ก้าวเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับศึกฟุตบอลโลก 2010 ณ ดินแดนใต้สุดของทวีปแอฟริกา และก็จะได้ทราบกันเสียทีว่าทีมชาติใดจะสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 แต่ที่แน่ๆเป็นทีมจากชาติยุโรปทีมใดทีมหนึ่งอย่างแน่นอนระหว่าง ทีม“อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ และ ทีม“กระทิงดุ” สเปน ซึ่งก็น่าจะเป็นข่าวดีๆที่พอจะเป็นกำลังใจได้บ้างสำหรับประเทศแถบยุโรปที่กำลังเผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่วนกระแสฟุตบอลโลกครั้งนี้ในเมืองไทยตลอดช่วงเวลา 1 เดือนที่มีการแข่งขัน นอกเหนือจากความคึกคักของแฟนบอลที่ได้อิ่มเอมในเกมกีฬาที่ชื่นชอบ และลีลานักเตะที่เฝ้ารอแล้ว กลยุทธ์การตลาดของบรรดาผู้ประกอบการทั้งกลุ่มที่เข้าร่วมในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขัน หรือกลุ่มที่จัดกิจกรรมการตลาด โดยอิงกระแสฟุตบอลโลกก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่เข้มข้นไม่แพ้เกมในสนามฟุตบอล ณ ประเทศแอฟริกาใต้เช่นกัน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมลุ้นโชคทายผลว่าทีมใดจะเป็นทีมชนะในการแข่งขันแต่ละนัด รวมถึงทายผลว่าทีมใดจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกปีนี้ ซึ่งก็มีหลายช่องทางให้ร่วมสนุก
จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เกี่ยวกับ พฤติกรรมการชิงโชคของคน
กรุงเทพฯในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก2010 จำนวน 644 ชุด ก็พบว่า มีคนกรุงเทพฯถึงร้อยละ 63.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ สนใจที่จะส่งชิงโชคทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมหกรรมฟุตบอลโลกปี 2549 ที่มีผู้สนใจร่วมรายการชิงโชคเพียงร้อยละ 40.8 โดยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมีรูปแบบการชิงโชคที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์บัตร คูปองหรือฉลากสินค้าที่ประชาชนมีการซื้อใช้อยู่แล้ว รวมไปถึงการทายผลผ่านทางโทรศัพท์ และการส่ง SMS โดยทั้งนี้ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 36.6 ต้องการรางวัลเป็นเงินสด ซึ่งเมื่อสอบถามว่าหากได้รับรางวัลเป็นเงินสด จะมีแนวทางการจัดการอย่างไรบ้าง พบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
คนกรุงเทพฯประมาณ 19.4% จะนำเงินรางวัลไปจับจ่ายซื้อสินค้า
-หากได้รับรางวัลจากการทายผลเป็นเงินสดหรือทองคำที่แปลงเป็นมูลค่าเงินแล้ว พบว่านอกเหนือจากการออมเงินและการมอบเงินให้พ่อแม่ คนกรุงเทพฯประมาณร้อยละ 19.4 ตั้งใจจะนำเงินรางวัลไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ต้องการ
-ดังนั้น จึงน่าจะเป็นโอกาสของบรรดาเจ้าของสินค้าและบริการที่จะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภคส่งท้ายมหกรรมฟุตบอลโลก 2010
โน๊ตบุ๊กครองใจกลุ่มวัยรุ่น
-สินค้าที่กลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ต้องการนำเงินรางวัลไปซื้อส่วนใหญ่เป็นสินค้าไอทีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ และโทรศัพทมือถือ
รถจักรยานยนต์ได้ใจกลุ่มวัย 20-24 ปี
-สำหรับกลุ่มนักศึกษาจนถึงวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงานนั้น ส่วนใหญ่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ ตามมาด้วยโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และแพกเกจทัวร์เพื่อการท่องเที่ยว
