กรุ๊ปเอ็มเทคโอเวอร์โวแคนิค เสริมทัพสื่อดิจิตอล

เพื่อรับกับยุคบูมของสื่อดิจิตอลในเอเชียที่กำลังเป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้น มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ของโลก อย่าง “กรุ๊ปเอ็ม” ได้เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัทโวแคนิค (Vocanic) ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวางแผนการตลาดบนสื่อดิจิตอลของเอเชีย เพื่อเสริมทัพดิจิตอลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

บริษัท โวแคนิค ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และมีสาขาอยู่ที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทย ด้วยพนักงานกว่า 70 คน ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ให้บริการด้วยความรู้ ที่หลากหลาย ทั้งในด้านการวางแผนกลยุทธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร

รวมทั้ง การสร้างสรรค์แคมเปญต่างๆ การสร้างความสัมพันธ์ผ่านการสื่อสารร่วมกันระหว่างผู้คนบนบนสังคมออนไลน์ และการวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกบทสนทนาที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์

“ในธุรกิจของเราโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นสื่อสังคมออนไลน์นับว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว” มาร์ค แพตเตอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกรุ๊ปเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชียและจีน กล่าวในการประกาศนี้ว่า “การลงทุนในครั้งนี้ทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความคาดหวังและความต้องการของลูกค้าของเราได้เป็นอย่างดี และโวแคนิคเองเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างแข็งแรง มีความพร้อมและความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญของภาคธุรกิจนี้”

สำหรับโวแคนิค มีลูกค้าในหลายองค์กรธุรกิจ ที่ใช้บริการ ทั้ง StarHub, Axis, SMRT, EDB, SAP, Astro, Unilever, Dell, Symantec, Mead Johnson, Danone, WingTai Retail, MHD, Standard Chartered Bank เป็น

“ในเวลานี้สื่อสังคมออนไลน์ถืออีกปัจจัยที่สำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์ สังเกตได้จากเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นของการสื่อสารผ่านช่องทางนี้” เอียน แมคคี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร โวแคนิค กล่าวเสริมว่า “การที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกรุ๊ปเอ็มนั้น ทำให้เราและแบรนด์ต่างๆ สามารถวางแผนการสื่อสารการตลาดร่วมกันระหว่างสื่อสังคมออนไลน์และสื่อแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

การเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ทำให้โวแคนิคกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุ๊ปเอ็ม ร่วมกับเอเจนซี่ อย่าง Maxus,MEC, MediaCom, mInteraction และ Xaxis. และแมคคีเองจะยังดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของโวแคนิคต่อไป

ขณะที่กรุ๊ปเอ็มยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในธุรกิจสื่อออนไลน์ จากข้อมูลของ RECMA กรุ๊ปเอ็มถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในด้านการจัดการและวางแผนการลงทุนด้านสื่อในประเทศไทย ซึ่งมียอดบิลลิ่งอยู่ที่ 1,155 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีพนักงานในเครือกว่า 500 คน

การเข้าซื้อและควบรวมกิจการในดิจิตอลเอเยนซี่ ของเอเยนซี่รายใหญ่ระดับโลก นับเป็นหนึ่งกลยุทธในการรับมือต่อการมาของสื่อดิจิตอลที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ส่งผลให้วงการโฆษณาต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เพื่อเข้าสู่โลกของสื่อโฆษณาใบใหม่ที่ไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป ด้วยจัดตั้งแผนก และบริษัทลูกเพื่อมารับงานด้านสื่อดิจิตอล รวมถึงการซื้อกิจการดิจิตอลเอเยนซี่ ที่มีความชำนาญ เป็นอีกหนึ่งหนทางหนึ่งการย่นระยะทางและเวลา ในการปรับตัวเข้าสู่โลกสื่อดิจิตอลที่กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว