีคอนเซ็ปต์ว่า ไอศกรีมมีไอเดีย เพราะลูกค้าสามารถสร้างสรรค์เมนูไอศกรีมเองได้ โดยผสมผสานความอร่อยของไอศกรีมแต่ละรสชาติบนแผ่นหินแกรนิตเย็นจัด ที่คงความเย็นไว้ได้นานเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก และลูกค้ายังได้รับความสนุกและมีความสุขไปกับลีลาการเสิร์ฟที่ตื่นเต้นเร้าใจ” นายธีระเดช กล่าว

นายธีระเดช กล่าวต่อว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของโคล สโตน ครีมเมอรี่ คือ ชาย-หญิง อายุ 18-39 ปี ดังนั้นแผนการขยายสาขาของโคล สโตน ครีมเมอรี่ หลักๆจะอยู่ในห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเซ็นทรัล และจะมุ่งเน้นไป ที่ห้างสรรพสินค้าซูเปอร์พรีเมียมใจกลางเมือง โดยสาขาแรกในประเทศไทยเปิดที่ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ และวางแผนที่จะเปิดสาขาอีกกว่า 5 แห่งภายในปีนี้ สำหรับกิจกรรมการตลาดจะจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายภายใต้งบประมาณการตลาดกว่า 10 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าหมายว่า โคล สโตน ครีมเมอรี่ จะสร้างยอดขายกว่า 60 ล้านบาทภายในปีนี้ และตั้งเป้าหมายว่าโคล สโตน ครีมเมอรี่ จะเป็นไอศกรีมที่มีคุณภาพดีที่สุด สร้างสรรค์ที่สุด และมีนวัตกรรมมากที่สุด ภายใน 1-2 ปี และก้าวเป็นไอศกรีมระดับซูเปอร์ พรีเมียมอันดับ 1 ที่ขายดีที่สุด ภายในปี 2558

สำหรับสถานการณ์การแข่งขันของตลาดไอศกรีมระดับพรีเมียมนั้น นายธีระเดช กล่าวว่า การแข่งขัน ไม่รุนแรงเท่ากับไอศกรีมระดับกลาง โดยจะเน้นในเรื่องของคุณภาพและการบริการมากกว่าการแข่งขันด้านราคา และคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมของไอศกรีมในปี 2553 จะอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นไอศกรีมระดับพรีเมียม 4,000 ล้านบาท คิดเป็น 30.8% ไอศกรีมระดับกลาง 8,000 ล้านบาท คิดเป็น 61.5% และไอศกรีมระดับล่าง 1,000 บาท คิดเป็น 7.7%