สาวซิกแพก ฟิตแอนด์เฟิร์ม เทรนด์แรงแห่งปี

สาวซิกแพก ฟิตแอนด์เฟิร์ม หรือ Absolute Lady จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่นี่คือ เทรนด์แรงของสาวยุคนี้ ที่หันมาเอาจริงเอาจังกับการออกกำลังกาย กินอาหารคลีน ส่งผลให้ธุรกิจฟิตเนส สินค้าออกกำลังกาย เสื้อผ้าแฟชั่น ธุรกิจอาหาร บูมตาม สร้างโอกาสให้กับธุรกิจหน้าใหม่ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

จากสาวๆ หุ่นเอวบางร่างน้อย มาสู่สาวหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม กระชับแข็งแรง ด้วยหน้าท้อง “ซิกแพก” ดูแล้วเซ็กซี่ เป็นแทรนด์ใหม่มาแรงสุดๆ ในหมู่สาวๆ ให้หันมานิยมออกกำลังกาย ชกมวย พิลาทิส บอดี้เวต กินอาหารคลีน สร้างกล้ามเนื้อ ให้มีหุ่นเป๊ะ กล้ามท้อง กล้ามแขนแน่นเปรี๊ยะ 

สื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ หันมาให้การตอบรับกับกระแสนี้ ขึ้นปกด้วยดาราสาวคนดังหุ่นแข็งแรง เฮลตี้บวกเซ็กซี่กันอย่างคึกคัก ในขณะที่ดาราสาว เซเลบริตี้ คนดังทั้งหลาย ก็ขยันโพสต์โชว์ โชว์หุ่น “ฟิตแอนด์เฟิร์ม” ท่าออกกำลังกาย โพสต์ลงกันอินสตาแกรม ก็ยิ่งกระตุ้นให้สาวๆ หันมาเน้นหุ่นเป๊ะ

ความนิยมของการเป็นสาว Triple S เน้นซิกแพก-สตรอง-เซ็กซี่นี้เอง ส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์กีฬา ฟิตเนสเติบโตเพิ่มขึ้น จนกลายเป็น “ปีทอง” ของธุรกิจชุดว่ายน้ำ อุปกรณ์กีฬา เติบโตถึงปีละ 10% ธุรกิจ “ฟิตเนส” ก็ขยายสาขากันอย่างคึกคัก ฟิตเนสเฟิร์ส วีฟิตเนส เวอร์จิ้น ก็เตรียมขยายสาขา รายใหม่ก็เข้ามาเปิดสาขาในไทย

ชนิดของกีฬาก็ไม่ใช่การออกกำลังกายปกติเหมือนที่แล้วมา แต่เน้นไปที่กีฬาที่สร้างกล้ามท้อง กล้ามแขน เช่น ฟรีเวต ยกดัมเบล พิลาทิส ชกมวย ทำให้ฟิตเนสต้องหันมาเพิ่มกีฬาเหล่านี้เพื่อรองรับกับกลุ่มผู้หญิงที่หันมาใช้บริการเพิ่มมากกว่าผู้ชายแล้ว

เทรนด์ยังส่งผลให้แฟชั่นแบรนด์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น H&M วิกเตอรี่ซีเคร็ด ฟอร์เอเวอร์ 21 ต้องหันมาออกชุด “สปอร์ตแวร์” เอาใจสาวๆ กลุ่มนี้ รับกับพฤติกรรมสาวๆ ที่หันมาใส่เสื้อผ้าออกกำลังกายเดินชอปปิ้งกันแล้ว
สินค้าอาหารก็เช่นกัน ผู้ผลิตอย่างค่ายซีพี หันมาผลิต “อกไก่นุ่ม” ออกวางขาย ซีพีเมจิ ออกนมสูตรใหม่ผสมโปรตีน “Way” ดัชมิลล์แตกไลน์สินค้าออกโยเกิร์ต Greek ตอบโจทย์ “สาวฟิตแอนด์เฟิร์ม” ที่ต้องบริโภคอาหารคลีนฟูดควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย

**เจาะลึกพฤติกรรมสาวซิกแพก**

ด้วยเทรนด์มาแรงนี้เอง ทำให้นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำวิจัยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ผู้หญิงวัย 20-49 ปี นิยมออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหาร จำนวน 327 คน พบพฤติกรรมน่าสนใจ

สาวๆ กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่อยู่ในวัย 20-29 ปี มีรายได้ 15,000 – 25,000 บาท นิยมออกกำลังกายเพื่อให้มีรูปร่างกระชับและแข็งแรง พฤติกรรมสาวๆ กลุ่มนี้จะต้องออกกำลังกายและเลือกทานอาหารที่ให้ประโยชน์อย่างเคร่งครัด

พวกเธอจะมีแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวัน จับจังหวะการเต้นของหัวใจ สาวๆ กลุ่มนี้ วินัยสูง ทั้งการออกกำลังกาย ทานอาหาร ที่เน้นโปรตีนสูง เพื่อสร้างกล้าม เน้นกากใยเพื่อขับถ่าย มีการคำนวณแคลอรีที่จะบริโภคในแต่ละวันมาอย่างดี กลัวที่สุดคือน้ำตาลและไขมัน

