สื่อดิจิตอลมาแรง เอเยนซี่โฆษณาต้องปรับตัวรับกับพฤติกรรมเปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่หันมาเสพย์สื่อในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้น บริษัทเอ็กซ์เอ็มเอเชีย แปซิฟิก จำกัด (XM Asia Pacific Pte Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจดับบลิวที (JWT) และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ดับบลิวพีพี ได้เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัทธอมัสไอเดีย (ThomasIdea) ซึ่งเป็นเอเยนซีสื่อดิจิตอลและสื่ออินเตอร์แอคทีฟของประเทศไทยซึ่งในการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้เอ็กซ์เอ็มเอเชียต้องการสร้างฐานที่มั่นสำคัญของในประเทศที่เป็นตลาดสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พอล ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอ็กซ์เอ็ม เอเชียแปซิฟิกบอกว่า การเข้าถือกิจการของธอมัสไอเดียเป็นการดำเนินการครั้งสำคัญในการเตรียมตัวเปิดตลาดต่อไปผ่านช่องทางความตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2558
ดีลครั้งนี้ไม่ได้บอกมูลค่า เพียงแต่แจ้งว่าผู้บริหาร คือ พอลลี่-อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหารและอารยาเช้ากระจ่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของธอมัสไอเดียซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้น จะยังคงรับหน้าที่กุมบังเหียนบริษัทร่วมกันต่อไป
อุไรพรกล่าวว่า นี่คือโอกาสสำคัญที่ธอมัสไอเดียจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเอ็กซ์เอ็ม เครือข่ายดิจิตอลที่แข็งแกร่งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในเอเชีย ประกอบกับทักษะความเชี่ยวชาญของทีมงานธอมัสไอเดียจะสร้างความแข็งแกร่งในการนำเสนอบริการดิจิตอลสู่ลูกค้ารวมถึงขยายโอกาสให้ครอบคุมทั่วภูมิภาคต่อไป
อารยากล่าวเสริมว่านอกจากสื่อดิจิตอลจะได้เพิ่มบทบาทจนกลายเป็นช่องทางสื่อสารหลักของหลายๆแบรนด์แล้วยังกำลังเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจอีกด้วยความตกลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะสร้างโอกาสให้ธอมัสไอเดียและเอ็กซ์เอ็มเคลื่อนสู่จุดสูงสุดของกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลได้โดยเฉพาะเมื่อคลื่นแห่งโลกดิจิตอลกำลังถาโถมเข้าสู่ประเทศไทย
ความมั่นใจนี้มาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น จำนวนคนไทยที่ใช้งานเฟซบุ๊คที่ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 18 ล้านคนไปแล้วในเดือนธันวาคม 2555 จาก 13ล้านคนเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าทำให้กลายเป็นเวทีสำคัญในการสื่อสารของผู้โฆษณาในประเทศไทยนอกจากนี้ข้อมูลจากกรุ๊ปเอ็ม (GroupM) ระบุว่าเม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปกับการโฆษณาบนสื่อดิจิตอลในปี 2555 เติบโตขึ้นถึง 48%
ธอมัสไอเดีย ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 โดยเป็นผู้ให้บริการต่างๆ ในรูปแบบดิจิตอล ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ออนไลน์ไปจนถึงการออกแบบที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน งานพัฒนาแอปพลิเคชั่นระดับใหญ่ๆ รวมถึงบริการด้านการตลาดบนสื่อดิจิตอลและสื่อสังคมออนไลน์ มีพนักงานประมาณ 45 คน ลูกค้าที่ใช้บริการ อาทิ ไบเออร์สด๊อรฟ (Beiersdorf), เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (Reckitt Benckiser), แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส(Abbott Laboratories), เอสบี เฟอร์นิเจอร์ และ พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นต้น
ก่อนหน้านี้เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย ซึ่งมีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียและฮ่องกง โดยปีที่แล้วบริษัทฯ ก่อนหน้านี้ยังได้เข้าซื้อกิจการของ Magnivate ซึ่งเป็นดิจิตอลเอเยนซีรายใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย
ในปีที่ผ่านมา เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก ได้ลงทุนเพื่อขยายศักยภาพด้านดิจิตอลเป็นจำนวนมาก นอกจากการเข้าซื้อกิจการของ Magnivate โดย เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แล้ว เจดับบลิวทียังได้เข้าซื้อกิจการของ Hungama Digital Services ซึ่งเป็นดิจิตอลเอเยนซีชั้นนำในประเทศอินเดีย รวมถึงเข้าถือหุ้นของบริษัท Converge ในปากีสถานอีกด้วย
ไมเคิล เมเดล ประธานกรรมการของ เจดับบลิวที เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เราได้วางแผนการณ์ใหญ่ไว้ให้กับ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย และจะมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มขึ้นจากนี้อีก สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในปีนี้คือการเดินหน้าขยายบริการต่างๆ ในรูปแบบดิจิตอล โดยที่ เอ็กซ์เอ็ม จะยังคงดำเนินบทบาทหลักในแผนงานขยายธุรกิจครั้งนี้”
ส่วนเอ็กซ์เอ็ม เอเชีย (www.xm-asia.com) ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2538 จัดว่าเป็นเอเยนซีที่ใหญ่ เคยคว้ารางวัลจากผลงานเหล่านี้มาแล้ว
บริการของ เอ็กซ์เอ็ม ครอบคลุมตั้งแต่แนะนำปรึกษาด้านการตลาดและเทคโนโลยีสื่อดิจิตอล ตั้งแต่ข้อมูลธุรกิจไปจนถึงการพัฒนาแพลทฟอร์มสื่อสาร ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค ประสบการณ์ผู้ใช้งาน การพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจบนอินเตอร์เน็ต การจัดการสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนการวิเคราะข้อมูลและการใช้ช่องทางสื่อต่างๆ
ลูกค้าของ เอ็กซ์เอ็ม ประกอบไปด้วย ฟอร์ด, มาสเตอร์การ์ด, เอชพี, คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์, การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนี้ เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจรายแรกและรายเดียวของ Adobe ในเอเชียอีกด้วย
