จับตายักษ์ใหญ่ “แสนสิริ” เตรียมทวงเก้าอี้ผู้นำบ้านเดี่ยวระดับไฮน์เอนด์

 

แสนสิริรุกทวงเก้าอี้ผู้นำบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์แบรนด์ “นาราสิริ” เปิดตัว 2 โครงการใหม่ ได้แก่ นาราสิริ ไฮด์อเวย์ (Narasiri Hideaway)เอกมัย-รามอินทรา และ นาราสิริ โทเพียรี่ (Narasiri Topiary) นวมินทร์ เผยโฉมบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์บูทีครีสอร์ทส่วนตัว บนทำเลศักยภาพที่พร้อมรองรับการใช้ชีวิตอย่างเหนือกว่า มูลค่า 2 โครงการรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดกระแสตอบรับดีสอดคล้องผลวิจัยซึ่งชี้แนวโน้มตลาดบ้านเดี่ยวปี 2555 บ้านเดี่ยวราคาสูงตอบรับดี เตรียมจัดงาน (Pre-Sales) เปิดตัวการขาย นาราสิริ โทเพียรี่ ในวันที่ 7-8 ก.ค.นี้

นายเมธา  อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว 2 โครงการบ้านเดี่ยวใหม่ที่ชื่อว่า “นาราสิริ ไฮด์อเวย์” เอกมัย – รามอินทรา และ “นาราสิริ โทเพียรี่” นวมินทร์ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮน์เอนด์ใหม่ล่าสุดของแสนสิริ ที่นำเสนอจุดขายที่โดดเด่นด้วยบ้านเดี่ยวสไตล์บูทีค รีสอร์ทส่วนตัว ขนาด 3 ชั้น บนทำเลศักยภาพ เอกมัย – รามอินทรา และนวมินทร์ ที่พร้อมรองรับการใช้ชีวิตเมืองอย่างเหนือกว่าด้วยเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย มูลค่าโครงการขายทั้ง 2 โครงการ รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยสำหรับโครงการนาราสิริ ไฮด์อเวย์ บริษัทได้จัดเปิดตัวการขายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 40% จากจำนวนทั้งสิ้น 60 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 15.99 ล้านบาท ขณะที่โครงการ นาราสิริ โทเพียรี่ จะมีการจัดงาน Pre-Sales เปิดตัวการขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 7-8 กรกฎาคมนี้ ในราคาขายเริ่มต้น 16.99 ล้านบาท 

“ช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา แสนสิริยังไม่มีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์นาราสิริใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เนื่องจากทำเลที่ดินส่วนใหญ่ยังไม่เหมาะสมกับการพัฒนาสินค้าระดับไฮน์เอนด์ โดยโครงการล่าสุดภายใต้แบรนด์นาราสิริ ที่บริษัทได้พัฒนาและปิดการขาย คือ โครงการ ดิ เอ็มเพอร์เร่อ นาราสิริ คอลเลคชั่น ในขณะที่ความต้องการบ้านเดี่ยวระดับบนก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และสินค้าใหม่ๆ ในตลาดนี้ก็มีอยู่ไม่มาก สอดคล้องกับผลสำรวจแนวโน้มตลาดบ้านเดี่ยวปี 2555 ซึ่งสถานการณ์ตลาดบ้านเดี่ยวจะมีแนวโน้มที่ดีสวนกระแสวิกฤตมหาอุทกภัยปี ’54 ที่ผ่านมา โดยอุปทานรวมจนถึงครึ่งปีแรกนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก ทั้งอุปสงค์และอุปทานประมาณ 3 – 5% จนทำให้สัดส่วนยอดขายอยู่ในระดับ 55 – 60% โดยระดับราคาที่มีเสนอขายนั้น แนวโน้มผู้ประกอบการจะขยายกำลังการผลิตไปที่กลุ่ม 5-7 ล้านบาท และ 10 – 20 ล้านบาทเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีอัตราดูดซับดีเพราะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภครายได้สูง ประกอบกับอุปสงค์ในกลุ่มนี้ มีภาวะความเสี่ยงต่ำต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ รวมทั้งคู่แข่งขันก็มีน้อยราย จึงทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสชิงส่วนแบ่งอุปสงค์ได้สูง ดังนั้นการที่แสนสิรินำที่ดินที่มีศักยภาพสูง เหมาะสมกับการพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ โครงการมีจุดเด่นที่ชัดเจนสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนอย่างแท้จริงได้ ทำให้เชื่อมั่นว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะสามารถตัดสินใจซื้อโครงการที่มีคุณภาพเช่นนี้ได้อย่างรวดเร็วแน่นอน” นายเมธา กล่าว 

