MRM//McCaNN ชี้ 6 เทรนด์ดิจิทัลมาแรงปี 2559

MRM//McCANN (ประเทศไทย) เอเจนซี่ดิจิทัลภายใต้ McCann Worldgroup ได้เผยเทรนด์ดิจิทัลมาแรงในปี 2559 ในหัวข้อ THE NEW REALITY 2016 (โลกใหม่แห่งความจริงในปี 2559) พร้อมชี้ทิศทางเทรนด์ดิจิตอลที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงสู่โลกของความจริงของผู้บริโภค และรูปแบบของการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ที่น่าจับตามอง

ภาพรวมของเทรนด์ปี 2559 “วฤตดา วรอาคม” หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลและฝ่ายโซเชี่ยล เชื่อว่า “เพื่อที่จะก้าวทันผู้บริโภคและเทคโนโลยีในโลกของการสื่อสารไร้รอยต่อ Seamless World ในปี 2559 แบรนด์จะต้องก้าวนำดิจิทัลแฟชั่นล่าสุด และ Fashion-Forward ในด้านกลยุทธ์เพราะผู้บริโภคมีมุมมองต่อโลกใหม่ที่เปลี่ยนไปในทุกวินาทีที่มีเทคโนโลยีใหม่ก่อตัว วัฒนธรรมเปลี่ยน ภาษาและรูปแบบการสื่อสารเปลี่ยน

จุดโฟกัสในดิจิทัลสำหรับปี 2559 นี้ คือ การสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อผสานโลกจริงและโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะผ่านสื่ออะไรหัวใจสำคัญคือประสบการณ์เดียว”

เริ่มต้นด้วย Mega Trends ซึ่งเป็นเทรนด์ในภาพรวมที่เกิดขึ้นและมีอิทธิพลต่อชีวิตผู้บริโภคในมุมกว้าง คือ 1. ความจริงในแบบของตัวคุณ (Your Own Version of Truth) ในยุคที่ข้อมูลในโลกดิจิตอลเพิ่มมากขึ้นมากมายมหาศาล จนยากที่จะรู้ว่าอะไรจริงและไม่จริง ผู้บริโภคหันมาให้อำนาจกับตัวเองมากขึ้นในการกำหนดทิศทางความเชื่อของตัวเองอย่างชัดเจน มีการตีความความหมายของความจริงใหม่ด้วยตัวเอง 2. ประสบการณ์ความรู้สึกที่ไร้รอยต่อออนไลน์ และออฟไลน์ (Seamless Sensation) โลกออนไลน์และออฟไลน์เริ่มมีบทบาทผสมผสานในการเชื่อมต่อประสบการณ์ของผู้บริโภค แถมยังพร้อมรับมือกับวิถีดิจิทัลไลฟ์ในปัจจุบันทั้งในแง่เรื่องราวในชีวิตจริงและเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกดิจิทัลไปพร้อมๆกันด้วย

3. เป็นมากกว่าที่คุณเห็น (Beyond What You See) เทคโนโลยีปัจจุบันที่กำลังก้าวล้ำไปทุกวินาทีต่อวินาที จนคุณยากที่จะบอกได้ว่า “สิ่งไหนจริง” หรือ “เสมือนจริง” หรือ “สิ่งไหนที่อยู่ระหว่างและเหลื่อมล้ำกัน” สิ่งที่คุณไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้ก็เป็นไปได้

และ 4. ความภูมิใจของความเป็นมนุษย์และสปิริตที่ดีต่อโลก (Human Pride & Worldly Spirit) เหตุการณ์ร้ายๆต่างๆที่เกิดขึ้นมามากมายนั้น ทำให้ผู้บริโภคต้องการมองหาที่พึ่งทางจิตใจ ที่จะสามารถช่วยชี้แนวทางให้ก้าวต่อไปในชีวิตได้ กับการหันมาให้ความสำคัญกับ “คุณค่าความเป็นคน” มากขึ้น

 

6 เทรนด์ดิจิทัลสำคะญที่ทรงอิทธิพลในปี 2559

1.      Digital-Born Lingo : วัฒนธรรมการสื่อสารภาษาดิจิทัลไลฟ์

นวัตกรรมในโลกดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาทำให้วิธีการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในแง่การสื่อสาร ผู้บริโภคในยุคที่ชีวิตมีความเชื่อมต่อ Connected Consumers จะมองหาวิธีการและมุมมองใหม่ๆในการสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อให้อินเทรนด์กับกระแสปัจจุบัน     แบรนด์ต้องพูดภาษาเดียวกันพร้อมปรับทัพการสื่อสารผ่านรูปแบบใหม่ๆ เช่น อิโมจิแทนคำพูด (Emoji) คลิ๊กปุ่มเพื่อซื้อ (Buy Button) การโผล่มาแบบชั่วครั้งชั่วคราว (Ephemeral) จับการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Motion Detection) และอื่นๆอีกมาก การสื่อสารแบบมิติภาษาอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอกับความคาดหวังของผู้บริโภคที่หลากหลายในมิติ

2.      Goodbye Privacy : จุดจบความเป็นส่วนตัว

ตั้งแต่การปฏิวัติการใช้ข้อมูล Big Data ประกอบกับการประมวลข้อมูลของแต่ละบุคคลเพื่อให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์แบบตัวต่อตัว (Personalized) ผู้บริโภคดิจิทัลในปัจจุบันตอบรับกับการเปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้นเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม ในขณะที่คนรุ่นเก่าๆยังกังวลกับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอยู่ คนรุ่นใหม่ๆต่างคิดใหม่ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว (Privacy) และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเพื่อสินค้าและบริการที่เหมาะกับตัวเอง ในแง่การตลาดดิจิทัลก็มีการเติบโตมากขึ้นในรูปแบบการเข้าถึงที่ตรงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะคน เช่น Google Identity-Based Pay Per Click และ Facebook Customed Audiences เป็นต้น แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงตัวบุคคลมากขึ้น

3.      A Year of VR : ปีทองของ VR

เทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดจากจากเทคโนโลยีสุดล้ำแบบสวมใส่ได้ (Wearables) ในปี 2558 สู่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ในปี 2559 ที่ Virtual Reality กำลังก้าวเข้าสู่มือผู้บริโภคแบบเต็มทัพ ทั้ง Oculus Rift, Samsung Gear VR, HTC Vive, Microsoft HoloLens and Sony PlayStation VR มิติใหม่ที่น่าสนใจของ Virtual Reality นั่นคือการทำให้คนเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ได้รับประสบการณ์เพียงอย่างเดียวอย่างที่เคยเป็นมา ในแง่โอกาสทางการตลาดดิจิทัล ได้เปิดโอกาสให้กับแบรนด์ในการสร้าง Brand Content รูปแบบใหม่ๆเพื่อตอบสนองเทคโนโลยีแบบให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมแบบ 360 องศา เสมือนได้อยู่ในประสบการณ์นั้นๆจริง 

4.      E-Commerce E-Cosystem :  ระบบนิเวศออนไลน์เพื่อการซื้อขายแบบครบวงจร

ในปี 2558 ที่ Mobile จะครองโลกดิจิตอล และทำให้ Desktop กำลังจะล้าสมัยลงไป ประกอบกับการที่ เวป โมบาย เสิร์ช และโซเชี่ยล เป็นระบบนิเวศออนไลน์ที่แยกออกจากกันไม่ได้ในแง่การซื้อขาย

ในขณะที่ Google กำลังออกแบบ Algorithm ที่ให้คะแนนเพิ่มสำหรับการออกแบบเพื่อใช้สำหรับมือถือโดยเฉพาะ Facebook เปิดตัว Search Engine และ Business on Messenger Pinterest ส่ง Cinematic Pins และ Snapchat เพิ่มรูปแบบ Discover ระบบนิเวศก้าวผ่านการซื้อผ่านโซเชียลไปยังการซื้อผ่านเสิร์ช เป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำ SEO ในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งจะกลายเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อน E-commerce แบบครบวงจร

5.      Be Yourself-Vertising : ความเป็นตัวตนที่แท้จริง

ความไม่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง แบรนด์และสื่อต่างๆออกมามีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานใหม่ที่พูดถึงความเป็นจริงของคนทั่วไป (Someone-like-me) และออกมาเปิดประเด็นเป็นกระบอกเสียงใสเรื่องที่ถูกวิพากย์วิจารณ์ เช่น การออกมาพูดถึงความเท่าเทียม เรื่องเพศต่างๆ ทั้ง ผู้หญิง ผู้ชาย เพศที่สาม ให้ก้าวผ่านทางการตัดสินของสังคมและเป็นตัวของตัวเอง ถือเป็นจุดสำคัญในการเดินข้างผู้บริโภคที่มองหาความเท่าเทียมในโลกสมัยใหม่

หรืออย่างที่เป็นกระแสในช่วงปีที่ผ่านมาเรื่อง LGBT ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวเรื่องความเท่าเทียมกัน และความภาคภูมิใจในความเป็นคน

 

6.      Humankind : ความเห็นอกเห็นใจกับเพื่อนมนุษยชาติ

ในปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องวุ่นวาย หรือภัยธรรมชาติแก่โลกมากมาย ยุคสมัยที่ชีวิตคนเมืองมีแต่ความเครียดและความปั่นป่วนทางสังคมและการเมือง ผลักดันให้คนกลับมาเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก เพื่อให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้นและชีวิตตนเองก้าวต่อไปได้ จิตสำนึกที่ดีงามในการช่วยเหลือกันและกันเป็นนัยยะที่ดีที่จะเกิดมากขึ้นในปี 2559 โดยมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจน