หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เดินหน้าเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น P8 และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะภายในงาน “Southeast Asia P8 & Wearable Launch” จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของหัวเว่ย เชิญสื่อมวลชน และแขกเข้าร่วมงานกว่า 500 คน จาก 11 ประเทศ คาดหวังจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้ 8 ล้านเครื่อง ภายในปี 2558 ซึ่งคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 160%
ริชาร์ด หยู ซีอีโอของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดเผยว่า ผลจากการวิจัยตลาดอย่างลึกซึ้งของหัวเว่ย ทำให้ทราบถึงปัญหาของผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมในปัจจุบัน ซึ่งการเปิดตัวสมาร์ทโฟน หัวเว่ย P8 ในครั้งนี้ จึงเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการรวมเอาจุดเด่นของสไตล์ และความทนทานของเครื่องมาไว้ด้วยกันในเครื่อง P8 เพื่อปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้งานกล้อง และการเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์ก ตามเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสมาร์ทโฟนกลุ่ม P ซีรีส์
“เป้าหมายของ P8 คือ การเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานง่ายที่สุดในโลก และหัวเว่ยต้องการให้ P8 กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคในปี 2558”
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่สำคัญของหัวเว่ย และเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจ และมีศักยภาพสูงในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบัน หรืออนาคต ถือได้ว่าเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ และเป็นส่วนที่ผลักดันให้หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2557 หัวเว่ยได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้มากกว่า 10 ล้านเครื่อง โดยเป็นสมาร์ทโฟน 3 ล้านเครื่อง และหลังจากการเปิดตัว P8 Max และ P8 Lite ในปีนี้ คาดว่าจะจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้ 8 ล้านเครื่อง ซึ่งคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 160%
“กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญของหัวเว่ย คือ การนำเสนอประสบการณ์อันชาญฉลาด และไร้ขีดจำกัดให้แก่ผู้บริโภคผ่านการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์ ยานพาหนะ และที่อยู่อาศัย”
ด้าน โทมัส หลิว ประธานบริหารกลุ่ม คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า หัวเว่ยเล็งเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากยอดการจัดส่งผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคนี้ โดยรายงานล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2558 มีการจัดส่งสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตขึ้นถึง 120% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ หัวเว่ย ยังซึ่งมีแผนเปิดศูนย์บริการถึง 1,500 แห่งทั่วภูมิภาค และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาบริการหลังการขาย และการให้บริการแก่ลูกค้าวีไอพีสำหรับผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์
โทมัส หลิว ประธานบริหารกลุ่ม คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ P8 ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือปกแข็งโบราณ ความมันวาว เรียบง่าย และหรูหรา ความบางเฉียบของตัวเครื่อง เทคโนโลยีการออกแบบขอบจอให้บางลงเพื่อให้พื้นที่หน้าจอกว้างขึ้น โดยมีพื้นที่หน้าจอคิดเป็น 78.3% ของพื้นผิว ตัวเครื่องบางเพียง 6.4 มิลลิเมตร รองรับ 2 ซิม และสามารถใช้งานระบบ 4G ได้ มีแบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh ทำงานด้วยชิปเซต Kirin 930 Octa-Core 64-bit
นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องถ่ายภาพให้สามารถถ่ายภาพได้ทั้งในที่แสงน้อย และคอนทราสต์สูง พร้อมความสามารถในการประมวลผลภาพอิสระระดับเทียบเท่ากล้อง DSLR ทำให้หัวเว่ย P8 เป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพการวาดไฟได้ดี ขณะที่โหมดถ่ายภาพวิดีโอ (Director Mode) เป็นโหมดที่ทำให้ผู้ใช้ P8 ได้กำกับ และควบคุมสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เครื่องอื่นได้ถึง 3 เครื่อง เมื่อถ่ายทำวิดีโอในมุมที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน และจัดการตัดต่อรวมเป็นวิดีโอคลิปเดียวกันได้ภายในพริบตา โดย P8 มีวางจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ P8 Lite ราคา 7,990 บาท P8 ราคา 15,990 บาท และ P8 Max ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวหัวเว่ย TalkBand B2 ที่สามารถเชื่อมต่อกับ P8 ได้โดยไม่ต้องใส่พาสเวิร์ด และสามารถแจ้งตำแหน่งของโทรศัพท์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่ง TalkBand B2 รุ่นสแตนดาร์ดราคา 5,990 บาท และรุ่นพรีเมียมราคา 6,990 บาท
