ททท. ผนึกกำลัง 12 เว็บไซต์ดัง จัดโครงการเที่ยวทั่วไทย “กอดเมืองไทยให้หายเหนื่อย”

ณ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. ให้เกียรติเป็นประธานในงาน แถลงข่าวโครงการเที่ยวทั่วไทย ภายใต้แคมเปญ “กอดเมืองไทย ให้หายเหนื่อย” ผ่านไมโครไซต์(www.ehotelbooking.com/tathug) และจับรางวัลผู้โชคดีจากโครงการฯ โดยมี นาย สตีเว่น ฟง กรรมการบริษัท eInternetwork พร้อมแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน

ททท. จัดทำแคมเปญพิเศษภายใต้ชื่อโครงการ “กอดเมืองไทย ให้หายเหนื่อย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น รวมถึงกระตุ้นธุรกิจและบริการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวขึ้น โดยประชาสัมพันธ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ ความยาวประมาณ 30 วินาที ทางเว็บไซต์ที่อยู่ในเครือข่ายไทยทีวีซีเน็ทเวอร์ค (Thai TVC Network) จำนวน 12 เว็บไซต์ ประกอบด้วย Matichon.co.th Khaosod.co.th Prachachat.net Mthai.com Yenta4.com Moohin.com Gotomanager.com Positioningmag.com Siamza.com You2play.com Atcloud.com และ Popcornfor2.com ซึ่งการลงโฆษณาของไทยทีวีซีเน็ตเวอร์ค จะเป็นการลงโฆษณาในรูปแบบของวีดีโอโฆษณา ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการลงโฆษณาออนไลน์ทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาในรูปแบบของแบนเนอร์ (ภาพนิ่ง) โดยที่ผู้ชมจะสามารถส่งต่อวีดีโอโฆษณานี้ให้กับเพื่อน ๆ ได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค (facebook) ทวิตเตอร์ (twitter) หรืออีเมล์ และสามารถเข้าร่วมสนุกกับโครงการนี้โดยการคลิกที่วีดีโอโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นมาในหน้าจอตามช่วงเวลาต่าง ๆ กันเพื่อเข้าสู่หน้า web ลงทะเบียน (หรือสามารถเข้าสู่หน้าลงทะเบียนได้ที่ www.ehotelbooking.com/tathug) และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

สำหรับระยะเวลาในการดำเนินโครงการตั้งแต่ที่ 15 ธันวาคม 2553 – 15 กุมภาพันธ์ 2554 และการจับรางวัลครั้งที่ 1 ในวันนี้ (17 มกราคม 2554) มีจำนวน 29 รางวัล และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีผู้ประกอบการภาคเอกชน ทั้งโรงแรม รีสอร์ท และที่พักหลายรายจากทั่วประเทศไทย ให้การสนับสนุนแพคเกจที่พักแก่ผู้โชคดีที่เข้าร่วมสนุกกับโครงการ รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 7 แสนบาท

นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการททท. เปิดเผยว่า “การจัด โครงการเที่ยวทั่วไทย ภายใต้แคมเปญ “กอดเมืองไทย ให้หายเหนื่อย” ดำเนินการโฆษณาและประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อเว็บไซต์ นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งในเดือนแรกมีผู้เข้าชมกว่า 4 แสนคนและร่วมลงทะเบียนกับโครงการมากกว่า 6,000 คน นับเป็นผลสำเร็จในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านตลาดออนไลน์ เพื่อให้ทันกระแสโลกยุคดิจิตอล โดยใช้กลยุทธ์ Digital Marketing และ Social Media Marketing ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมการใช้สื่อของนักท่องเที่ยวและเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยสนับสนุนภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม / โครงการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนในโอกาสต่อไป”