แสนสิริชูกลยุทธ์ Customer Centric พิชิตใจลูกค้าปรับโฉมเว็บไซด์และพัฒนานวัตกรรม “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” ตอบสนองผู้บริโภคโลกยุคดิจิทัล

แสนสิริตอกย้ำผู้นำด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ชูกลยุทธ์ Customer Centric เน้นเข้าใจและตอบรับความต้องการเป็นหัวใจหลัก ปรับโฉมเว็บไซต์ www.sansiri.com ให้สวยงาม จัดหมวดหมู่ชัดเจน ประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูล รองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่และผู้ลงทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจับมือกับ พลัส พร็พเพอร์ตี้ พัฒนานวัตกรรม “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” ช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้า ด้านการรับข้อมูลข่าวสารได้ฉับไว สามารถส่งความคิดเห็นได้โดยตรงถึงโครงการ ลดความยุ่งยากในการติดต่อเจ้าหน้าที่  และรับบริการโฮมแคร์ได้รวดเร็วทันใจใช้งานง่ายผ่านระบบออนไลน์ พร้อมใช้บริการกว่า 40 โครงการ ในเดือนเม.ย.นี้ ตอบรับการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัล
 
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้รุกการทำการตลาดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเสมอมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตอบรับกระแสนิยม ตามเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในโลกยุคดิจิทัล โดยได้ปรับดีไซน์เว็บไซต์ www.sansiri.com ให้มีความสวยงาม จัดหมวดหมู่ชัดเจน ค้นหาข้อมูลโครงการและบริษัทได้ง่ายยิ่งขึ้น รองรับกับความต้องการของผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่และผู้ลงทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ร่วมมือกับบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดพัฒนา “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” นวัตกรรมใหม่ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ในด้านการให้ข้อมูล แจ้งเตือน และการให้บริการโฮมแคร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัล
 
“แสนสิริได้เน้นกลยุทธ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric โดยเน้นการเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันพบว่า ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว การใช้ชีวิตประจำวันเร่งรีบ เน้นความง่าย สะดวก รวดเร็ว สามารถตอบสนองความต้องการได้ทันที ดังนั้นแสนสิริจึงได้ปรับเว็บไซด์ www.sansiri.com ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างสูงสุด รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมด้านการตลาดและการโปรโมทโครงการได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังได้ร่วมมือกับพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนา โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นซอฟแวร์แอพพลิเคชั่น เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างรอบด้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย และสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ให้แก่ลูกค้า โดยพร้อมใช้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป” นายสมัชชา กล่าว
เว็บไซต์ www.sansiri.com ล่าสุดได้เพิ่มฟังก์ชั่นการให้บริการที่โดดเด่น ได้แก่ การค้นหาบ้านได้จากทำเลที่ตั้งหรือ Based on User’s Location ที่สามารถตรวจจับตำแหน่งของผู้ใช้งาน เพื่อแนะนำโครงการใกล้เคียงตามลำดับได้อย่างชาญฉลาด รวมถึง Smart Search สะดวกรวดเร็วกับระบบค้นหาที่สามารถแนะนำผลลัพธ์ได้(Item Suggestion) รวมถึงยังใช้เทคโนโลยีใหม่ในการออกแบบเว็บไซต์คือ Responsive Design ซึ่งจะรองรับการแสดงผลอย่างสวยงามผ่านทุกขนาดหน้าจอ ทั้งจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต และ Full Screen Images ที่ออกแบบเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้สนใจโครงการด้วยภาพความละเอียดสูงและการแสดงผลแบบเต็มจอ พร้อมจัดหมวดหมู่ชัดเจน ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการที่อยู่อาศัยและข้อมูลทั่วไปของบริษัท รองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่และผู้ลงทุน พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเว็บไซต์แล้วเกือบ 2,000,000 (สองล้าน) ราย หรือใช้บริการกว่า 19,000,000 (สิบเก้าล้าน) หน้า Pageviews ต่อปี ทั้งนี้แสนสิริได้ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดในด้าน social network มาโดยตลอด โดยได้เลือกใช้สื่อหลากหลายช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า ได้แก่ Facebook, Twitter, Instagram, Youtube, Google+ และ Pinterest จนทำให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุม จนในที่สุดกลายเป็นบริษัทที่มีผู้เข้ามาบริโภคสื่อ social network มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ดังพิสูจน์ได้จากยอดตัวเลข คือ Facebook มีแฟนเพจจำนวนกว่า 270,000 ราย Twitter มีจำนวนผู้ติดตามกว่า 30,000 ราย และ instagram มีจำนวนผู้ติดตาม 4,700 ราย  
 
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแสนสิริเข้าใจพฤติกรรมในการบริโภคสื่อของผู้บริโภค และรู้จักเลือกใช้ช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ตอกย้ำด้านการเป็นผู้นำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยได้อย่างแท้จริง
 
สำหรับ “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” เป็นระบบที่พัฒนาร่วมกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อสร้างความต่าง และสร้างมาตรฐานการให้บริการที่สมบูรณ์แบบ ให้เข้าถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยทั้งไทยและต่างชาติในไทย โดยเป็นการยกระดับด้านบริการสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน อาทิ Delivery – บริการแจ้งเตือนจดหมายและพัสดุเข้าโดยไม่ต้องมาติดต่อเอง, Finance – บริการแจ้งยอดชำระค่าบริการรายเดือนรูปแบบต่างๆ, Homecare – แจ้งเรื่องร้องเรียนถึงงานซ่อมแซม พร้อมรองรับการถ่ายภาพเพื่อแนบไฟล์ภาพประกอบคำอธิบายได้อย่างรวดเร็วฉับไว, Facilities and Service – ระบบแสดงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยสามารถทำการจองการให้บริการต่างๆ ได้ล่วงหน้า เพียงระบุวัน เวลา และประเภทของบริการที่ต้องการ และ Suggestion Box – ระบบกล่องรับความคิดเห็น  เป็นต้น โดยมีเมนูรองรับการใช้งานได้ถึง 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น ผ่านระบบปฏิบัติการที่หลากหลายถึง 4 ช่องทาง ได้แก่ iOS, Android, Website และ จอ Touch Screen ที่มีประจำอยู่ในโครงการ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งโครงการที่กรุงเทพฯ หัวหินและภูเก็ต รวมทั้งสิ้น 43 โครงการ พร้อมให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป