พีแอนด์จีแตกไลน์โอเลย์-ยิลเล็ตต์รุกตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าผู้ชาย

บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) (พีแอนด์จี ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทยวันนี้ประกาศรุกตลาดผลิตภัณฑ์ ดูแลผิวหน้าผู้ชายเต็มรูปแบบ เปิดตัวสองไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสำหรับผิวผู้ชายโดยเฉพาะ “โอเลย์ เมน โซลูชั่นส์” จับกลุ่มผู้ชายใส่ใจภาพลักษณ์และการดูแลผิว และ “ยิลเล็ตต์ ซีรี่ย์” สำหรับผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง รับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าผู้ชายโต 36% ในปี 2553 ที่ผ่านมา

มร. ราอูล ฟัลคอน กรรมการผู้จัดการ พีแอนด์จี ประเทศไทย กล่าวว่า “การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพีแอนด์จีที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและภาพลักษณ์ (Beauty & Grooming) ของไทย โดย ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกและความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีอยู่โดยโอเลย์ถือเป็นแบรนด์ผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าขณะที่ยิลเล็ตต์เป็นผู้นำในตลาดใบมีดและอุปกรณ์โกนหนวดของไทย”

ปัจจุบันโอเลย์เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในไทยโดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 25.8% โดยตัวเลขณ ไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 ที่ผ่านมา โอเลย์มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดทั้ง ในเซ็กเม้นต์กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยและผลิตภัณฑ์เพื่อผิวดูขาวกระจ่างใสโดยอยู่ที่ 13.0%และ 13.3% ตามลำดับ ขณะที่ยิลเล็ตต์มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 70% ในตลาดใบมีดและอุปกรณ์โกนหนวดของไทย

“โอเลย์ เมน โซลูชั่นส์และยิลเลตต์ ซีรี่ย์จะช่วยให้เราสามารถเจาะตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าผู้ชายได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยโอเลย์ เมน โซลูชั่นส์จะจับกลุ่มผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และใส่ใจการดูแลผิวและต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับผิวตัวเอง ขณะที่ ยิลเลตต์ สกินแคร์จะจับกลุ่มผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉงไม่หยุดนิ่ง ที่มองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าขั้นพื้นฐาน อาทิเช่น โฟมล้างหน้าและครีมบำรุงผิว” มร.ราอูล กล่าว

โอเลย์ เมน โซลูชั่นส์มีกำหนดเปิดตัววันนี้ (14 มีนาคม) ขณะที่ยิลเลตต์ ซีรี่ย์ ได้วางตลาดในไทย เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“ในปี 2553 ที่ผ่านมา ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและภาพลักษณ์ (Beauty & Grooming) ของบริษัทได้เติบโตในอัตราที่เป็นที่น่าพอใจ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของพีแอนด์จีเติบโตในอัตราที่สูงกว่าตลาดโดยรวมถึงเกือบสองเท่า โดยธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของ พีแอนด์จีโตในอัตรา 4% ในขณะที่ตลาดรวมโตเพียง 2% ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของเราก็โตขึ้น 7% เมื่อเทียบกับตลาดรวมที่โตในอัตรา 4%” มร.ราอูลกล่าว

ในปี 2553 ที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของไทยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 8,129 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าผู้ชายมีสัดส่วนประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดโดยรวม หรือคิดเป็นประมาณ 766 ล้านบาท

มร.ราอูลกล่าวว่า “สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โอเลย์ รีเจนเนอรีสและโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ นับเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการลดเลือนริ้วรอยและบำรุงผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองแบรนด์มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปี 2553 ในขณะที่โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าลดเลือนริ้วรอยที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา”

ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของไทยซึ่งประกอบด้วยแชมพู ครีมนวดผม และทรีทเมนต์ มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 13,200 ล้านบาท โดยในปี 2553 ที่ผ่านมา พีแอนด์จีมีส่วนแบ่ง 31.7% ในตลาดดังกล่าว โดยแพนทีนและเฮดแอนด์โชเดอร์ถือเป็นแบรนด์ดูแลเส้นผมหลักในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูงสุดของไทยในปีที่ผ่านมาและมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15.1% และ 6.7% ตามลำดับ

พีแอนด์จีเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและดูแลภาพลักษณ์บุรุษ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแพนทีน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโอเลย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อการโกนหนวด ยิลเลตต์ ในประเทศไทย พีแอนด์จี เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรายใหญ่ที่สุดไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์