เตรียมพบกับศูนย์บริการอีซีเอสแห่งใหม่สุดโมเดิร์น ณ อาคารพันธุ์ทิพย์พลาซ่าชั้น 4

นายศุภเกียรติ ตันตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดศูนย์บริการที่สาขาพันธุ์ทิพย์เพิ่มอีก 1 แห่งที่ชั้น 4 ว่า “แวลลูฯ เปิดศูนย์บริการที่อาคารพันธุ์ทิพย์พลาซ่าชั้น 3 มาเป็นเวลาถึง 17 ปีแล้ว โดยให้บริการด้านงานรับประกัน (Warranty), งานเคลม และงานซ่อม อาทิ โน้ตบุ๊ค, พรินเตอร์ และสตอเรจในแต่ละแบรนด์ที่บริษัทจัดจำหน่ายอยู่ เช่น เลอโนโว เอชพี เอเซอร์ อัสซุส และเบนคิว รวมถึงให้บริการด้านงานเคลมสินค้าของทรีคอม, ซิสโก, บัฟฟาโล และดีลิงค์ เป็นต้น

ปัจจุบันศูนย์บริการที่ชั้น 3 ต้องรองรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้านงานซ่อมและงานเคลมในจำนวนที่มากขึ้นประมาณ 40-50% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากแวลลูฯ ได้รับความไว้วางใจจากซัพพลายเออร์

แบรนด์ดังมากมายที่แต่งตั้งให้เราเป็น Exclusive Service Center ของสินค้านั้นๆ เช่น เลอโนโว บัฟฟาโล ดีลิงค์ ทำให้ลูกค้าจำนวนมากทั้งที่เป็นเอนด์ยูสเซอร์และดีลเลอร์ที่ต้องการใช้บริการงานซ่อมและเคลมหลั่งไหลมาที่เราเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่การให้บริการที่ชั้น 3  ไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการตลอด 7 วัน คือ วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. -19.00น. ได้อย่างเต็มที่
 
นอกจากนั้นยังมีซัพพลายเออร์ อาทิ เอชพี ที่เล็งเห็นศักยภาพของบริษัทที่มีความพร้อมในด้านการสำรองอะไหล่ จึงได้มอบอำนาจด้านการบริการให้กับเรามากยิ่งขึ้น คือ จากแต่เดิมที่แวลลูฯ รับหน้าที่เป็นจุดรับเครื่องโน้ตบุ๊คเอชพีเพียงอย่างเดียว และไม่ได้ทำหน้าที่ซ่อมด้วย แต่ปัจจุบันนี้เอชพีได้แต่งตั้งให้เราทำหน้าที่เป็นศูนย์ซ่อมสินค้าของเขาด้วย จึงยิ่งทำให้มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการงานซ่อมของเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
บริษัทจึงตัดสินใจเปิดศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งที่ชั้น 4 ของอาคารพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โดยจะเน้นให้บริการงานซ่อมสินค้าโน้ตบุ๊คของแบรนด์เลอโนโว ซึ่งแวลลูฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ให้บริการงานซ่อมโน้ตบุ๊คในกลุ่มคอนซูเมอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นชั้น 4 จึงจะเป็นศูนย์ซ่อมที่เน้นโน้ตบุ๊คของเลอโนโวโดยตรง ในขณะที่ชั้น 3 จะเน้นไปที่งานซ่อมสินค้าของแบรนด์เอชพี อัสซุส เบนคิว เอเซอร์ และงานบริการทั่วไป
 
และด้วยขนาดพื้นที่ของชั้น 4 ที่กว้างขวางขึ้นเมื่อเทียบกับศูนย์บริการที่ชั้น 3 บริษัทฯ จึงเปิดให้บริการด้านงานเคลมสินค้าของดีลิงค์และบัฟฟาโลเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกระจายปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ไม่ให้ศูนย์บริการที่พันธุ์ทิพย์ทั้ง 2 ชั้นของเรามีความคับคั่งและแออัดมากเกินไป ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าใช้บริการของลูกค้าทั้ง 2 แบรนด์นี้เพิ่มขึ้นถึง 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากแวลลูฯ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งดีลิงค์และบัฟฟาโลให้เป็นผู้แทนการให้บริการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย”
 
สำหรับการออกแบบศูนย์บริการแห่งใหม่ที่พันธุ์ทิพย์ชั้น 4 นั้น นายศุภเกียรติกล่าวว่า “เราต้องการให้ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้มีบรรยากาศที่ดูทันสมัย โอ่โถงและผ่อนคลายเสมือนนั่งอยู่ในห้องรับรองพิเศษ จึงได้ออกแบบให้มีการใช้กระจกแผ่นใหญ่เป็นวัสดุหลักของศูนย์บริการนี้ เพื่อให้พื้นที่ดูมีความโปร่งและโล่งขึ้น และด้วยขนาดของพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม จึงได้มีการจัดแบ่งสัดส่วนทั้งพื้นที่ใช้สอยของลูกค้าให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และพื้นที่การทำงานของพนักงานซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 7 ท่าน แบ่งเป็นช่าง 3 ท่าน พนักงานที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์อีก 3 ท่าน และพนักงานระดับซุปเปอร์ไวเซอร์ ที่ทำหน้าที่ดูแลศูนย์บริการอีก 1 ท่าน ได้มีพื้นที่การทำงานที่เป็นสัดส่วนขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้ามารับบริการยิ่งขึ้นอีกด้วย”
 
“ในด้านของทำเลที่เราเลือกนั้น ก็จัดได้ว่าศูนย์บริการที่ชั้น 4 นั้นอยู่ในทำเลที่ดีมาก คือ เมื่อลูกค้าขึ้นบันไดเลื่อนของห้างมาก็สามารถสังเกตเห็นศูนย์บริการของเราได้อย่างเด่นชัดทันที สำหรับขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการตกแต่งภายใน โดยเรามีกำหนดจะเปิดให้บริการงานซ่อมและงานเคลม ณ ศูนย์บริการอีซีเอสแห่งใหม่ อาคารพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ชั้น 4 ในต้นเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จศูนย์บริการแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากศูนย์บริการสาขาสำนักงานใหญ่เลยทีเดียว” นายศุภเกียรติกล่าวทิ้งท้าย