กลุ่มอายุ 25-29 ปีสนใจการเดินทางท่องเที่ยวเป็นที่สุด
-ส่วนกลุ่มคนวัยทำงานที่มีอายุ 25-29 ปีนั้น พบว่าสนใจเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด จากนั้นจึงนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รถจักรยานยนต์ โน๊ตบุ๊ก และโทรทัศน์
ทั้งหญิงและชายต่างให้ความสนใจโน๊ตบุ๊กเป็นพิเศษ
-เมื่อสอบถามเพศชาย พบว่าให้ความสนใจที่จะนำเงินรางวัลไปซื้อโน๊ตบุ๊กเป็นส่วนใหญ่ ตามมาด้วยแพกเก็จทัวร์ รถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือ
-และเมื่อถามกลุ่มคุณผู้หญิงก็พบว่า โน๊ตบุ๊ก และทัวร์ก็ยังได้รับความนิยมมาก แล้วจึงตามมาด้วย โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
กลุ่มวัยรุ่นเลือกจะซื้อรถยนต์เป็นส่วนใหญ่
-สินค้าที่กลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ส่วนใหญ่ใฝ่ฝันจะนำเงินรางวัลที่มีมูลค่า 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาทไปซื้อก็คือรถยนต์ ที่กลายเป็นปัจจัยที่ห้าสำหรับคนกรุงฯยุคปัจจุบัน
รถยนต์-บ้านครองใจกลุ่มวัย 20-24 ปี และวัย 25-29 ปี
-สำหรับกลุ่มนักศึกษาจนถึงวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงานนั้น ต้องการซื้อรถยนต์เป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับกลุ่มวัยรุ่น พร้อมกับการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่ชีวิตด้วยการซื้อบ้านก่อนการจับจ่ายเพื่อการท่องเที่ยว
-ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มอายุ 25-29 ปี ที่ต้องการเสริมปัจจัยที่ 5 อย่างรถยนต์ก่อน แล้วหันไปมองหาซื้อบ้านเพื่อก่อร่างสร้างตัวสร้างครอบครัว
กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป สนใจรถยนต์-บ้าน
– ซึ่งกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปก็มีความต้องการไม่แตกต่างกันกับกลุ่มข้างต้นในส่วนของรถยนต์ บ้าน และจักรยานยนต์ แต่มีสินค้าที่ต้องการเพิ่มขึ้นและแตกต่างคือการนำเงินรางวัลไปซื้อที่ดิน ทองคำ และการลงทุนประกอบธุรกิจ
ไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็ให้ความสนใจรถยนต์เป็นที่สุด
-เมื่อสอบถามเพศชาย พบว่าให้ความสนใจที่จะนำเงินรางวัลมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ไปซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้ชายทุกยุคทุกสมัยเป็นส่วนใหญ่ ตามมาด้วยบ้าน รถจักรยานยนต์ และโน๊ตบุ๊ก ขณะที่สินค้าอื่นๆที่สนใจจะซื้อก็ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ที่ดิน และโทรทัศน์
-และเมื่อถามกลุ่มคุณผู้หญิงก็พบว่า รถยนต์มาแรงเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันหลายค่ายรถยนต์ต่างก็ได้มีการนำเสนอรถยนต์หลากหลายรูปแบบ ภายใต้สีสันที่เอาใจกลุ่มผู้หญิงกันมากขึ้น ขณะที่บ้าน และแพกเก็จทัวร์ ได้รับความสนใจตามมา ส่วนสินค้าอื่นๆที่ผู้หญิงสนใจ ได้แก่ ทอง และเครื่องปรับอากาศ
เกือบ 70 % ของกลุ่มตัวอย่างที่ส่งชิงโชคทายผล ต่างเล็งซื้อบ้าน-ถอยรถป้ายแดง
-ยิ่งเงินรางวัลเป็นมูลค่าสูงๆเกิน 1,000,000 บาท ก็พบว่าสุดยอดปรารถนาของคนกรุงเทพฯก็คือ บ้านพักที่อยู่อาศัยที่อาจจะเป็นบ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ จึงน่าจะเป็นโอกาสสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยการเตรียมนำเสนอแคมเปญที่น่าสนใจไว้รองรับความต้องการของผู้บริโภค
-ตามมาด้วย รถยนต์ ซึ่งค่ายรถยนต์หลายค่ายก็อาจจะต้องเตรียมนำเสนอรถยนต์นั่งทั้งรุ่นที่ทำตลาดใหม่ รวมถึงรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ไว้รองรับ
