โมบาย เอ็กซ์โป 2015 คึกคัก เงินสะพัดกว่า 1.5 พันล้าน

เริ่มแล้วงาน โมบาย เอ็กซ์โป 2015 คาดยอดเงินสะพัด 1,575 ล้านบาท ขณะที่ยอดคนเข้างานกว่า 7.25 แสนราย ด้วยการตอบรับจากผู้บริโภคที่ต้องการมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟน ที่แต่ละแบรนด์ทำโปรโมชันแข่งขันกันดุเดือด โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
       
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวว่า ผลของการทดลองเปิดพื้นที่เพื่อจัดงาน Mobile Game Zoneในการจัดงาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ผ่านมา พบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับการตอบรับจากคอเกมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระแสของเกมบนสมาร์ทโฟนกำลังได้รับความนิยม ทำให้ในครั้งนี้ได้เปิดเพิ่มเป็นเต็มพื้นที่ของโซนบอลรูมจากเดิมที่เปิดเพียงครึ่งเดียว โดยคาดว่าการจัดงาน Thailand Mobile Expo2015 ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รอบนี้จะมีจำนวนผู้เข้าชมงาน และยอดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นกว่า 5% เมื่อเทียบกับครั้งที่ผ่านมา ที่มีเงินสะพัดภายในงานกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่ยอดผู้เข้าชมงานอยู่ที่ 6.9 แสนราย โดยคาดว่าจะมียอดผู้เข้าชมงานกว่า 7.25 แสนราย และยอดเงินสะพัดกว่า 1,575 ล้านบาท
       
สำหรับปัจจัยในการเติบโตจะมาจากการวางจำหน่าย และเปิดจองสมาร์ทโฟนในหลากหลายรุ่น ที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค และการจัดแสดง Wearable Device และ Gadget รุ่นล่าสุดที่กำลังได้รับความสนใจจะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ ซึ่งในครั้งนี้ได้มีกลุ่มพันธมิตรโทรศัพท์มือถือกว่า 40 แบรนด์เข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมเวิร์กชอปที่จะให้ความรู้แก่ลูกค้า
       
“ในครั้งนี้มือถือแบรนด์ใหม่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนในระดับ Flagship ที่น่าสนใจ รวมไปถึงการเปิดตัวสมาร์ตวอชต์รุ่นใหม่ๆ ของค่ายยักษ์ใหญ่ที่กำลังเป็นที่รอคอย และสามารถตอบสนองความต้องการของคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายทั้งลด แลก แจก แถม รวมไปถึงโปรโมชันดอกเบี้ย 0% จากบัตรเครดิตต่างๆ ที่ร่วมรายการอีกมาก”

ด้าน นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจีได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม LG G4 สมาร์ทโฟนรุ่น Flagship โดยการเปิดตัวในครั้งนี้แอลจีได้ใช้งบการตลาดประมาณครึ่งหนึ่งจากงบการตลาดทั้งหมดในปีนี้อยู่ที่ 60 ล้านบาท ในการผลักดันสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 3% ของตลาดรวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 1% ส่วนในตลาดไฮเอนด์นั้นได้ตั้งส่วนแบ่งไว้ที่ 7% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3%
       
“สำหรับตลาดครึ่งปีหลังนั้น แอลจีคาดว่าตลาดมือถือจะเติบโตเพิ่มขึ้น ต่างจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่ค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ โดยขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีทั้งทางด้านการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติ โดยขณะนี้มือถือในตลาดระดับกลางถึงบนของแอลจีในระดับราคา 10,000 บาทขึ้นไป ค่อนข้างได้รับความสนใจ และมีส่วนแบ่งมากกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้นอกจากจะเน้นทางออนไลน์มาร์เกตติ้งแล้ว ยังจะเริ่มขยายช่องทางไปในช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น โมเดิร์นเทรด ซึ่งปัจจุบันแอลจียังไม่ได้เข้าไป”
       
จุดเด่นของ LG G4 มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน ฝาหลังหนังแท้มีให้เลือก 4 โทนสี และยังมีฝาหลังสีขาว สีเทา และสีทอง โดยในส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลในกล้องหลัง และ 8 ล้านพิกเซลในกล้องหน้า มีเลนส์รูรับแสงขนาด F 1.8 ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้ในที่ที่แสงไม่อำนวย รวมไปถึง Manual Mode ที่ช่วยให้สามารถตั้งค่าโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ ISO การชดเชยปริมาณแสงได้เสมือนการถ่ายรูปจากกล้องถ่ายรูปทั่วไป

ด้าน นายจิรวัฒน์ ศรีธระชิยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดที่ผ่านมาของวีโกจะเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะใช้งบประมาณทางการตลาดประมาณ 300-400 ล้านบาทในการการสื่อสารการตลาดที่จะเน้นให้เห็นถึงสเปกที่มีราคาที่คุ้มค่า รวมไปถึงประสิทธิภาพของตัวเครื่อง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ติด 1 ใน 5 ของแบรนด์มือถือภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ใน1 ใน 10 ของตลาดมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 1%
       
“วีโกคาดว่าตลาดมือถือในครึ่งปีหลังนี้น่าจะสดใสมากขึ้น โดยวีโกจะนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกประมาณ 5-6 รุ่นในปีนี้ นอกเหนือไปจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Highway Star Skys the Limit ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ครั้งที่ 21 โดยตั้งเป้าหมายที่จะขายรุ่นนี้ให้ได้ภายในงานนี้ 2,000 เครื่อง โดยปัจจุบันมือถือในระดับราคา 3,000 จนถึง 10,000 บาทของวีโกนับว่ามียอดขายที่ดี และมีส่วนแบ่งมากที่สุดเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด”
       
ส่วน นายฑิตพล จันทรอุไร ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมายอมรับว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคตกลง แต่ด้วยการที่มีปัจจัยอย่างการเปลี่ยนเครื่องที่รองรับ 3G และ 4G เข้ามา ทำให้ผู้บริโภคยังคงมีการตอบรับที่ดี
       
“ไอ-โม บาย ตั้งเป้าว่าจะขายสมาร์ทโฟนภายในงานได้ 2,000 เครื่อง โดยแบ่งเป็นรุ่นใหม่ที่เปิดตัวคือ IQ PRO Limited Edition 800 เครื่อง และ IQ Big ราว 500 เครื่อง ที่เหลือก็จะเป็นรุ่นอื่นๆ”
       
สำหรับทั้ง 2 รุ่นที่ ไอ-โมบาย เปิดตัวใหม่อย่าง IQ PRO Limited Edition จะชูจุดเด่นที่หน้าจอ HD 5 นิ้ว กล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16 GB ขณะที่ IQ Big เน้นจุดเด่นที่แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh

ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052196