“TAG Heuer Connected” คู่แข่ง Apple Watch ตัวจริง

“แท็ก ฮอยเออร์ คอนเน็กทิด (Tag Heuer Connected)” คือนาฬิกาที่สื่อหลายสำนักยกให้เป็นหนึ่งในนาฬิกาอัจฉริยะที่มีรูปลักษณ์สวยงามน่าสวมใส่ที่สุดในตลาด และแม้ไม่สามารถจะเรียกเป็นนาฬิกา “สวิส เมด (Swiss Made)” เนื่องจากการผสมเทคโนโลยีของบริษัทอเมริกันเข้ากับสายการผลิตในเอเชีย แต่บนเรือนนาฬิกาก็ยังการันตีคำว่า “Swiss Engineered” เพราะการออกแบบตัวเรือนโดยชาวสวิสซึ่งทำให้นาฬิการุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวจริงของแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ที่กำลังเป็นภัยแทรกซึมผู้ผลิตนาฬิกาดั้งเดิมในขณะนี้
 
เพื่อให้โลกเห็นว่าผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิสจะสามารถยืนหยัดได้ในยุคสินค้าไอทีสวมใส่ได้ หรือ wearable age เจ้าพ่อนาฬิกาแบรนด์หรูอย่าง Tag Heuer จึงพยายามเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ทำให้ผู้สวมสามารถออนไลน์ได้ผ่านนาฬิกาบนข้อมือ ขณะเดียวกัน การจ่ายเงินเพื่อซื้อ Tag Heuer Connected ในราคา 53,000 บาท อาจไม่ใช่เรื่องเสียเปล่า เพราะผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตัวเรือนสมาร์ทวอตช์ไปเป็นนาฬิกากลไกสัญชาติสวิสตัวจริงได้เมื่อนาฬิกานี้ล้าสมัยไปแล้ว
 

 
ดัน Android Wear สู่ตลาดหรู
 
ด้วยการร่วมมือกับอินเทล (Intel) และกูเกิล (Google) แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสอายุ 155 ปีอย่าง TAG Heuer ประกาศเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่นิวยอร์กซิตี สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยฌอง คล็อด บีเวอร์ (Jean-Claude Biver) ผู้บริหาร Tag Heuer ระบุว่านาฬิการุ่นใหม่นี้เป็นการแต่งงานขององค์ความรู้จากการวิจัย และพัฒนาร่วมกัน
 
นาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์สวิสนี้ถูกตั้งชื่อว่า “แท็ก ฮอยเออร์ คอนเน็กทิด (Tag Heuer Connected)” ข้อมูลในขณะนี้ระบุว่า Tag Heuer Connected จำนวน 1 พันเรือน จะถูกส่งไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น ก่อนจะขยายพื้นที่ไปยังประเทศอื่น
 

 
Tag Heuer Connected มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียม การออกแบบถูกสร้างสรรค์ให้มองเหมือนนาฬิกาคลาสิก ภายในติดตั้งหน่วยประมวลผลอินเทลอะตอม หน้าจอทัชสกรีนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแตะระหว่างออนไลน์ เล่นเพลง หรือเปิดแอปพลิเคชันผ่านแพลตฟอร์มแอนดรอยด์แวร์ (Android Wear) ของกูเกิล ทั้งแอปพลิเคชันเพื่อนักออกกำลังกาย และการเดินทางอย่าง “กูเกิล ฟิต (Google Fit)” และ “กูเกิล แม็ปส์ (Google Maps)”
 
ไม่เพียงใช้นิ้วแตะหน้าจอ Android Wear ยังทำให้ Tag Heuer Connected สามารถรับคำสั่งเสียงได้ นาฬิกานี้สามารถแสดงสภาพอากาศ ตั้งค่าปฏิทินงาน หรือเตือนให้ผู้สวมรู้ว่าวันนี้ออกแรงเดินไปแล้วกี่ก้าว
 
ระบบปฏิบัติการภายในที่เป็น Android Wear ทำให้ Tag Heuer Connected สามารถใช้งานได้กับทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS
 
เบื่อก็เปลี่ยนได้
 
ผู้บริหาร Tag Heuer ระบุด้วยว่า ผู้ใช้นาฬิกา Tag Heuer Connected ที่ต้องการยุติใช้คุณสมบัติของ Android Wear ในวันที่ระบบล้าสมัยไปแล้ว จะสามารถส่งคืนให้ศูนย์บริการของ Tag Heuer เปลี่ยนตัวเรือนเป็นนาฬิกากลไก หรือกลายเป็นนาฬิกาแบบดั้งเดิมได้ ทั้งหมดนี้ Tag Heuer ชูจุดขายว่า Tag Heuer Connected เป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกที่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นนาฬิกาดั้งเดิมได้เช่นนี้
 
นโยบายนี้กลายเป็นดาบ 2 คม คมในแง่บวกคือ ผู้บริโภคจะมองว่าค่าใช้จ่าย 1,500 เหรียญสหรัฐนั้นไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า แต่อีกคมในแง่ลบคือ การมองว่า Tag Heuer ไม่เชื่อมั่นในตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ โดยผู้บริหาร Tag Heuer ยอมรับว่านาฬิกา Tag Heuer Connected จะเป็นการชิมลางตลาดสินค้าอัจฉริยะของ Tag Heuer 
 
แม้จะดูเหมือนกำลังเผื่อทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง แต่ Tag Heuer ก็มีความเชื่อมั่นว่านาฬิการุ่นใหม่ไฮเทคจะสามารถดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา Tag Heuer ประสบปัญหายอดส่งออกนาฬิกาลดลงอย่างชัดเจน โดยสถิติล่าสุดพบว่า ยอดส่งออกนาฬิกาหรูมีจำนวนลดลงมากกว่า 14.9% ถือเป็นสัดส่วนที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009
 

 
อย่างไรก็ตาม ความสามารถของ Apple Watch และ Tag Heuer Connected ยังถูกมองว่ามีความแตกต่างกันในเชิงรายละเอียดจนอาจทำให้ผู้ใช้คิดหนัก เช่น Apple Watch ยังสามารถแสดงเวลาได้แม้แบตเตอรี่หมดลง เพราะมีการสำรองแบตเตอรี่ไว้ต่างหาก ต่างจากนาฬิกาของ Tag Heuer ที่ทำไม่ได้
 
น่าเสียดายที่ยังไม่มีการสรุปภาพรวมยอดจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ทั่วโลกในขณะนี้ ข้อมูลล่าสุดมีเพียงตัวเลขยอดจำหน่ายนาฬิกาโลกที่คาดว่าเกินหลัก 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดนาฬิกา Digital Luxury Group