เป็นกระแสฮือฮาอยู่ไม่น้อยสำหรับการขยับตัวครั้งใหญ่ของ “เคเอฟซี (KFC)” ในการปรับโฉมร้านในรูปแบบใหม่ ประเดิมสาขาแรกที่ “ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต” โดยที่คอนเซ็ปใหม่นี้มีการปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์การตกแต่งร้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ
แต่ไฮไลท์ที่สำคัญก็คือการนำบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคนี้เข้ามาอยู่ในร้าน ได้แก่ บริการอินเตอร์เน็ต Wifi, บริการเติมเครื่องดื่มแบบรีฟิล และมีบริการห้องน้ำ สามารถเรียกคะแนนความสนใจได้มากอยู่พอสมควร
โดยการที่เคเอฟซีนำร่องในการปรับโฉมรูปแบบร้านใหม่นั้น เป็นการปูทางไปสู่ “การรีแบรนด์” ครั้งสำคัญในปีหน้า ให้มีความสดใส ทันสมัย และตอบรับกับกลุ่มลูกค้า “เจนวาย” หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งการรีแบรนด์จะมาในคอนเซ็ปต์ Always Original เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น เป็นการบอกเล่าความเป็นต้นตำรับของไก่ทอดที่มีประวัติยาวนาน 75 ปี
อัลฮุล ซัวฮาล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด เคเอฟซี เปิดเผยว่า จริงๆ การปรับโฉมร้านใหม่ในครั้งนี้เป็นเหมือนสเต็ปแรกในการรีแบรนด์ในปีหน้า เรามองว่าที่ผ่านมาแบรนด์เราแข็งแกร่งแล้วในประเทศไทย แต่ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องสื่อสารกับผู้บริโภคให้มีความเข้าใจในแก่นของแบรนด์เคเอฟซีจริงๆ จึงต้องมีการสร้างแบรนด์ รวมไปถึงการรีเฟรชแบรนด์ให้ทันสมัย เข้ากับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ หรือกลุ่มเจนวายที่เราต้องการคุยกับเขา
การรีแบรนด์ในครั้งนี้เคเอฟซีต้องการพูดคุยกับกลุ่มเจนวายมากที่สุด หรือกลุ่มที่อายุตั้งแต่ 15-35 ปี เพราะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้แบรนด์ดูโมเดิร์นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเคเอฟซีเองต้องการทั้งลูกค้า และพนักงานที่เป็นกลุ่มนี้ด้วยกันทั้งคู่ ต้องการให้คนกลุ่มนี้ผูกพันกับแบรนด์
“เรารู้ว่าคนกลุ่มนี้ไม่ชอบการรอนานๆ เราจึงพัฒนาระบบการบริการให้เร็วขึ้น แบบว่าสามารถรองรับลูกค้าได้เพิ่มหนึ่งเท่าตัว การดีไซน์ก็เหมือนกัน ตรงเคาน์เตอร์ที่สั่งอาหารเราก็มีการทำให้ต่ำลง เพื่อให้ดูใกล้ชิดกันมากขึ้น เราต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคว่าเราไม่ได้ให้แค่อาหารที่ถูกใจเขา แต่เราให้ประสบการณ์ที่ดีในการรับประทานอาหาร”
รูปแบบร้านโฉมใหม่ที่สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นร้านที่สร้างขึ้นใหม่อยู่ในโซนใหม่ Alive Park Hall ที่อยู่ด้านหน้า ร้านนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น อัลฮุลบอกว่าการออกแบบร้านเป็นการนำ Global Design ที่เคเอฟซีมีการใช้เป็นมาตรฐานทั่วโลกมาใช้ แต่จะแตกต่างที่การปรับในเรื่องบริการให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทย ซึ่งได้จากอินไซต์ของผู้บริโภคยุคนี้ที่ใช้ชีวิตกับโลกดิจิทัล จึงเสริมบริการฟรี Wifi และมีปลั๊กเสียบชาร์จแบตเตอรี่ รวมไปถึงบริการอื่นๆ อย่างรีฟิลเครื่องดื่ม และมีห้องน้ำ
โดยที่การพัฒนาการบริการที่ว่านั้นก็คือ การนำเทคโนโลยีการรับออร์เดอร์มาตรฐานระดับโลกมาใช้ หรือ SOP (Speed Up Ordering Process) ที่จะเพิ่มความเร็วในการสั่งซื้อและรับอาหาร โดยระบบ SOP ใหม่นี้ จะทำให้เคเอฟซีสามารถให้บริการลูกค้าได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 41 คนต่อชั่วโมงเป็น 83 คนต่อชั่วโมงลูกค้าสามารถสั่งอาหารและจ่ายเงินได้ที่แคชเชียร์ แล้วไปรอรับอาหารได้ที่จุดบริการรอรับอาหาร
ส่วนแผนการขยายสาขาต่อไปของเคเอฟซีนั้นคือตั้งเป้าให้ได้ครบ 800 สาขา ภายในปี 2020 โดยที่ยังไม่ได้แบ่งเป็นจำนวนของโมเดลใหม่ว่าเป็นจำนวนกี่สาขา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง และผลตอบรับที่ได้จากสาขาแรกด้วย แต่อย่างไรแล้วก็อาจจะมีทั้งในรูปแบบที่สร้างใหม่ และรีโนเวทสาขาเดิมด้วย