"แมคโดนัลด์" ผุดโมเดล "ป็อปอัพสโตร์" เสิร์ฟเบอร์เกอร์แบบ Personalize

ในปีที่ผ่านมาได้เห็นการเคลื่อนไหวของตลาด QSR พอสมควร การมาของเทรนด์ “ฟู้ดทรัก” ก็เป็นที่นิยมอย่างมาก ทำให้ผู้เล่นแบรนด์ต่างๆ ลุกขึ้นมาแอคทีฟมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ได้เห็นทั้งการนำร่องปรับโฉมร้านใหม่ของเคเอฟซี การรุกโมเดลไดร์ฟทรูของเบอร์เกอร์คิง ซึ่งในปีนี้ทางแมคโดนัลด์เองก็ขอขยับบ้าง ด้วยการผุดโมเดลใหม่เป็น “ป็อปอัพสโตร์” ที่ตั้งใจกลางกรุงที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด

ป็อปอัพสโตร์นี้เกิดจากความร่วมมือเป็นพันธมิตรกันของทาง CPN หรือเซ็นทรัลพัฒนา กับทางแมคไทย เนรมิตพื้นที่ 140 ตารางเมตร ลานกิจกรรมให้กลายเป็นป็อปอัพสโตร์ของแมคโดนัลด์

งานนี้เรียกว่าเข้าทางของทั้งสองฝ่าย เพราะทางแมคโดนัลด์เองก็ต้องการขยายโมเดลใหม่ๆ ส่วนทาง CPN เองก็ต้องการแม็คเน็ตเพื่อมาดึงดูดนักท่องเที่ยวเมื่อมาถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสเช่นกัน

“การกินอาหารในยุคนี้ก็เหมือนแฟชั่น ทุกคนต้องการอะไรแปลกใหม่”

เป็นเหตุผลแรกของทาง “เพชรรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด ที่ได้เปิดเผยกับทาง POSITIONING ถึงจุดเริ่มต้นที่แมคโดนัลด์ได้เปิดโมเดลป็อปอัพสโตร์นี้

“เราได้ทำการศึกษาอินไซต์ต่างๆ ของผู้บริโภคในยุคนี้พบว่าชอบความแปลกใหม่ ทันสมัย ชอบความหลากหลาย เราจึงทำเป็นป็อปอัพสโตร์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในดีไซน์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นเต้นขึ้น”

ซึ่งโมเดลป็อปอัพสโตร์นี้ได้ทำควบคู่กับแคมเปญ My burger เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ในการให้ผู้บริโภคได้ดีไซน์เมนูตัวเองในรูปแบบของPersonalization สามารถเพิ่ม หรือลดส่วนผสมได้ตามใจ

“ในต่างประเทศอย่างออสเตรเลีย อมเริกา และสิงคโปร์จะเรียกคอนเซ็ปต์นี้ว่า Create Your Taste แต่เมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยเราจึงอยากให้เป็นคำที่คนไทยเข้าใจได้ง่าย เลยเปลี่ยนเป็น My burger ให้เขารู้สึกว่าเป็นเบอร์เกอร์ของเขาจริงๆ”

แต่ที่ป็อปอัพสโตร์นี้จะมีเพียงแค่ 2 เมนูพิเศษเท่านั้น เพิ่มความเป็นพรีเมี่ยมมากขึ้น คือ Classic Angus Beef Burger เนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย และ Kurobuta Spicy Namtok Burger พร้อมเสิร์ฟบนถาดไม้ เหมือนกับแบรนด์เบอร์เกอร์ใหม่ๆ ในตลาดตอนนี้ และน้ำอัดลมสามารถเติมรีฟิวได้ตลอด

สำหรับป็อปอัพสโตร์ที่เซ็นทรัลเวิลด์จะเปิดให้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558-24 มกราคม 2559 เท่านั้น แต่คอนเซ็ปต์ของ My burger จะเปิดให้บริการตามสาขาอื่นๆ เริ่มจากสยามพารากอนวันที่ 16 ธันวาคม 2557 และโรบินสัน สุขุมวิท วันที่ 23 ธันวาคม 2558 จากนั้นในปีหน้าจะทยอยเข้าสาขาอื่นๆ คาดว่าจะได้ประมาณ 50% ของสาขาทั้งหมด

แผนขยายสาขาของแมคโดนัลด์ปี 2559

– ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 217 สาขา แบ่งเป็นร้านธรรมดา 150 สาขา และไดร์ฟทรู 67 สาขา

– แยกตามภูมิภาค ในกรุงเทพ และปริมณฑล มีทั้งหมด 140 สาขา (กทม. 99 สาขา และปริมณฑล 41 สาขา) คิดเป็น 65% ของสาขาทั้งหมด ที่เหลือแบ่งเป็นภาคเหนือ 13 สาขา กลาง 14 สาขา ตะวันออกเฉียงเหนือ 9 สาขา ตะวันออก 16 สาขา และ ใต้ 25 สาขา

– ในสิ้นปี 2558 จะมีสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา รวมเป็น 223 สาขา

– ในปีหน้าแผนขยายอีก 25 สาขา เป็นสาขาไดร์ฟทรู 50% ใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท

– เป้าหมายภายในปี 2020 จะมีสาขาทั้งหมด 400 สาขา และมี 800 จุดขาย