นันยาง วางกลยุทธ์ตลาดปี 54 เน้นพัฒนาสู่การเป็นแบรนด์แห่ง “ตำนาน”

นายสมชาย สีสมสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจของ นันยาง ในปีที่ผ่านมานั้น กล่าวได้ว่าบรรลุเป้าหมาย เพราะสามารถสร้างอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ในช่วง Back to School นอกจากนี้ เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ เพื่อเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยในปี 2554 นันยาง ยังคงยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งทำการตลาดอย่างสร้างสรรค์ การยึดมั่นในการดำรงคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุด รวมทั้งการมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพช่องทางการจัดจำหน่าย สำหรับ Back to School ในปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา

“ในปีนี้เราเน้นกลยุทธ์การสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายแบบบูรณการ โดยสร้างสรรค์ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ นันยาง นำจุดเด่นต่างๆ ด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์มาหลอมรวมเป็นจุดขายที่เด่นชัด เพื่อสะท้อนให้เห็นความเป็นผู้บุกเบิกตลาด “รองเท้านักเรียนที่ดีที่สุด” ในเมืองไทยที่ยังคงครองความเป็นหนึ่งจนถึงปัจจุบัน” นายสมชาย สีสมสง่า กล่าว

ปัจจุบัน ตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ สามพันกว่าล้านบาท โดยนันยางยังครองความเป็นแบรนด์ผู้นำตลาดมาอย่างต่อเนื่อง นันยางมีสินค้าในกลุ่มนักเรียนที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ที่ผลิตโดยเน้นมาตรฐานความปลอดภัย ใส่สบาย ทนทาน มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ 1) รุ่น 205-S รองเท้าผ้าใบต้นตำรับนันยางพื้นเขียว 2) รุ่น Lite ทนทานเหลือเชื่อ เบาสบายเหลือเกิน และ 3) รองเท้าหัวผ้ารุ่น 121-N สวย ทน ใส่สบาย

ในส่วนกิจกรรมการตลาดด้าน Social Network นั้น นันยาง ถือเป็นแบรนด์รองเท้าผ้าใบนักเรียนผู้บุกเบิกกิจกรรมผ่านช่องทางดังกล่าว “ในปีที่ผ่านมา นันยาง ได้เริ่มทำการตลาดผ่าน Facebook โดยสร้างสรรค์เกมส์สนุกๆ ให้กลุ่มเป้าหมายได้มีส่วนร่วม ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมาก เกินคาดหมายภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับแต่ละกิจกรรม และทั้งได้สานต่อการสื่อสารผ่าน Social Network เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบัน นันยาง มีสมาชิกใน Facebook มากที่สุดในตลาดรองเท้าผ้าใบ ดังนั้น ในปี 2554 นันยางจึงได้เพิ่มงบประมาณด้านสื่อออนไลน์กว่าเท่าตัว เพื่อขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าในปีนี้จะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้ถึง 100,000 คน” นายสมชาย สีสมสง่า กล่าวแสดงความเชื่อมั่น

ด้านมุมมองต่อทิศทางการเติบโตของตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนในเมืองไทยนั้น นายสมชาย กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ปีนี้ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา แต่ละแบรนด์ต้องพัฒนาแนวทางการทำตลาดที่แตกต่าง ผ่านการสร้างจุดขายที่เด่นชัด แต่ก็จะมีบางแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ Me-too สร้างความใกล้เคียงเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด ในฐานะแบรนด์ผู้นำตลาด นันยางจึงได้พัฒนารูปแบบการทำตลาดใหม่ๆ เพื่อหนีผลกระทบอันเกิดจากกลยุทธ์ Me-too ผ่านกิจกรรมระดับประเทศที่ยังไม่มีแบรนด์ใดเคยทำมาก่อน โดยจะนำเอากิจกรรมที่เหล่านักเรียนคุ้นเคยและนิยมอย่างสูงสุดมาพัฒนาเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อสร้าง Community ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นของ นันยาง และก้าวสู่การเป็นแบรนด์แห่ง “ตำนาน” ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน ศกนี้ ต้อนรับช่วงเปิดเทอมรวมถึงสร้าง Share of Voice เพื่อต้อนรับเทศกาล Back to School ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเชื่อว่า กิจกรรมดังกล่าวจะกลายเป็น Talk of the Town โดยขอให้ทุกท่านโปรดติดตามความเคลื่อนไหว และเชื่อว่ากิจกรรมนี้จะส่งผลช่วยตอกย้ำภาพความเป็นตำนาน และช่วยสร้างยอดขายในช่องทางการจำหน่ายให้สูงขึ้น ทั้งนี้ นันยาง ได้วางแผนเรื่องกำลังการผลิตของโรงงานไว้รองรับการเพิ่มขึ้นของยอดขายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว”