กระเป๋าเดินทาง “เช็กอินได้ด้วยตัวเอง”

อาจเพราะการบริหารจัดการของท่าอากาศยานแต่ละแห่งนั้นแตกต่างกัน เรียกได้ว่ามีทั้งดีสุดขั้ว ไปจนถึงมั่วสุดขีด โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางที่ถึงกับมีการอัดคลิปเผยแพร่การทำงานของพนักงานท่าอากาศยานโยนกระเป๋าผู้โดยสารบ้าง เตะกระเป๋าผู้โดยสารบ้าง ฯลฯ มาแฉกันบนโลกออนไลน์
       
แม้จะเป็นหน้าที่ของท่าอากาศยานแต่ละแห่งในการหาวิธีบริหารจัดการให้ดีขึ้น แต่บริษัทในสายเทคโนโลยีก็แสดงความสนใจในการพัฒนา “กระเป๋าเดินทาง” ให้อัฉริยะมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงให้เจ้าของกระเป๋าไม่ต้องเสียทรัพย์หากต้องเจอต่อการบริหารจัดการแบบมั่วๆ ด้วยเช่นกัน โดยคราวนี้เป็นทางค่าย Samsonite จับมือกับซัมซุง (Samsung) พัฒนากระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ สามารถแจ้งเตือนเจ้าของได้หากพบว่ากระเป๋าถูกเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต
       
ซีอีโอของแซมโซไนท์อย่าง Ramesh Tainwala เผยว่า ภายในกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะนี้มีการติดตั้ง GPS เพื่อส่งสัญญาณเข้าไปยังแอปในสมาร์ทโฟนให้เจ้าของทราบว่า มันอยู่ที่ไหนนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเจ้าของมารอรับกระเป๋าที่สายพานแต่ยังไม่เห็นกระเป๋าออกมาก็สามารถเช็กผ่านแอปได้ว่ากระเป๋าเดินทางตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว
       
ที่ฉลาดไปกว่านั้นก็คือ กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะนี้สามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ผู้เป็นเจ้าของทราบว่า มันถูกเปิดโดยที่เจ้าของไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้นๆ ได้ด้วย
       
แต่ถ้าจะให้ฉลาดมากขึ้นไปอีก ทางแซมโซไนท์เผยว่า อยู่ระหว่างการพัฒนากระเป๋าเดินทางที่สามารถเช็กอินได้ด้วยตัวเองเมื่อมาถึงสนามบิน โดยจะมีการติดตั้งชิปเอาไว้ภายใน เมื่อมันมาถึงสนามบิน ระบบจะส่งสัญญาณให้ระบบของทางสนามบินได้ทราบว่า คุณมาถึงแล้ว และเชื่อมต่อเข้ากับข้อมูลของสายการบิน และเส้นทางการบินของผู้เป็นเจ้าของได้ด้วย
       
ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จริง การเดินทางโดยเครื่องบินอาจจะสะดวกขึ้นอีกมาก เพราะมันจะช่วยลดขั้นตอนในการเช็กอิน ชั่งน้ำหนัก ฯลฯ ลงได้แทบทั้งหมด
       
ทาง Tainwala เผยด้วยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ร่วมกับสายการบินอย่างเอมิเรตส์ ลุฟฮันซ่า และ KLM Air France ในการพัฒนาระบบเช็กอินสัมภาระด้วยกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะดังกล่าวแล้ว
       
แต่ที่เจ๋งที่สุดอาจเป็นการพัฒนากระเป๋าเดินทางที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง และสามารถสั่งให้มัน “เดิน” ตามเจ้าของได้ โดยทางแซมโซไนท์ และซัมซุง เผยว่า เทคโนโลยีดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งกระเป๋าที่มีระบบนี้จะเคลื่อนที่ตามหลังผู้ใช้ในระยะ 6 นิ้ว โดยมีรีโมตคอนโทรล และมอเตอร์ภายในตัวกระเป๋าด้วย
       
อย่างไรก็ดี การพัฒนากระเป๋าในลักษณะดังกล่าวนั้น Tainwala เผยว่า ต้องใส่ใจในเรื่องของขนาดมอเตอร์ไม่ให้มีน้ำหนักมาก หรือใหญ่เกินไปจนกินพื้นที่ในกระเป๋ามากนักด้วย

ที่มา : http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053012