9 เทรนด์สุดชิค ผู้บริโภค

 

ทิศทางความสนใจของโลกที่พุ่งตรงมาที่เอเชีย  Y&R ประเทศไทย จึงร่วมมือกับเครือข่ายบริษัท Y& R ในอีก 9 ประเทศ ทำงานวิจัยในหัวข้อ “Y& R Generation Asia สรรพวุฒิทางความคิด จับทิศทางของกระแสความต้องการผู้บริโภคทั่วเอเชีย”

 โดยสัมภาษณ์ทางออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง 13,993 คน จาก 9 ประเทศในเอเชีย ประกอบด้วย ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม เฉลี่ยประเทศละประมาณ 1,500 คน เพื่อสอบถามข้อมูลถึงทัศนคติ พฤติกรรมการใช้สินค้าและการเปิดรับข่าวสาร 

แนวโน้มของพฤติกรรมการบริโภคที่เกิดขึ้นในสังคมไทย 9 เรื่อง 

1. Local Chic ถึงจะท้องถิ่นแต่ก็ชิค ผู้บริโภค 70% ถ้ามีโอกาสจะซื้อสินค้า Local Made ก็จะซื้อ และไม่คิดว่าสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นดูเชย ยิ่งเป็นแบรนด์ที่มีการออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัย แม้จะชื่อแบรนด์จะท้องถิ่นก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ผลไม้ไทย “ลุงกลิ่น” ที่ใช้แพ็กเกจจิ้งหุ้มแตงโมด้วยผักตบชวาสาน ทำให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้น หรือแบรนด์ boyy สินค้าไทยที่ฝรั่งยังต้องเอาไปเลียนแบบ 

2. Brand Jacking หาข้อมูลไว้ก่อน เวลาที่เอเยนซี่วางแผนการตลาดมักมองหาวิธีการเข้าหาผู้บริโภค ซึ่ง 69% ของลูกค้ากลุ่ม General Asia ยินดีที่จะลองของใหม่เป็นกลุ่มแรกๆ ของสังคม ขณะที่ 71% บอกว่าเปิดรับก็จริงแต่คนที่พวกเขาจะฟังเป็นเพื่อน ขณะที่ 88% บอกว่ายังไงก็ต้องเช็กข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตัดสินใจซื้อนั้นถูกต้อง 

นั่นแปลว่าถึงแม้ว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีเวลาน้อยแต่ก็ขอข้อมูลเยอะๆ ไว้ก่อน ดังนั้นวิธีการที่แบรนด์จะเข้าถึงผู้บริโภคเลยต้องใช้วิธีไฮแจ็คไม่ให้ผู้บริโภครู้ตัวว่าถูกแบรนด์นำสนอข้อมูลเข้าให้แล้ว ผ่าน Influencer กลุ่มใหม่ๆ เช่น บิวตี้บล็อกเกอร์ หรือแฟนเพจแปลกๆ อย่าง “เมื่อวานป้าทานอะไร” ที่จะมาคำนวณแคลอรีให้ผู้บริโภค 

3. Insight Anonymous “แสดงออก แต่ไม่บอกนาม” ผู้บริโภคใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสารกันเยอะมาก และคนกลุ่มนี้นิยมแสดงความคิดเห็นโดยไม่บอกว่าตัวเองคือใคร เช่น แฟนเพจ “อยู่เมืองชิค ต้องทำตัวดัดจริต” “คิดว่าดีก็ทำไป” ซึ่งกลุ่มพวกนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อเสียดสีสังคม เป็นเรื่องที่นักการตลาดต้องคิดว่าจะต้องหา Demographic ของคนกลุ่มนี้ได้ 

4. Afforadble Luxury ประสบการณ์หรูกว่าเงิน ความหรูหราถูกตั้งนิยามใหม่ จากเดิม หรูหราคือแพง หรือวัตถุ แต่ตอนนี้กลายเป็น หรูหราคือประสบการณ์ เช่น เดี๋ยวนี้เราสามารถเล่นเซิร์ฟบอร์ดได้กลางสุขุมวิท การออกกำลังกายด้วยโยคะ หรือมวย ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพแต่กลายเป็นวิธีการแสดงออกสถานะ 