-และที่มองข้ามไม่ได้คือ กลุ่มทัวร์ท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะผู้ลุ้นโชคหลายรายต่างก็หวังแสวงหาความสุขเติมเต็มให้แก่ชีวิต ด้วยการพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากเงินรางวัลที่ได้มา
บทสรุป
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ผลจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการชิงโชคของคนกรุงเทพฯในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก2010 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 644 ราย ในระหว่างวันที่ 4-18 มิถุนายน 2553 จะพบว่า คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่วางแผนที่จะออมเงิน และมอบเงินให้พ่อแม่ หากได้รับเงินรางวัลจากการทายผลชิงโชคฟุตบอลโลกปี 2010 แต่มีสัดส่วนไม่น้อยที่จะนำเงินรางวัลดังกล่าวไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ต้องการ โดยหากได้เงินรางวัลมาไม่เกิน 100,000 บาท ผู้ลุ้นส่งชิงโชคส่วนใหญ่มักต้องการเกาะกระแสเทคโนโลยีด้วยการวางแผนซื้อสินค้ากลุ่มไอที โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วงจรชีวิตของสินค้าสั้นลง อย่างไรก็ตาม วัยที่แตกต่างกันก็มีความต้องการที่แตกต่างกันตามไปด้วย ขณะเดียวกัน ไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่สนใจสินค้าไอที ปัจจุบันผู้หญิงก็ได้กลายเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ก้าวเข้ามาสู่ตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น แต่หากได้เงินรางวัลมาเป็นมูลค่าสูงขึ้นเป็น 100,000-1,000,000 บาท โดยมากก็ใฝ่ฝันที่จะครอบครองรถยนต์ ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ความต้องการในสินค้าและบริการมักไม่แตกต่างกันมากนักระหว่างวัย หรืออาจจะแตกต่างกันเพียงลำดับที่เท่านั้น และหากได้เงินรางวัลมากขึ้นสู่หลักล้านบาท กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่พร้อมที่จะทุ่มเงินเพื่อซื้อบ้านพักที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโดมิเนียมไว้เป็นรากฐานของชีวิต และท่องเที่ยวไปในดินแดนที่หมายปอง นอกจากนี้บางส่วนยังต้องการนำเงินรางวัลไปเป็นทุนเพื่อประกอบธุรกิจอีกด้วย จึงนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบรรดาเจ้าของสินค้าและบริการในการช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภคส่งท้ายมหกรรมฟุตบอลโลก 2010
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น และสร้างโอกาสในการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ให้ได้มากที่สุด รวมถึงเจาะกลุ่มตลาดใหม่ ในภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วยเริ่มฟื้นตัวเช่นปัจจุบัน ผู้ประกอบการสินค้าและบริการต่างๆควรมี ควบคู่กับการกำหนดประเภทของกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อต่างๆให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการนำความเป็นแฟชั่น ทั้งในส่วนของรูปแบบและสีสันในการดีไซน์สินค้าเข้ามามีส่วนสำคัญในการนำเสนอสินค้า ทั้งนี้ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญในการกระตุ้นให้กิจกรรมส่งเสริมการตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่มักเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการใช้งบส่งเสริมการตลาดของสินค้าส่วนใหญ่ในประเทศไทยคึกคักขึ้นมาได้ด้วย
