กสิกรไทย จับมือ พีทีจี เอ็นเนอยี ออกบัตรเติมน้ำมันนิติบุคคล

ธนาคารกสิกรไทย จับมือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ออกบัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ ฟลีทการ์ด ใช้ชำระค่าน้ำมันที่ปั๊มพีทีทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสด ตรวจสอบรายการใช้จ่ายได้ พร้อมได้เครดิตนานสูงสุด 55 วัน ตั้งเป้า 5 ปี ออกบัตรใหม่ 16,500 บัตร ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 25,600 ล้านบาท

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันพีที ได้ออกบัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ฟลีทการ์ด เพื่อรองรับลูกค้านิติบุคคลประเภทธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของปั๊มน้ำมันพีที ที่มีการเติมน้ำมันต่อครั้งเป็นจำนวนมาก

บัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ฟลีทการ์ด เป็นบัตรเครดิตสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทธุรกิจ หน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ โดยจะเป็นบัตรเครดิตประจำรถแต่ละคันของบริษัท หรือเป็นบัตรประจำบุคคลสำหรับผู้บริหาร ที่สามารถระบุทะเบียนรถยนต์ หรือไม่ระบุทะเบียนรถยนต์ก็ได้ สามารถใช้เติมน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่กำหนด ณ สถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศเท่านั้น ทำรายการผ่านเครื่องรับชำระบัตรเครดิต (EDC) โดยไม่ต้องใช้เงินสด ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถเลือกกำหนดหน่วยการเติมน้ำมันเป็นบาทหรือลิตรและสามารถกำหนดวงเงินในการเติมน้ำมันเป็นต่อครั้ง ต่อวัน ต่อสัปดาห์ และต่อเดือนได้ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้นิติบุคคล ดูรายงานใช้จ่ายน้ำมันในแต่ละเดือนผ่านเว็บไซต์ https://kbankfleetcard.kasikornbank.com /fcweb ได้ด้วย

นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความร่วมมือในการออกบัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ฟลีทการ์ดแล้ว ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ในการสนับสนุนวงเงินกู้หมุนเวียนระยะสั้น สินเชื่อเพื่อจัดซื้อรถขนส่งน้ำมันมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และยังเป็นธนาคารแห่งเดียว ที่ให้บริการจัดการทางการเงินในเรื่องการรับชำระและจ่ายเงินผ่านเครื่องรับชำระบัตรเครดิต (EDC) ในสถานีบริการน้ำมันของปั๊มพีทีและสถานีบริการของดีลเลอร์ทุกแห่ง ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้ายอดบัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ฟลีทการ์ด จำนวน 16,500 บัตร และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 25,600 ล้านบาท ภายใน 5 ปี

ทางด้านนายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันนี้ เรามีสถานีบริการน้ำมันกว่า 647 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนสถานีมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และกำลังขยายจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำมันของภาคธุรกิจขนส่งและอุตสาหกรรมทั่วประเทศ รวมไปถึงหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้น้ำมันมากถึง 50-60 ล้านลิตร/เดือน โดยพีทีหวังขยายฐานลูกค้าและหาลูกค้าใหม่จากกลุ่มนี้ เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งทางการตลาด 5,600,000 ลิตร/เดือน ภายในปี 2557 หรือคิดเป็น 9.4-11.2 % และมียอดจำหน่ายที่ 22 ล้านลิตรต่อเดือน ในปี 2561 หรือคิดเป็น 36% ของ ของตลาดลูกค้าองค์กรและนิติบุคคคล (ธุรกิจขนส่ง)

นอกจากความสามารถในการรองรับความต้องการใช้น้ำมันให้เพียงพอแล้ว พีที ยังมุ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร และขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ให้มากขึ้น บริษัทจึงได้เปิดให้บริการบัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกซ์ฟลีทการ์ด ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตามสถานีบริการน้ำมันพีที เพิ่มช่องทางในการชำระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า และลดความเสี่ยงของการใช้เงินสด

นายพิทักษ์ กล่าวสรุปว่า พีที มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือนิติบุคคลเดิมที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทางบริษัทมาอย่างยาวนาน และยังสามารถขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นองค์กรหรือนิติบุคคลได้อย่างรวดเร็วตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยระบบความปลอดภัยของธนาคารกสิกรไทยที่ได้รับความเชื่อมั่นจากองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมด้วยคุณภาพน้ำมันและบริการที่ดีที่สุดจากพีที