สำหรับโครงการนาราสิริ ไฮด์อเวย์ เอกมัย – รามอินทรา เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์บูทีค รีสอร์ทส่วนตัวด้วยแนวคิด Modern Hideaway Resort กับการออกแบบองค์ประกอบของโครงการให้เรียบง่ายเป็นธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัว ด้วยบ้านเดี่ยวในสังคมระดับเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 60 ยูนิต ประกอบด้วย 2 แบบบ้านได้แก่ Serene (ซี-ลีน) พื้นที่ใช้สอย  281  ตร.ม. และ Haven (ฮา-เว่น) พื้นที่ใช้สอย 325  ตร.ม. ขนาดบ้านเริ่มต้นตั้งแต่ 52.50 – 128.40 ตารางวา เน้นความเรียบหรูและใกล้ชิดธรรมชาติในรูปแบบที่เรียบง่าย ภายใต้ทำเลเมือง พื้นที่โครงการประมาณ 15 ไร่ โครงการตั้งอยู่บนในซอยโยธินพัฒนา 3 ถนนนวมินทร์ 111  ซึ่งแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ใกล้เคียง อาทิ ห้างสรรพสินค้า Central ลาดพร้าว,The Crystal Park, CHIC Republic และ Crystal Design Center(CDC) รวมทั้งซุปเปอร์มาเก็ต Foodland ลาดพร้าว, Lotus  เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทราและนวมินทร์ City Avenue โรงพยาบาลลาดพร้าว, โรงพยาบาลเวชธานี, โรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล รวมถึงสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนเลิศหล้า, โรงเรียนนานาชาติ NIVA, โรงเรียนบดินทรเดชา 2 เป็นต้น 

โครงการนาราสิริ โทเพียรี่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์บูทีค รีสอร์ท ออกแบบเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตรสนิยมหรู ตอบรับกับการใช้ชีวิตเมือง ผ่านการออกแบบงานแลนด์สเคปของโครงการ โดยนำแนวความคิดหลักมาจากการประยุกต์ความสง่างามแห่งโลกตะวันตก ผ่านรายละเอียดและองค์ประกอบที่ใช้ประดับงานแลนด์สเคป รวมทั้งมีการวางผังอย่างเป็นระบบ โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 15 ไร่ของถนนนวมินทร์ จำนวนทั้งสิ้นเพียง 57 ยูนิต ประกอบด้วยแบบบ้าน 2 แบบ ได้แก่ Pine พื้นที่ใช้สอยรวม 281 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน และ Conical พื้นที่ใช้สอยรวม 330 ตารางเมตร 6 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน  โครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ติดถนนนวมินทร์ที่เดินทางได้สะดวก ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ใกล้ถนนวงแหวนตะวันออก ทำให้เดินทางสู่สุวรรณภูมิได้ง่ายขึ้น  รายล้อมด้วยสถานที่ต่างๆมากมาย ทั้งโรงเรียนเบญจมินทร์และโรงเรียนบดินทรเดชา 2, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,  โรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลเปาโล เมม-โมเรียล และโรงพยาบาลเวชธานี  ศูนย์การค้าต่างๆ อาทิ Max Value,  เดอะมอลล์ บางกะปิ, เทสโก้โลตัส บางกะปิและเทสโก้โลตัส เลียบทางด่วน, แฟชั่นไอร์แลนด์, นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว, เดอะ คริสตัล พาร์ค, Crystal Design Center(CDC) และตลาดปฐวิกรณ์ รวมทั้งสนามกอล์ฟปัญญาอินทราและสนามกอล์ฟ นวธานี เป็นต้น กำหนดเปิดการขายอย่างเป็นทางการ (Pre-Sales) ในวันที่ 7- 8 กรกฎาคมนี้ ในราคาเริ่มต้น 16.99 ล้านบาท 

สำหรับแบรนด์บ้านเดี่ยว “นาราสิริ” นี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มต้นพัฒนาขึ้นในปี 2542 โดยการตัดสินใจขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ จากเดิมที่เป็นการพัฒนาอาคารสูงในเขตใจกลางเมือง ในฐานะผู้ประกอบการอันดับหนึ่งในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมมาตลอด สู่การพัฒนาที่ดินแนวราบประเภทโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกของแสนสิริได้แก่ “นาราสิริ วัชรพล” จำนวน 157 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการกว่า 32 ไร่ ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดีจึงมีการขยายโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2545 และปี 2546 เป็นต้นมา จุดเริ่มต้นของบ้านหลังแรกในแบรนด์ “นาราสิริ” ณ วันนั้น สานเส้นทางการดำเนินธุรกิจบ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยว ให้แสนสิริก้าวเดินอย่างต่อเนื่องและเติบโตเคียงข้างสังคมเมืองด้วยโครงการใหม่ๆ อีกหลากหลายโครงการในปัจจุบัน ภายใต้แบรนด์บ้านเดี่ยวต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน อาทิ เศรษฐสิริ, บุราสิริ, สราญสิริ และฮาบิเทีย จนสามารถตอบความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม

นอกจากนี้บ้านเดี่ยวแบรนด์ “นาราสิริ” ยังนับเป็นต้นแบบบ้านดีไซน์เด่นจากแสนสิริ ที่เกิดจากความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการอยู่อาศัยอย่างใส่ใจรายละเอียด  โดยเฉพาะแนวคิด Attention to Details ที่มุ่งเน้นการสร้างบ้านบนพื้นฐานของการใช้ชีวิตด้วยประสบการณ์ในฐานะผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยที่ประสบความสำเร็จสูง ทำให้“นาราสิริ” ในวันนี้ เป็นบ้านที่ตอบรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์