ส่วนสื่อที่มีอิทธิพลกับสาวๆ กลุ่มนี้ ก็ต้อง อินสตาแกรม ไว้ตามดาราสาวคนดัง หุ่นเป๊ะ และเว็บบอร์ด Pantip เพื่อรับข้อมูลจากกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตใกล้เคียงกัน และพร้อมจะให้ข้อมูลของตัวเองด้วยเช่นกัน

พฤติกรรมการเลือกสินค้า เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะ เสื้อผ้า รองเท้า กระบอกน้ำต้องเข้าชุดกัน เพราะจะนิยมโพสต์ภาพขึ้นไอจี หากสินค้าเป็นแบรนด์ฮิต ดีไซน์สวย สีสันสดใส เท่าไหร่เท่ากัน สาวๆ กลุ่มนี้ควักเงินซื้อทันที

การเลือกซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม จะใส่ใจรายละเอียด และข้อมูลของสินค้าสูงมาก เพื่อใช้ประกอบในตัดสินใจ สาวๆ กลุ่มนี้จะใช้เวลาในการเลือกซื้อสินค้ามากกว่าทั่วไปถึง 3 เท่า แต่ถ้าพอใจแล้ว สาวๆ กลุ่มนี้จะมี “ลอยัลตี้” ต่อสินค้าสูงเช่นกัน 

ธุรกิจไหนที่ต้องการทำตลาดกับสาวๆ กลุ่มนี้ ต้องให้ข้อมูลสินค้าครบถ้วน มีป้ายบอกส่วนผสม และแคลอรีอย่างชัดเจน ต้องมองหาโอกาสจากช่องว่างของสินค้าและบริการที่มีอยู่ สร้างให้เป็นสินค้าขึ้นมาใหม่ เช่น การออกผลิตภัณฑ์ เวย์พร้อมดื่ม มาตอบโจทย์การพกเวย์ชนิดผง ที่มีความยุ่งยากมาก ต้องติดตามความต้องการของลูกค้าใหทัน และขาดไม่ได้คือ การสร้างคอมมูนิตี้ เพื่อรับกับพฤติกรรมความชื่นชอบออกกำลังกายเป็นกลุ่ม

จับตา 3 ธุรกิจ จับตลาดสาวซิกแพก

มาดูกันว่า 3 สาวเจ้าของธุรกิจที่สามารถจับเทรนด์สาวซิกแพก หรือ Absolute Lady จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ต้องเริ่มจากอะไรบ้าง

แนน-อารยา ฉ่ำตระกูล เจ้าของ Arial Factory สถานที่ออกกำลังกาย เน้นรูปแบบของกายกรรม ที่ผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายผสมศิลปะ เช่น พิลาทิส หรือการใช้ห่วง หรือผ้า โดยเริ่มธุรกิจเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มาจากความชื่นชอบการออกกำลังกาย ประกอบกับคร่ำหวอดอยู่ในวงการอีเวนต์ ที่เน้นการเต้นอยู่แล้ว จึงนำห้องซ้อมและความรู้ที่เรียนมาเปิดสอนให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียน ช่วงแรกลงทุนน้อยมาก จึงคิดค่าเรียนราคาไม่สูง มีนักเรียนมาสมัคร 100 คน จึงตัดสินใจเปิดสถานออกกำลังกายเต็มตัว

ด้วยกระแสความนิยมของคนที่หันมาออกกำลังกายแนวนี้เพิ่มขึ้น ทำให้แนน-อารยาตัดสินใจควักลงทุน 4 ล้านบาท สร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้นบนเนื้อที่ 200 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าที่ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นมาก
อารยา ย้ำว่า การเริ่มต้นธุรกิจนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดใหญ่ หรือเริ่มจากเล็กก่อนก็ได้ เมื่อมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจึงค่อยขยาย เพราะหัวใจของธุรกิจจะอยู่ที่คุณภาพของเทรนเนอร์ และความซื่อสัตย์กับลูกค้า

“แนนเริ่มต้นจากสตูดิโอเล็กๆ ค่าสร้าง 2 แสน แนนสอนเองด้วย ยิ่งลดต้นทุนได้เยอะ เพราะเรามีความชอบ มีคนมาเรียนมากขึ้น แนนก็สอนคนที่ต้องการเป็นเทรนเนอร์ สอนให้ฟรี เพื่อให้เขามาเป็นเทรนเนอร์ให้กับเรา ซึ่งทุกคนต้องหมั่นฝึกซ้อมหาความรู้เพิ่มตลอดเวลา”

นอกจากเทรนเนอร์แล้ว การจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน หลักสูตรต้องปรับตามที่ลูกค้าต้องการ ยิ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับกระแสหรือเทรนด์ด้วยแล้ว ต้องมีกิจกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพื่อดึงดูดลูกค้าตลอดเวลา เช่น การเน้นให้ออกกำลังกายเป็นกลุ่ม เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของสาวๆ ที่ชื่นชอบการคอมมูนิตี้ที่ออกกำลังกายร่วมกัน

