มอมชาเขียวแจกเบนซ์! การตลาด “เสี่ยตัน” แจกแหลกบนเฟซบุ๊กผิดกฎหรือไม่?

สร้างกระแสได้แทบทุกครั้งกับแคมเปญแจกของลุ้นโชคชาเขียวอิชิตัน จากไอโฟน แพกเกจเที่ยวญี่ปุ่นจนถึงรถปอร์เช่ ล่าสุดกับรถเบนซ์ที่ปั่นกระแสด้วยการโพสต์กองเงินกว่า 123 ล้านบาทไว้ตรงหน้า
       
ทำเอากระแสโซเชียลกระหน่ำแชร์กระหน่ำไลค์เพียงวันเดียวก็พุ่งลิ่วเกินล้านในเวลาไม่นาน การตลาดดังกล่าวนั้นถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย แต่แน่นอนว่าในด้านการตลาดของการชิงพื้นที่สื่อเสี่ยตัน ภาสกรนทีชนะไปได้อย่างสวยงาม แต่ในมุมศีลธรรมนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมอย่างเข้มข้น
       
สังคมเสพติดโชค
       
อาจถือเป็นเรื่องปกติของสังคมทุนนิยมที่เงิน 123 ล้านบาทบนโต๊ะของชายคือตัน – ภาสกรนทีจะกระแทกสะเทือนความอยากมีอยากได้ของผู้คน เมื่อเขาบอกว่าเงินนี้มีไว้แจก ไม่แปลกหากผู้คนจะยื่นมือคว้าจับ และมันก็สร้างปรากฏการณ์ลุ้นโชคลุ้นรวยได้ทุกครั้งไป
       
ล่าสุดกับแคมเปญแจกรถเบนซ์ 50 คัน เขาได้โพสต์ภาพกำลังขนเงินสดจำนวน 123 ล้านบาทไปถอยรถเบนซ์ 50 คันมาแจก พร้อมอธิบายกฎเกณฑ์หากมีคนไลค์เกิน 1 ล้านไลค์จะทำการแจกรถ โดยระบุข้อความไว้ว่า
       
“กดไลค์, แชร์ รูปนี้เกินล้าน ผมจะนำเงินสด 123 ล้านบาทไปถอยรถเบนซ์ มาแจกผู้โชคดี 50 คน ใครอยากได้เบนซ์สีอะไร จองกันไว้เลย นับถอยหลังอีกสิบวัน อิชิตันรวยเปรี้ยง แจกเบนซ์ทุกวัน 50 วัน 50 คัน เริ่ม 5 มีนานี้ เตรียมส่งรหัสฟรีใต้ฝาอิชิตัน *711 ขอให้ 1ในนี้เป็นคุณ สาธุ”
       
รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เคยกล่าวไว้ถึงกรณีลักษณะนี้ว่ารัฐบาลควรหันมาออกมาตรการควบคุมรางวัลเสี่ยงโชคของบรรดาเครื่องดื่มชาเขียว โดยเขามองว่า รางวัลจูงใจมูลค่าสูงเหล่านี้เป็นเหมือนการพนันทางอ้อม
       
โดยเขาเปิดเผยรายงานการวิจัยเรื่องการพนันหรือการเสี่ยงโชคว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายจัดรายการเสี่ยงโชคจำนวนมาก ซึ่งเป็นการมอมเมาประชาชนและทำให้คนบริโภคสินค้าเกินความจำเป็น ในงานวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาการแข่งขันทางธุรกิจอย่างรุนแรงของบริษัทชาเขียว 2 แห่ง ซึ่งมีการแจกทองคำมูลค่า 1 ล้านบาททุกวันเป็นเวลายาวนานติดต่อกันถึง 60 วันและมีการแจกโทรศัพท์ไอโฟน 5 วันละ 10 เครื่อง ขณะที่อีกบริษัทหนึ่งแจกทองคำมูลค่า 1 หมื่นบาททุกชั่วโมงรวม8 ครั้งต่อวัน การชิงโชคในลักษณะนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นการพนัน เพราะมีผลลัพธ์เกิดขึ้นทุกวันและทุกชั่วโมงของเวลาทำการ ผลกระทบอาจรุนแรงกว่าการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกทุก 15 วัน หรือการเสี่ยงโชคด้วยการซื้อสลากออมสิน หรือสลากออมทรัพย์ทวีสิน ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
       
“ธุรกิจชาเขียวมีมูลค่าตลาดสูงถึงปีละ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาทบริษัทจึงใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการกระตุ้นยอดขาย จนกลายเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้การส่งเสริมพฤติกรรมการเสี่ยงโชคเป็นเรื่องที่น่าทดลอง เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ทำให้คนเชื่อว่าสามารถได้สิ่งที่ต้องการโดยง่าย สนุก ไม่เหนื่อยไม่ต้องทำงาน รอคอยโชควาสนา หากไม่ควบคุมเชื่อว่าสินค้าหลายตัวจะนำกลยุทธ์เช่นนี้ไปใช้จนกลายเป็นปัญหาของสังคมไทยได้”
       
ผิดกฎเฟซบุ๊ก
       
แคมเปญลักษณะพาลูกเพจมากดไลค์ กดแชร์ แจกของรางวัลนั้นถือเป็นที่นิยมทำกันมากในประเทศไทย และแน่นอน กลยุทธ์ดังกล่าวก็แทบจะเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติในเพจ “ตัน ภาสกรนที” โดยมียอดลูกเพจตอนนี้สูงกว่า 8 ล้านคน นอกจากนี้เพจยังมีลักษณะแจกของตามพิเศษอย่าง หากใครกล่าวถึงสินค้าในเครืออิชิตันในรูปแบบใดก็ตามแล้วเป็นกระแสขึ้นมา หลายครั้งก็จะมีการแจกไอโฟนให้คนเหล่านั้นด้วย
       
ทว่ากฎล่าสุดของเฟซบุ๊กที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นได้มีการระบุว่า แคมเปญเหล่านั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎ! โดยกฎของเฟซบุ๊กนั้นมีดังนี้
       
การจัดแคมเปญใดๆ บนเฟซบุ๊กจะต้องจัดผ่านเฟซบุ๊กแอปเท่านั้น(จะเป็นแอปลิเคชันแท็ปในหน้า เฟซบุ๊กเพจก็ได้)
       
เฟซบุ๊กไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดแคมเปญต่างๆ (ถึงจะจัดบนเฟซบุ๊กก็เถอะ)
       
เฟซบุ๊กไม่อนุญาตให้บังคับให้ผู้ใช้งานกดไลค์โพสต์บนหน้าวอลล์หรือต้องทำอะไรต่อมิอะไรก่อนจะได้ใช้งานร่วมแคมเปญ 
       
เฟซบุ๊กไม่อนุญาตให้เอาระบบฟีเจอร์ต่างๆ ของเฟซบุ๊กไปจัดแคมเปญโดยเด็ดขาดยกตัวอย่างเช่น กดปุ่ม Like ได้รางวัล, กดโหวต (Questions)
       
และถ้าแคมเปญจบและได้ผู้โชคดีแล้วเฟซบุ๊กก็ไม่อนุญาตให้ส่งข้อความไปหา, แชตไปหา หรือโพสต์ในหน้า Profile ของผู้โชคดีเด็ดขาด!
       
แน่นอนว่า หลายเพจดูจะทำผิดกฎที่ตั้งไว้ของเฟซบุ๊ก แต่ทางเฟซบุ๊กก็ยังไม่มีมาตรการในการไล่จับเพจหรือแอปที่ทำผิดกฎแต่อย่างใด

ที่มา : http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022664