“วี ฟิตเนส” ผนึกกำลัง “อินเด็กซ์” ขนเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งคลับให้เหมือนบ้าน!

แม้จะเป็นฟิตเนสน้องใหม่ในตลาด ที่เพิ่งแจ้งเกิดมาได้ 2 ปี สำหรับ “วี ฟิตเนส โซไซตี้ (We Fitness Society)” แต่อาศัยความเป็นธุรกิจฟิตเนสภายใต้เครือ “เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์” ในการสร้างแบรนด์ พร้อมทั้งชูจุดแข็งด้วยความเป็นฟิตเนสสัญชาติไทยแท้ ที่สามารถเข้าใจผู้บริโภคคนไทยได้ดีกว่าฟิตเนสแบรนด์นอกที่มีอยู่ในตลาด

แต่ด้วยจำนวนสาขาของวี ฟิตเนสไม่ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้ตลาดมากนัก ปัจจุบันมีอยู่ 6 สาขา ได้แก่ที่ เมเจอร์ ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ รัชโยธิน, เอสพลานาด รัชดา, เจ อเวนิว ทองหล่อ และโรงแรม วีโฮเทล และแผนขยายสาขาก็ยังไม่ได้เยอะมาก

วี ฟิตเนสจึงรุกกลยุทธ์ในเรื่อง “ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง” ด้วยการผนึกกำลังกับทาง “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์” ในการตกแต่งคลับที่ออกกำลังกาย ให้เหมือนกับการออกกำลังกายที่บ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ของอินเด็กซ์ ประเดิมสาขาแรกที่เมเจอร์ ปิ่นเกล้า สาขาแฟล็กชิพที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด 5,000 ตารางเมตร

ฐนกฤตย์ สุรกิจบวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วี ฟิตเนส โซไซตี้ จำกัด กล่าวว่า “สมัยนี้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งเรื่องออกกำลังกายและอาหารการกิน และคนก็หันมาเล่นฟิตเนสมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่เรามองว่าอยากเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายจากที่คนมองว่ามันเป็นเทรนด์ ให้กลายเป็นนิสัย แต่ก่อนคนอาจจะมาสมัครฟิตเนสเพรามันเป็นแฟชั่น แต่เราอยากให้เขามาออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราจึงตกแต่งฟิตเนสให้มีบรรยากาศเหมือนบ้าน ลูกค้าก็จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น”

การผนึกกำลังเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ ทางอินเด็กซ์เองก็เหมือนได้พื้นที่ในการ “เวิร์กช้อป” เพราะได้โชว์สินค้าเหมือนเป็นโชว์รูมย่อมๆ ให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดสินค้า ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะมีป้ายราคา และรายละเอียดกำกับ กลยุทธ์นี้ทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าอินเด็กซ์ได้มากขึ้นกว่าเดิม สามารถสร้างการรับรู้กับสินค้าได้ และอาจจะเกิดการซื้อในอนาคต และที่สำคัญมีการแลกเปลี่ยน Database ฐานข้อมูลลูกค้าซึ่งกันและกัน เพื่อแลกสิทธิประโยชน์ของทั้ง 2 แบรนด์

การร่วมมือกับวี ฟิตเนสในครั้งนี้ ถือว่าเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำเวิร์กช้อปครั้งแรก โดยที่ผ่านมาเคยเป็นพาร์ทเนอร์กับทางดีแทค และเมเจอร์ มาบ้างแล้ว แต่เป็นในรูปแบบของการให้สิทธิประโยชน์ และการแลกเปลี่ยน Database เท่านั้น

สำหรับการตกแต่งคลับด้วยเฟอร์นิเจอร์อินเด็กซ์นั้น สาขาต่อไปที่จะทำการปรับเปลี่ยนโฉมก็คือ เอสพลานาด รัชดา และจะค่อยๆ ทยอยไปยังสาขาอื่นจนครบ

ส่วนแผนการขยายสาขาในปีหน้า วีฟิตเนสตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 2 สาขา แต่ยังไม่มีทำเลที่แน่ชัด ยังคงเน้นในโซนที่เดินทางสะดวก มีอาคารสำนักงาน มีที่จอดรถพร้อม อาจจะใช้งบลงทุนราว 100-150 ล้านบาท/สาขา

และตั้งเป้ารายได้รวมทั้งหมด 400 ล้านบาท เติบโต 200% ซึ่งปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 20%

 

เปิดพฤติกรรมการใช้ฟิตเนสของ “วี ฟิตเนส”

– ปัจจุบันมีฐานสมาชิกรวม 20,000 คน เป็นสมาชิกที่แอคทีฟ 12,000 คน

– สมาชิกแบ่งเป็น ชาย 50% หญิง 50%

– มีอัตราการใช้เทรนเนอร์ 30% (ในตลาดส่วนใหญ่ราว 5%)

– ส่วนใหญ่ใช้เวลาในฟิตเนสเฉลี่ย 3-4 ชั่วโมง

– นิยมใช้บริการวันจันทร์ – พุธ มากที่สุด

– ค่าบริการรายเดือนของวี ฟิตเนสเฉลี่ย 2,400 – 2,500 บาท

“เทรนเนอร์” คีย์แมนสำคัญของวี ฟิตเนส

– มีเทรนเนอร์รวมทั้งหมด 150 คน เฉลี่ย 35-40 คน/สาขา

– ค่าบริการเทรนเนอร์เฉลี่ย 900 บาท/ชั่วโมง

– เทรนเนอร์ 1 คนสามารถดูแลลูกค้าได้สูงสุด 40 คน

– เงินเดือนเทรนเนอร์ของที่วี ฟิตเนสเฉลี่ย 40,000-80,000 บาท/คน

– รายได้ของเทรนเนอร์คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้วีฟิตเนส

– ทางวี ฟิตเนสมีการติดต่อตรงกับมหาวิทยาลัยที่มีคณะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่น มหิดล, จุฬาฯ และเกษตร เพื่อในการรับบุคลากรเข้าทำงาน