อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ ร่วมกับ นิตยสาร ไทยแลนด์ เรสเตอรองต์ นิวส์ จัดงานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ 2011” หรือ “อาร์ แอนด์ บี 2011” รวมพลังหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นภายใต้แรงกดดันจากเศรษฐกิจที่แปรผัน โดยผนึกกำลังกับ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท ชัยทิพย์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายข้าวแบรนด์พนมรุ้ง, บริษัท บุญรอดบริวเวอร์รี่ จำกัด และบริษัทดั๊กคิง จำกัด มาเพิ่มความแข็งแกร่งสานต่อความยิ่งใหญ่และยกระดับความเป็นมืออาชีพให้กับวงการร้านอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมตอกย้ำจุดแข็งการเป็นงานแสดงสินค้าเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บาร์ การจัดเลี้ยง รวมไปถึงการบริการระดับนานาชาติ ที่จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 7-9 กรกฎาคม 2554 ณ อาคาร 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยได้มีการแถลงข่าว “Thailand International Restaurant and Bar 2011 Industry Briefing” ถึงรายละเอียดความคืบหน้าในการจัดแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนาที่จะมีขึ้น นำโดยคณะผู้จัดงาน บริษัท เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ซีแอด โปรโมชั่น (1997) จำกัด ผู้จัดทำนิตยสารไทยแลนด์ เรสเตอรองต์ นิวส์ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมศึกษาทิศทางของอุตสาหกรรมและความท้าทายที่ต้องประสบในช่วงที่เศรษฐกิจแปรผัน ซึ่งโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก ผอ.ไพโรจน์ สันตนิรันดร์ ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร, ภูษิต เพ็ญศิริ รองประธานศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจและจริยธรรม มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา และบุญฉวี เชื้อศิริวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “Supply Chain Change Value Chain” การสร้างคุณค่าของห่วงโซ่อาหาร เพื่อความคุ้มค่า นำไปสู่การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่ม
ผอ.ไพโรจน์ สันตนิรันดร์ ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า งานอาร์ แอนด์ บี 2011 ถือเป็นหนึ่งโอกาสที่สำคัญที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมีโอกาสมาร่วมมือกัน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมด้านอาหารที่พัฒนาศักยภาพและเติบโตไปอย่างมั่นคง ซึ่งภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ผันแปร ผู้ประกอบการจึงควรมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สำหรับกรุงเพทมหานครเองได้มุ่งมั่นให้เกิด Supply Chain ที่แข็งแกร่ง ภายใต้นโยบายหลักในการเร่งผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมื่องท่องเที่ยวชั้นนำของโลก โดยหนึ่งในบทบาทสำคัญนั้นก็คือการสนับสนุนให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารปลอดภัย ซึ่งได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จัดโครงการ “Bangkok Green Restaurant” ส่งเสริมให้ร้านอาหารปลอดภัย สุขาภิบาลอาหาร และสิ่งแวดล้อม โดยจะเข้ามาดูแลเรื่องของ Supply Chain มีการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตฐานสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจร้านอาหารให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น
ด้านอาจารย์ ภูษิต เพ็ญศิริ รองประธานศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจและจริยธรรม มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา กล่าวว่า ตลาด Food Service สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 60 % เมื่อเทียบจากสภาวะการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจปีที่แล้ว มองว่าปีนี้ จะสามารถเติบโตมากขึ้น หากผู้ประกอบการคำนึงถึงคู่ค้าและลูกค้าเป็นสำคัญ มีการพัฒนาธุรกิจให้คิดนอกกรอบ สามารถต่อยอดธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งในงาน R&B 2011 ได้รวบรวมกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจทางด้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งในด้านการเงิน การอบรมสัมมนา เทคโนโลยีชั้นนำ ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจอาหารที่ผู้ประกอบทุกระดับ
สำหรับภาคเอกชน บุญฉวี เชื้อศิริวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Supply Chain ถือเป็นแนวทางพัฒนาธุรกิจที่สำคัญ ทำให้ธุรกิจมีการจัดการที่มีมาตรฐาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร ให้กับอุตสาหกรรมอาหารและธุรกิจบริการ โดยในส่วนของผลิตภัณฑ์ SME จำเป็นต้องมีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง ส่วนผลิตภัณฑ์ระดับอุตสหกรรมอาหาร ก็ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และในส่วนของธุรกิจบริการเองจำเป็นต้องพัฒนาแบรนด์ในทุกมิติ โดยนำความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นที่ตั้ง ด้วยการจัดการแนวใหม่เพื่อเพิ่มกำไร เพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ ด้วยการจัดการบริหารต้นทุน หรือละต้นทุน แต่ไม่ลดคุณภาพ ฉะนั้นงานนี้ จึงเหมาะสำหรับธุรกิจทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสต่อยอดให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ในฐานะผู้จัดงาน R&B 2011 ฉัฐพร โยเหลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแอด โปรโมชั่น (1997) จำกัด กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์แนวโน้มอาหารไทยในปี 2554 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าอัตราขยายตัวมีแนวโน้นต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยภาคการผลิตคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.6 จากที่ขยายตัวได้ร้อยละ 4.3 ในปี 2553 และในปี 2554 ธุรกิจบริการร้านอาหารในกลุ่ม Horeca มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30 % ดังนั้นการจัดงาน R&B 2011 นอกจากจะรวบรวมเอาสินค้าและบริการสำหรับธุรกิจเอาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว ยังได้เพิ่มความเข้มข้นในเรื่องของข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหารไว้อย่างครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ตลอดจนวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่ธุรกิจ พร้อมมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าว ได้รับโอกาสและแนวทางใหม่ในการพัฒนาธุรกิจในทุกมิติแบบ 360 องศา ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนแปลง
พรพรรณ บุลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ กล่าวเสริมว่า “ด้วยความเป็นมืออาชีพทางด้านการจัดงานแสดงสินค้า ประกอบกับการมีสื่อตัวจริงด้านอาหารและเครื่องดื่มอย่าง ไทยแลนด์ เรสเตอรองต์ นิวส์ พันธมิตรผู้ร่วมจัดงาน ทำให้งานนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากสปอนเซอร์ ผู้จองบูธ และสมาคมอาชีพต่างๆ ของวงการเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมชมงานที่คาดว่า งานนี้จะเป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่เป็นมืออาชีพทางด้านอุตสาหกรรมร้านอาหาร และบาร์อย่างแท้จริง จากความสำเร็จของผู้ร่วมแสดงงานทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ในปีที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีการตอบรับเข้าร่วมงานในปีที่ 2 กันอย่างคับคั่ง จึงมั่นใจว่า ปีนี้จะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” สำหรับผู้สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ 0-2833-5112 หรืออัพเดทข้อมูลได้ทาง www.thairestaurantandbar.com
