โออิชิ กรุ๊ป ผนึกกำลัง อยุธยาซิตี้พาร์ค ทุ่มทุนกว่า 40 ล้านบาท เปิด “นิกุยะ” บุฟเฟต์ปิ้งย่าง ตำรับญี่ปุ่นแท้ แห่งแรกในภาคกลางตอนบน

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในโอกาสลงนามในสัญญาขยายการลงทุนเพิ่มกับอยุธยาซิตี้พาร์ค โดยเตรียมเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ ประเภท: บุฟเฟต์ปิ้งย่าง ตำรับญี่ปุ่นแท้ ซึ่งได้แก่ “นิกุยะ (NIKUYA : Japanese BBQ Buffet)” ที่คัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพสูง อาทิ กุ้ง เบคอน ปลาแซลมอนนอร์เวย์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ฯลฯ สำหรับปิ้งย่างบนเตาถ่านไม้ ไร้กลิ่น ไร้ควัน ให้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงได้ลิ้มลองรสชาติเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโซนภาคกลางตอนบนในเร็ววันนี้! จากเดิมที่มีเพียงสาขาของ ชาบูชิ (Shabushi by OISHI) และ โออิชิ ราเมน (OISHI Ramen) รวมพื้นที่เปิดให้บริการกว่า 700 ตารางเมตร

“ภาพรวมของโออิชิ กรุ๊ปหลักๆ ธุรกิจของโออิชิแบ่งเป็น 2 พอร์ตคือ พอร์ตแรกคือธุรกิจอาหาร อีกพอร์ตคือธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งธุรกิจอาหารเมื่อปีที่แล้วเรามียอดขายอยู่ที่ 5,300 ล้านบาท ส่วนปีนี้เราตั้งใจที่จะปิดยอดให้ได้ 7,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตราว 35% ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากการขยายสาขาด้วย โดยแบ่งออกเป็น ชาบูชิ 20 สาขา นิกุยะ 10 สาขา คาคาชิ 10 สาขา โดยประมาณ ซึ่งคาคาชิกับนิกุยะนั้นเป็นแบรนด์ใหม่สุด มีจุดเด่นของ 2 แบรนด์ใหม่คือ นิกุยะ เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างระดับพรีเมี่ยม ส่วนทาคาชิเป็นร้านข้าวหน้าต่าง ๆ แต่เข้าไปอยู่ใน QSR (Quick Service Restaurant) และแบรนด์อื่น ๆ อีกประมาณ 10 สาขา

“เดิมทีเรามีร้าน โออิชิ บุฟเฟต์ อยู่ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แต่ที่เรายังไม่มีคือ ชาบูชิ และแบรนด์อื่นๆ ที่นี้เรามองว่า ก่อนที่คนจะเดินทางจากทางเหนือเข้าถึงกรุงเทพฯ ต้องผ่านฟิวเจอร์พาร์ค แต่ก่อนที่จะถึงฟิวเจอร์ พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจุดสกัดที่ดีมาก ที่นี่เองมีศักยภาพที่ดีมากในการเติบโต แล้วเราเองก็ยังไม่มีโลเคชั่นที่ดีในอยุธยา ซึ่งเราเองก็มองหาว่าพื้นที่ไหน หรือมอลล์ไหนที่มีพื้นที่ให้เรา และมีศักยภาพในการเติบโต เพราะเราเองก็เลือกเหมือนกัน หากไปแล้ว ถึงแม้แบรนด์เราจะแข็งแรงก็ตาม แต่หากไม่ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็คงไม่เลือก เราก็ต้องเลือกด้วยว่า แลนด์ลอร์ด หรือคู่ค้าของเราเป็นใคร มีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน ในจุดนี้ในอยุธยา เราก็มองว่า มีแค่อยุธยาพาร์ค (ณ เวลานั้น) แค่แห่งเดียวที่มีศักยภาพ มี Tenant ที่แข็งแรง

