‘มาสด้า2’ ใหม่ เทียบสเปค-ราคา… ชนคู่แข่งเก๋งซับคอมแพ็กต์

ประเดิมเปิดตัวบุกตลาดปีแพะ 2558 อย่างเป็นทางการโมเดลแรก “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่โฉมใหม่แปลงร่างไปอยู่ในโครงการอีโคคาร์ เฟส2 แต่ค่ายมาสด้ากลับฉีกแนวทางของอีโคคาร์ในไทยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องยนต์ และราคา ซึ่งเมื่อพิจารณาสังเวียนที่จะลงไปแข่งขันในปัจจุบัน ย่อมเป็นตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์มากกว่า ดังนั้น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงได้นำข้อมูลเทคนิค หรือสเปคสำคัญ มาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านที่กำลังจะพิจารณาซื้อรถกลุ่มนี้เห็นภาพชัดๆ มากขึ้น…

ในเรื่องเกี่ยวกับรูปลักษณ์หน้าตาเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งมีไม่เหมือนกันจึงขอข้ามประเด็นนี้ไป เช่นเดียวกับมิติตัวถังที่แทบจะไม่สามารถแยกความเป็นอีโคคาร์ กับซับคอมแพ็กต์ได้ เพราะอีโคคาร์บางรุ่นในปัจจุบันตัวถังใหญ่กว่าซับคอมแพ็กต์เสียอีก (ดูเปรียบเทียบมิติตัวถังรถในกลุ่มคู่แข่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จากตารางประกอบ)


       
ประเด็นที่พอแยกตลาดอีโคคาร์กับซับคอมแพ็กต์ในไทย สิ่งแรกคงเป็นเรื่องของเครื่องยนต์ เพราะตามเงื่อนไขอีโคคาร์ทั้งเฟส1 และ 2 กำหนดเครื่องยนต์เบนซินต้องไม่เกิน 1,300 ซีซี และเครื่องดีเซลล่าสุดในอีโคคาร์ เฟส 2 ต้องไม่เกิน 1,500 ซีซี(เฟสแรกไม่เกิน 1,400 ซีซี) ซึ่ง “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส2 จึงต้องไปอยู่ในกลุ่มอีโคคาร์ เพียงแต่ปัจจุบันไม่มีคู่แข่งในตลาดอีโคคาร์ หรือซับคอมแพ็กต์ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลโดยตรง ทำให้กลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ที่วางเครื่องยนต์เบนซินระดับ 1,500-1,600 ซีซี กลายเป็นคู่แข่งของมาสด้า2 ใหม่ไปทันที
       
เก๋งซับคอมแพ็กต์เกือบทั้งหมดในไทย วางเครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า วีออส, ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และฟอร์ด เฟียสต้า แต่จะมีเชฟโรเลต โซนิค ที่ขยับขึ้นมาหน่อยเป็น 1,600 ซีซี เพราะเบื้องต้นทำตลาดกับเครื่องยนต์ 1,400 ซีซี แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จจึงออกรุ่น 1,600 ซีซีมาเป็นอีกทางเลือก นอกจากนี้ยังมีฟอร์ด เฟียสต้า ที่ได้เพิ่มทางเลือกกับเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 1,000 ซีซี เทอร์โบ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอีกขั้นจากฟอร์ด ที่เครื่องเล็กให้ความแรงกว่า แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า มาเป็นอีกทางเลือกในกลุ่มตลาดซับคอมแพ็กต์ (ดูรายละเอียดข้อมูลเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจากตารางประกอบ)

โดยมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เป็นเพียงรายเดียวที่ฉีกมาวางเครื่องยนต์คลีนดีเซล Skyactiv D ขนาด 1,500 ซีซี เทอร์โบแปรผัน แม้แรงม้าจะใกล้เคียงซับคอมแพ็กต์รายอื่นๆ แต่เครื่องยนต์ดีเซลจะโดดเด่นในเรื่องของแรงบิดสูงและมาตั้งแต่รอบต่ำ จึงให้ความจี๊ดจ๊าดและเร่งแซงไหลลื่น แม้จะอยู่ในช่วงความเร็วต่ำก็ตาม นอกจากนี้เรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ซึ่งในมาสด้า2 ใหม่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของอีโคคาร์ เฟส2 ไม่ต่ำกว่า 23 กม./ลิตร แต่ทางมาสด้าระบุว่ารุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.3 กม./ลิตร(วิ่งใช้งานจริงจะกินน้ำมันมากกว่านี้)
       
