GBXชี้มาตรการจีนฉุดทองอ่อนตัว ให้กรอบ1,345-1,395ดอลล์ต่อออนซ์

โกลเบล็กฯ คาดแรงกดดันมาตรการจีนฯหลังประกาศขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝากแบงก์ ฉุดราคาทองอ่อนตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ แนะเป็นจังหวะดีเข้า ”ซื้อเก็งกำไรช่วงสั้น” ชี้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ใช้สกัดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ดี แถมเข้าใกล้เทศกาลตรุษจีนอาจหนุนราคาทองพุ่งอีกรอบ เล็งกรอบลงทุนอยู่ที่ 1,345-1,395 ดอลล์ต่อทรอยออนซ์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่าแนวโน้มราคาทองคำประจำสัปดาห์นี้ (17-21 ม.ค. 54) แนะนำให้”ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น” ในช่วงที่ราคาอ่อนตัวลงต้นสัปดาห์ จากแรงกดดันของมาตรการจีน และรอขายเมื่อราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก Technical Rebound หลังราคาปรับลงมาแรงและผลกระทบเชิงบวกจากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นเทศกาลตรุษจีน โดยGBXคาดการณ์กรอบการลงทุนไว้ที่ 1,345 -1,395 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 19,450 -20,150 บาทต่อบาททอง

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำระยะนี้ถูกกดดันต่อเนื่อง หลังจากผลการประมูลพันธบัตรของประเทศในกลุ่ม PIIGS (โปรตุเกส, ไอร์แลนด์, อิตาลี, กรีซ และสเปน) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างสดใส และการประกาศปรับขึ้นเพดานกันสำรองธนาคารพาณิชย์ของธนาคารกลางจีนอย่างกะทันหันอีก 0.50% เป็น 19.50% ซึ่งทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในการลงทุน และเก็งกำไรลงไป ทั้งในแง่ของแหล่งพักเงินชั้นดี (Safe Haven) และการคาดการณ์ว่าคนจีนอาจนำเข้าทองคำน้อยลง ตามภาคการบริโภคที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากผลของมาตรการดังกล่าว จนเริ่มมีการพูดถึงกันมากขึ้นว่าตรุษจีนปีนี้ ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้ GBXคาดว่าราคาจะถูกกดดันลงอีกเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงกดดันที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่กรอบการปรับลง (Downside) คาดว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตั้งแต่กลางสัปดาห์เป็นต้นไป สหรัฐฯจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ยอดอนุญาตก่อสร้าง+ยอดสร้างบ้านใหม่ในคืนวันพุธ และยอดขายบ้านมือสองในคืนวันพฤหัสบดี ซึ่งระยะหลังข้อมูลเหล่านี้ออกมาไม่ดีนัก กระแสเงินจึงมีโอกาสโยกย้ายกลับเข้าหา Safe Haven อีกครั้งได้

นอกจากนี้ จีนจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญงวดเดือน ธ.ค. 2553 เป็นจำนวนมากในช่วงกลางสัปดาห์ อาทิ GDP, อัตราเงินเฟ้อ, ยอดค้าปลีก, และข้อมูลภาคการผลิต ซึ่งคาดว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่ออกมาดีจนมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางจีนจำเป็นต้องออกมาตรการนโยบายการเงินเชิงเข้มงวดเพิ่มเติมอย่างการเพิ่มเพดานกันสำรองหรือการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพราะข้อมูลเหล่านี้น่าจะถูกฉุดจากการออกนโยบายการเงินเชิงเข้มงวดอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังยืนสูงเหนือระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทองคำจึงยังเป็นที่ต้องการเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้ออยู่ต่อไป และการเข้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าปีนี้คนจีนจะนำเข้าทองคำกัน

มากขึ้น หลังจากภาครัฐอนุญาตให้ภาคเอกชนนำเข้าทองคำได้เองนับตั้งแต่กลางปีก่อนเป็นต้นมา รวมทั้งผลวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ของเราสะท้อนว่า Upside มากกว่า Downside โดยค่าเฉลี่ยของราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 1,383 ดอลลาร์
สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ ส่วน Upside เฉลี่ยอยู่ที่ 1,427 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ (สูงกว่าราคาปิดในสัปดาห์ก่อน 4.9%) และ Downside เฉลี่ยอยู่ที่ 1,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ต่ำกว่าราคาปิดสัปดาห์ก่อน 1.5%) ซึ่ง Upside ที่สูงเกิน 4.0% ถือว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จึงเชื่อว่าราคาจะปรับตัวลงอีกไม่มาก