อย่าง โรบินสัน และเทสโก้โลตัสอยู่อยู่ด้วย ผมมองว่า ที่นี่น่าจะมีศักยภาพสูงกว่า ก็เลยเลือกที่นี่ ตอนแรกเราลงชาบูชิ และราเมน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ยอดขายถล่มทลาย เพราะลูกค้าไม่ต้องเข้าไปถึงในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเติบโตขึ้นด้วย และเห็นบอกมีพื้นที่ใหม่ เราก็อยากลงทุนเพิ่มเป็นที่มาว่า เราจะเพิ่มแบรนด์ นิคุยะ ซึ่งเป็นพรีเมี่ยม เพราะเรามองว่า ศักยภาพของที่นี่ดี ลูกค้าไม่ต้องวิ่งเข้าไปในกทม.แล้ว แล้วทางอยุธยาพาร์คเองก็มีการปรับปรุง และยกระดับเพิ่มขึ้น มีแบรนด์ใหญ่ ๆ มา ก็น่าจะมีกำลังซื้อ

ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและภาคกลางตอนบน กลุ่มลูกค้าไม่ต่างกับในกรุงเทพฯ แต่ที่นี่น่าจะมีเงินสะพัดกว่าด้วย เพราะแหล่งจับจ่ายน่าจะน้อยกว่าในกรุงเทพเยอะ พอวันหยุดเค้าก็จะมาจับจ่ายใช้สอย ดูได้จากช่วงวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ลูกค้าจะเยอะมาก กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายหลักของสาขาในอยุธยาพาร์ค ชาบูชิเป็นคนวัน 15-29 ปี กลุ่มเด็ก นักเรียน-นักศึกษา คนทำงานที่เป็นเฟิร์สจ็อบเบอร์ทั้งหลาย ส่วน โออิชิ ราเมน จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคทั่ว ๆ ไป กลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษาทานได้หมด ส่วนนิกุยะจะเป็นกลุ่ม B ขึ้นไปที่มองว่า มีอยู่มากในพื้นที่จังหวัดอยุธยา

“นิกุยะ สาขาอยุธยาซิตี้พาร์คเป็น 1 ใน 10 สาขาของแบรนด์ นิกุยะที่เราจะลงทุนในปีนี้ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งสาขานี้เราก็มองว่า น่าจะมีศักยภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับกรุงเทพ จึงได้ตัดสินใจลงทุน ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท ถ้าเราไม่เชื่อมั่นจริง ๆ เราคงไม่มาลงทุน เพราะปกติห้าง ๆ หนึ่งส่วนใหญ่จะเปิด โออิชิ ราเมน ร้านเดียวก็พอ แต่ถ้าที่ไหนที่มีศักยภาพผมก็กล้าที่จะเอาเงินไปลงทุน ในส่วนของอยุธยาซิตี้พาร์คเองเรามีถึง 3 แบรนด์อยู่ในห้างเดียว เนื่องจากของเดิมเรามี โออิชิ ราเมน และชาบูชิ ที่เปิดให้บริการก่อนหน้านี้แล้ว

โดยสาขานี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ฝั่งบันไดเลื่อน ได้พื้นที่ด้านหน้ากว้างมุมเปิดรับสายตา ซึ่งลูกค้าจะพบเห็นเราได้ง่ายมาก สาขานี้คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ประมาณ เดือนกันยายน 2556 นี้ บนพื้นที่ 250 ตารางเมตร โดยตั้งเป้าไว้เบื้องต้นที่ 2 ล้านบาทต่อเดือน”

“แน่นอน เรามองว่าอยุธยามีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก และในการขยายสาขาเรามี 3 ปัจจัยที่มอง คือ 1 มอง land lord มีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน มีการลงทุน มีการขยายสาขาหรือตัวห้างตลอดเวลา 2. โลเคชั่นที่ได้ 3. การประสานงานที่ดีระหว่างกัน คุยกันรู้เรื่อง ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมา สำหรับอยุธยาซิตี้พาร์ค ผ่านหมดทุกข้อ นั่นเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มเป็นแบรนด์ที่ 3 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

การปรับโฉมของอยุธยาซิตี้พาร์คในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนผสมที่ครบวงจร และหาได้ทุกสิ่งในที่เดียว ลูกค้ามาที่นี่ที่เดียวแล้วมีครบทุกสิ่ง แถมยังมีร้านค้าที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ มีแม็กเน็ตที่ดีเช่น โรบินสัน และเทสโก้โลตัส ถือได้ว่าเป็นศูนย์สรรพสินค้าที่ดี มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตและทำกำไรได้” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวปิดท้าย