ส่วนซับคอมแพ็กต์เครื่องยนต์เบนซินในตลาดทุกรุ่น อย่างเก่งที่วิ่งต่างจังหวัดจะมีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 15-18 กม./ลิตร โดยบางรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นอย่าง “ฮอนด้า ฟิต/แจ๊ซ” มีระบุอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 21.8 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานทดสอบ JC08 ของญี่ปุ่น – เช่นกันวิ่งใช้งานจริงจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่านี้) แต่ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และเชฟโรเลต โซนิค จะมีความโดดเด่นที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ที่ขณะนี้มีราคาต่ำกว่า 2-3 บาท (อาจจะไม่จูงใจเท่ากับเมื่อก่อน) จึงมาช่วยชดเชยเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และยังมี “ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบูสต์” ที่มีขุมพลังแรงระดับใกล้เคียงกับเก๋งคอมแพ็กต์คาร์ 1,600 ซีซี ซึ่งให้แรงบิดที่ดีในรอบต่ำ และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำกว่ารุ่นปกติ 20% รุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนเรื่องของความต่างราคาน้ำมันดีเซลกับเบนซินคงจะไม่ใช่จุดขายแล้ว เพราะราคา ณ ปัจจุบันแทบไม่ต่างกัน
       
สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่ต่อไป คงจะเป็นเรื่องของราคาและออปชั่น โดยมาสด้า2 สกายแอคทีฟเปิดราคามา 3 รุ่นย่อย เหมือนกันทั้งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ราคาเริ่มต้น 675,000-790,000 บาท หากมองจากราคาตรงนี้ย่อมชัดเจน ว่าต้องแข่งขันกับเก๋งซับคอมแพ็กต์เท่านั้น

Honda City & Honda Jazz

คู่แข่งที่ชนหรือใกล้เคียงกันระดับราคาเริ่มต้นในรุ่น XD ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จะเป็นเชฟโรเลต โซนิค ซีดาน 4 ประตู รุ่น LT ราคา 677,000 บาท ฮอนด้า ซิตี้ V/V+ ราคา 649,000/689,000 บาท ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่น V/V+ ราคา 654,000/694,000 บาท โตโยต้า วีออส รุ่น E/TRD Sportivo /G ราคา 654,000/669,000/699,000 บาท ส่วนฟอร์ด เฟียสต้า มีรุ่นราคาที่ต่ำกว่า 644,000 บาท หรือไม่ก็โดดทะลุ 709,000 บาทขึ้นไปเลย
       
กลุ่มนี้ดูจากภายนอกไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก มาสด้า2 ทุกรุ่นจะมากับไฟหน้ารีเฟลกเตอร์แบบฮาโลเจน เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์ โดยไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติจะมีเฉพาะในฟอร์ด เฟียสต้า และเชฟโรเลต โซนิคทุกรุ่นย่อย และในรุ่น G ของโตโยต้า วีออส เป็นแบบโปรเจคเตอร์ กับราคาแตะ 7 แสนบาท วีออสยังหล่อกับล้ออัลลอย 15 นิ้ว เช่นเดียวกับฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และเชฟโรเลต โซนิค 4ประตู ในรุ่น LT แต่มาสด้า 2 จะเป็นขนาด 16 นิ้วทุกรุ่นย่อย เหมือนกับฟอร์ด เฟียสต้า และโตโยต้า วีออส รุ่น G ซึ่งในรุ่นโซนิคพิเศษกว่ากับฝากระโปรงหลังเปิดแบบกดสัมผัส(Touch Pad)
       
ขณะที่ภายในและสิ่งอำนวยความสะดวก มาสด้า2 สกายแอคทีฟทุกรุ่นย่อย มากับระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้าทุกรุ่นย่อย แต่คู่แข่งฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ แม้มีมาให้ในรุ่น V ขึ้นไป ยังนับว่ายังเป็นกลุ่มราคาใกล้เคียงกัน และเด่นกว่ากับระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาด้วย เหมือนในฟอร์ด เฟียสต้า ที่มาครบทุกรุ่นย่อยในกลุ่มราคานี้
       
หน้าจอแสดงข้อมูลแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว นับว่าเพิ่มความโดดเด่นให้กับ ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ที่ให้มาตั้งแต่ในรุ่น V+ ขึ้นไป และที่น่าสนใจเป็นรุ่นพิเศษของ โตโยต้า วีออส TRD Sportivo ราคา 669,000 บาท ที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วมาให้ ซึ่งค่อนข้างแปลกในเมื่อรุ่นท็อปราคาสูงกว่ากลับไม่มีให้ โดยมาสด้า2 จะมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยทุกรุ่น เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้า และเชฟโรเลต โซนิค โดยในกลุ่มราคาใกล้เคียงกันนี้ ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ จะมีในรุ่น V+ ขึ้นไป เหมือนกับโตโยต้า วีออส เริ่มตั้งแต่รุ่น G เป็นต้นไป ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก รวมถึงระบบรองรับความบันเทิง และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ โดยฟอร์ด เฟียสต้า เพิ่มความโดดเด่นกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC แต่ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ก็มีระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ที่รองรับเฉพาะ IPhone 4S ขึ้นไป ติดตั้งในรุ่น V+ เป็นต้นไป