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนแต่ไม่มีความรู้ อารยาจำเป็นต้องหาที่ปรึกษา หรือหุ้นส่วนที่เชี่ยวชาญมีความรู้เรื่องการออกกำลังกายมาช่วย ไม่เช่นนั้นโอกาสจะพัฒนาธุรกิจทำได้ยาก 

ทางด้าน กัณฐ์มณี เอี่ยมวีรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยเซ็นทรี (1995) จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอุปกรณ์กีฬามีอายุ 20 ปี มุ่งเน้นทำตลาดในต่างประเทศมาตลอด จนเมื่อ 5 ปีมานี้ เริ่มเห็นการเติบโตของตลาดในประทศ จากยอดขายของบริษัทที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งภาพรวมของธุรกิจ อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า อาหาร มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก เพราะคนหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากขึ้น ที่สำคัญไม่ใช่แค่การออกกำลังกายแบบพื้นฐานทั่วไป แต่เน้นสร้างกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายแบบจริงจัง หวังผลระยะยาว เป็นจุดเริ่มต้นของบ้านเรา ที่จะทำให้โอกาสตลาดสินค้าและบริการออกกำลังกายเติบโตได้อีกมาก

สำหรับกัณฐ์มณี คือ การรักษามาตรฐานสินค้า รวมทั้งการให้ข้อมูลกับลูกค้ามากที่สุด เน้นเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าจึงจะอยู่ได้นาน และที่ขาดไม่ได้คือ ข้อมูลความต้องการของลูกค้า เพื่อนำไปออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้ตลอดเวลา เป็นกุญแจความสำเร็จที่ทำให้บริษัทเติบโตมาได้กว่า 20 ปี 

ด้วยเทรนด์สุขภาพนี้เอง ทำให้ นุ่น-อรอุษา พุกจินดา แอร์โฮสเตสสาววัย 28 ปี เจ้าของธุรกิจอาหารคลีน ดิลิเวอรี “Tip Top” อาชีพเสริมที่เริ่มต้นมาจากความชอบทำอาหาร โดยเริ่มจาการทำเบเกอรี่ก่อน แต่ไปไม่ได้ไกล จึงหันมาทำอาหาร “คลีนฟูด” รับกับเทรนด์การดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายกำลังมาแรง จนประสบความสำเร็จด้วยดี เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชื่นชอบอาหารคลีนฟูด

นุ่น-อรอุษา เล่าว่า เธอเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ โดยให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้า และชำระเงินมาก่อน จากนั้นจึงนำไปซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารและจัดส่งให้ลูกค้า วิธีนี้นอกจากจะได้อาหารปรุงอาหารสดใหม่ทุกวัน ยังไม่เสี่ยงขาดทุน หากไม่มีออเดอร์เข้ามา และด้วยกำไรของธุรกิจเกี่ยวกับอาหารค่อนข้างมากทำให้ถึงจุดคุ้มทุนในเวลารวดเร็วแล้ว ยังทำให้เธอสามารถวางแผนระยะยาวในการลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ครัวต่อยอดธุรกิจได้ต่อเนื่อง

ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้น จากความนิยมของลูกค้า ที่มีต่ออาหารคลีนที่เพิ่มขึ้น เธอจึงเตรียมขยายช่องทางขายและรับสินค้าตามคอนโดมิเนียมากขึ้น และเตรียมเปิดเป็นร้านขายอาหารสุขภาพ พร้อมกับขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มพ่อแม่ที่ซื้ออาหารคลีนฟูดให้ลูกทาน หรือซื้อให้กับผู้สูงอายุ เพื่อควบคุมแคลอรี

นุ่น บอกเคล็ดลับของธุรกิจนี้ว่า การส่งอาหารให้ตรงเวลา ตรงความต้องการของลูกค้า และหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทางร้านจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ไม่ว่าสาเหตุนี้จะมาจากอะไรก็ตาม

ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นกับธุรกิจนี้ นุ่น-อรอุษา แนะนำว่า ถึงแม้จะใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่ต้องรู้ลึกและรู้จริงเกี่ยวกับ “คลีนฟูด” เพราะต้องมีการคำนวณและควบคุมแคลอรีของวัตถุดิบที่นำมาปรุงอย่างเหมาะสม และให้คำแนะนำกับลูกค้าในเรื่องการบริโภคได้

การจะอยู่รอดในธุรกิจนี้ให้ประสบผลสำเร็จได้ ต้องมีใจรัก รู้จริงในธุรกิจ ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับลูกค้า รวมทั้งการสร้าง “คอมมูนิตี้” ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ใครก็ตามที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจนี้ขาดไม่ได้ และนี่คือบางส่วนของธุรกิจที่มาจากกระแสสุขภาพ เทรนด์สาวออกกำลังกาย ที่ใครก็มองข้ามไม่ได้อีกต่อไป