5. Beauty is Sex-less ศัยกรรมทำได้ ผู้บริโภคพร้อมที่จะลองสินค้าเพื่อความสวยความงามแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และผู้ชาย 43% รับได้กับการทำศัลยกรรม ขณะที่ผู้หญิง 55% ก็รับได้กับการทำศัลยกรรมเช่นกัน เทรนด์นี้ทำให้เกิดบริการใหม่ๆ รับทำ 6 Packs High Definition ในราคาแพงลิบลิ่วสำหรับผู้ชาย, รับศัลยกรรมในราคาถูกแถมผ่อน 0% 10 เดือน รวมทั้งโปรดักท์ใหม่ เช่น MID for TOM บิวต้โปรดักต์สำหรับทอม 

6. Glamour for Investment นิยมซื้อแฟชั่นแบรนด์เนมเพื่อเก็งกำไร   72% บอกว่ายินดีจ่ายแพงกว่าเพื่อสินค้าที่มีคุณภาพ ผู้บริโภคมีทัศนคตินิยมของที่มีคุณภาพมากกว่าแค่ถูก และถ้าแบรนด์มีชื่อเสียงก็น่าจะการันตีได้ ผู้บริโภคเชื่อว่าการจ่ายแพงกว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นก็คือการซื้อสินค้าแฟชั่นบางอย่างมาเพื่อเป็นการเก็งกำไร เช่น ผ้าพันคอของแบรนด์แฟชั่นไทย Kloset ที่ราคาขายหน้าร้าน 800-900 บาท แต่เมื่อสินค้าหมดไป ก็เอามาปล่อยกันในเว็บไซต์ถึง 8-9 พัน นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาบางรุ่นที่ซื้อตอนราคาถูกแล้วขายตอนราคาแพงขึ้น การจ่ายเงินแพงๆ ของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่เพื่อบ่งบอกรสนิยม แต่คิดว่าเป็นการสร้างผลตอบแทนในอนาคต 

7.Impulse Traveling คนรุ่นใหม่ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าก็เที่ยวได้ จึงเป็นที่มาของการกระตุ้นโปรโมชั่นของสายการบิน โรงแรม ที่เสนอโปรแกรมแบบปัจจุบันทันด่วน ซื้อล่วงหน้าแค่ 6 วันแล้วขึ้นบินเลย ในราคาถูกกว่า

8.Transient Treasure อยากหรูเช่าก็ได้ 45% ของคนไทยเป็นพวกสุขนิยมของซื้อไว้ก่อน และ 1 ใน 3 ของคนไทยยอมรูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อความสุขในวันนี้ แล้วเอาเงินของพรุ่งนี้มาใช้คืน ขณะที่ 2 ใน 3 ยังระวังเรื่องการใช้บัตรเครดิตอยู่ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นก็คือสินค้าหรูบางอย่างที่ผู้บริโภคซื้อไม่ไหวก็มีบริการใช้เช่า 

9.Social Network Existing Offline เพื่อนเยอะไว้ก่อน 82% ของความสนุกต้องเป็นแบบ Collective Society เมื่อใดที่เจอเพื่อนต้องออกไปแฮงค์เอาต์กันนอกบ้าน ถึงแม้ว่าโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คจะทำให้คนรวมกลุ่มกันได้ แต่คนไทยก็ยังคิดว่าสังคมแบบที่ต้องเจอะเจอตัวกันเป็นเรื่องจำเป็น พฤติกรรมที่เกิดขึ้นก็คือ การรวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น Car Free Day ก็รวมตัวกันขี่จักรยาน ร้านอาหาร 24 ชั่วโมงเกิดมากขึ้น ในด้านความรู้สึกผู้บริโภคจะคิดว่าเวลานั่งในร้านอาหารเทรนดี้อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องนั่งในร้านอาหารเทรนดี้พร้อมกับเพื่อนเยอะๆ สิ ถึงจะเจ๋งจริง