Toyota Vios

รุ่นต่อมา XD High ของมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ ราคา 735,000 บาท จะมีคู่แข่งเป็นเชฟโรเลต โซนิค LTZ ราคา 719,000 บาทเท่ากันทั้งสองตัวถัง ฮอนด้า ซิตี้ SV/SV+ ราคา 734,000/749,000 บาท ฮอนด้า แจ๊ซ SV/SV+ ราคา 739,000/754,000 บาท ฟอร์ด เฟียสต้า 1.5L Titanium ทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก ราคาเดียวกัน 709,000 บาท รวมถึงรุ่น 1.0L EcoBoost แบบซีดาน ราคา 749,000 บาท และแบบแฮทช์แบ็ก 754,000 บาท ส่วนโตโยต้า วีออส จะมีรุ่น S ราคา 734,000 บาท
       
เมื่อพิจารณาจากอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากมีเหมือนกับรุ่นย่อยกลุ่มราคาแรกที่กล่าวไป ในกลุ่มนี้โตโยต้า วีออส ยังโดดเด่นกว่าในเรื่องของไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ แต่อุปกรณ์อย่างอื่นๆ รุ่นที่โดดเด่นอยู่แล้วก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ในส่วนล้ออัลลอยเชฟโรเลต โซนิค รุ่น LTZ รวมถึงฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ รุ่น SV และ SV+ จะมากับขนาด 16 นิ้ว เหมือนกับมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ขณะที่ภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มาครบเช่นกัน โดยมาสด้า2 จะมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติเพิ่มเข้ามาในรุ่นย่อยนี้ขึ้นไป แต่ในรุ่น SV/SV+ ของทั้งฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ติดตั้งมาให้ด้วย
       
หากดูจากอุปกรณ์ภายนอก-ภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก ของราคาทั้ง 2 กลุ่มราคา นับว่าฟอร์ด เฟียสต้า และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ค่อนข้างโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะรุ่นเฟียสต้าที่มีราคาต่ำกว่าคู่แข่งหลายหมื่นบาท…
       
อย่างไรก็ตาม มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ มีจุดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดตั้งในทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ขณะรถหยุดจอด หรือระบบ i-Stop ตลอดจนระบบช่วยประหยัดพลังงาน i-ELOP ที่ช่วยแปลงพลังงานจากการเบรกไปเก็บไว้ในรูปพลังงานไฟฟ้า เมื่อยามต้องการใช้ไฟฟ้าอย่างระบบ i-Stop เครื่องเสียง หรือระบบปรับอากาศ

Ford Fiesta

ในส่วนของมาสด้า 2 ใหม่ ตัวท็อป XD High Plus ราคา 790,000 บาท ซึ่งค่อนข้างจัดมาครบเต็มจากอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 7 นิ้ว รองรับการเล่นเครื่องเสียง แสดงข้อมูล และมีปุ่มควบคุมเหมือนกับรถหรูฝั่งยุโรป พร้อมมีช่องใส่ SC Card สำหรับระบบนำทาง (Navigator ) มาให้ด้วย รวมถึงระบบจดจำเสียง แต่เนื่องจากราคาที่กระโดดห่างจากคู่แข่งพอสมควร จึงยากที่จะนำมาเปรียบเทียบได้
       
ส่วนระบบความปลอดภัยของมาสด้า 2 สกายแอคทีฟทุกรุ่น นอกจากระบบที่มีทั่วๆ ไป ยังให้มาครบครันเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ (DSC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) ระบบป้องกันล้อล็อค (4W -ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบสัญญาณไฟเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (ESS) และแป้นเบรกยุบตัวอัตโนมัติ เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้า และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ โดยเฉพาะรายหลังสุดที่โดดเด่นกว่ากับการเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมด้านข้าง มาให้ในรุ่นท็อป SV+ ด้วย
       
สรุป… หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลเทคนิค โดยไม่นำเรื่องของบริการหลังการขายมาร่วมพิจารณา “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” นับว่าโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมัน และขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล โดยมี “ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบูสต์” เป็นอีกตัวแทรกที่น่าสนใจ รวมถึงรุ่น 1.5 ลิตรของเฟียสต้า ที่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก เมื่อเทียบกับราคานับว่าโดดเด่น เคียงคู่มากับ “ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ” แต่หากต้องการความครบครันคงเป็นรุ่นท็อปของมาสด้า2 ใหม่ นั่นหมายถึงต้องจ่ายในราคาที่กระโดดห่างจากคู่แข่งสักหน่อย

Chevrolet Sonic

ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000007675