สาวออฟฟิศเลือกแบรนด์ไหน

เพราะสาวออฟฟิศมีอินไซต์ว่า “หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ความสำเร็จในการทำงานและใช้ชีวิตส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอมีหน้าตาและบุคลิกที่ดี ลองมาดูพฤติกกรรมกันว่าเมื่อพวกเธอให้ความสำคัญขนาดนี้ เธอใส่ใจกับคอสเมติคแค่ไหน

30% ซื้อเครื่องสำอางเคาน์เตอร์ เช่น MAC, NARS เพราะมีความรู้สึกว่าภูมิใจเวลาได้หยิบออกมาใช้
11.4% ไม่แต่งหน้า แต่!!! คำว่าไม่แต่งหน้าของพวกเธอ คือ ใช้แค่แป้งพัพกับลิปติค โดยเหตุผลที่พวกเธอใช้แค่นี้ก็เพราะ ไม่รู้จะแต่งไปทำไม เจอแต่คนในออฟฟิศ

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้า เธอเลือกดังนี้
13.9% Olay
12% Smooth E
11% ใช้ผลิตภัณฑ์จากคลิกนิคความงาม โดยร้านที่ไป เช่น พรเกษม, พฤกษา, วุฒิศักดิ์, นิติพล

แชมพู เป็นสินค้าที่สาวออฟฟิศมีความหลากหลายในการเลือกสูง

ครีมอาบน้ำ 32.5% เลือกใช้ลักส์ เพราะเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยมานาน
ครีมบำรุงผิว 26% วาสลีน 15.4% นีเวีย น่าแปลกที่แบรนด์อันดับ 3 คือ 14.2% เลือกใช้ เจอร์เกนส์ เพราะเนื้อครีมเข้มข้น และเพื่อนบอกต่อกันมา

สาวออฟฟิศซื้อของที่ไหน
ถ้าหากว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า สาวออฟฟิศบอกว่า 25% ซื้อจาก Special Store เพราะเชื่อว่ามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และมีสินค้าให้เลือกเยอะกว่า อีก 23% เลือกซื้อจาก Hyper Market เพราะว่าทำกิจกรรมพร้อมกับครอบครัว แต่ถ้าเป็นของใช้สำหรับผิวกาย 67% บอกว่าซื้อที่ Hyper Market เพราะว่าซื้อของได้ไซส์ใหญ่ 25% ซื้อที่ Special Store เมื่อยังไม่ถึงคิวที่จะซื้อของไซส์ใหญ่ แต่ของหมดก็มาซื้อไปใช้ก่อน

จ่ายเงินอย่างไร
เวลาที่สาวๆ ช็อปปิ้ง 80% บอกว่าใช้เงินสด เพราะว่าควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ส่วนที่ใช้บัตรเครดิตก็เพราะว่า 57% ต้องการส่วนลด, Cash Back 19% ต้องการผ่อนชำระ 18% ต้องการสะสมแต้ม

โปรโมชั่นไหน แรงสุด
เมื่อถึงหน้าชั่นวางสินค้า สาวออฟฟิศต้องการ POS หรือโฆษณา ณ จุดขาย ที่มีบอกคุณสมบัติของสินค้าชัดเจน และถ้าหากว่ามีโปรโมชั่น ก็ต้องบอกให้ชัดอีกเช่นกันว่า ลดกี่เปอร์เซนต์ เพราะจะได้รู้ว่าราคาถูกลงเท่าไหร่ และสำหรับคำที่สาวออฟฟิศแพ้ทางมากที่สุด ก็คือ โปรโมชั่นแบบนี้

อย่างไรก็ตาม การทำโปรโมชั่นแรงๆ ที่กระชากใจสาวออฟฟิศแบบนี้ ก็มีผลต่อเม็ดเงินที่จะกลับเข้ามาโดยตรง ดังนั้นนักการตลาดต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ากับการลงทุนด้วย

สำหรับการตั้งราคาที่เชื่อว่าเลข 9 เป็น Magic Number สำหรับสาวออฟฟิศพวกเธอกลับไม่รู้สึกอะไร ไมได้จูงใจให้ซื้อมากขึ้น แต่กลับชอบราคา 100, 150 บาทที่เป็นเลขจำนวนเต็มเพราะรู้สึกว่าจริงใจมากกว่า

การช้อปปิ้งออนไลน์
66% ของกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยครั้งนี้ บอกว่าเคยช้อปปิ้งออนไลน์ โดยสินค้าที่พวกเธอช้อปออนไลน์ 3 อันดับแรก คือ เครื่องประดับ คูปอง และห้องพักหรือตั๋วเครื่องบิน และ 76% ของคนที่เคยช้อบ ซื้อสินค้าถี่ระดับ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์เลยทีเดียว ส่วนสาวๆ อีก 34% ที่ไม่เคยซื้อเลยก็เพราะว่า 1.ไม่ได้สัมผัสสินค้าจริง 2.กลัวเสียของ 3.กลัวสินค้าจริงไม่เหมือนในรูป