9 คุณสมบัติคอนเทนต์สุดสตรอง…เขียนยังไงให้ปัง

ทุกวันนี้บริษัทและแบรนด์ต่างๆ ทุ่มเงิน เวลา และความพยายามมากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำคอนเทนต์มารติ้ง แต่แม้จะพยายามมากแค่ไหน แต่บางครั้งผลตอบแทนของคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นกลับไม่สวยงามอย่างใจหวัง
 
ปัญหาอาจอยู่ที่หลายคนทำการตลาดด้วยเนื้อหาคอนเทนต์แต่กลับไม่ได้สังเกต วิเคราะห์ และเลียนแบบลักษณะของคอนเทนต์ที่ดี ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านที่น่ารักไม่ต้องเจอกับปัญหาเช่นนั้น เราจึงได้ลิสต์เคล็ดลับ 9 ข้อที่จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณโดนใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน
 
รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร
 
สิ่งสำคัญที่สุดและเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำคือระบุกลุ่มเป้าหมายให้ชัด การสร้างคอนเทนต์กว้างๆ สำหรับคนทั่วไปนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่คอนเทนต์เช่นนั้นไม่อาจสร้างความรู้สึกใกล้ชิดที่กลุ่มเป้าหมายกำลังมองหาอยู่ ความรู้สึกใกล้ชิดชนิดพิเศษที่จะทำให้คอนเทนต์ของเราโดนใจพวกเขาได้ การรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเองทำให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพูดกับลูกค้าได้ราวกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน
 
เมื่อรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใครแล้วก็ควรวิเคราะห์ลักษณะการใช้ชีวิต รวมถึงการใช้ภาษาของกลุ่มเป้าหมายด้วย เลือกใช้คำท่ีกลุ่มเป้าหมายคุ้นเคย หากกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในวัยผู้ใหญ่ การใช้ศัพท์วัยรุ่นในคอนเทนต์ก็อาจไม่เหมาะสม การเลือกใช้คำและสำนวนของภาษาจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก เพื่อให้เข้าถึงใจลูกค้าที่สุด
 
ตั้งชื่อเรื่องให้น่าคลิก
 

 
หลังจากรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเองแล้ว ต่อไปก็ต้องหาประโยคเด็ดมาตั้งชื่อคอนเทนต์ของเราให้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งเมื่อรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายชอบอะไรและมีพฤติกรรมแบบไหน เราจะสามารถเลือกคำที่เหมาะสมและมุมมองที่น่าสนใจมาดึงดูดให้พวกเขาอยากอ่านได้ ซึ่งจะทำให้กลยุทธ์คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งของเราประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
 
หากชื่อเรื่องไม่น่าสนใจ ก็คงไม่มีใครอยากคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหาที่คุณอุตส่าห์เขียนแทบเป็นเทบตาย ดังนั้น ให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อเรื่องคอนเทนต์ของคุณไว้เป็นอันดับแรกๆ เมื่อต้องการเขียนคอนเทนต์ที่จะโดนใจกลุ่มเป้าหมายและกลายเป็นไวรัล
 
เกริ่นเรื่องให้น่าสนใจ
 
เมื่อเรามีชื่อเรื่องที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านแล้ว การเกริ่นนำเรื่องที่สนุกก็จะช่วยดึงให้ผู้อ่านอยากอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดต่อไป การเกริ่นนำเรื่องจึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้ผู้อ่านไม่กดปิดหนีไปและสนุกกับเนื้อเรื่องที่จะตามมา
 
เราอาจใช้การตั้งคำถามที่น่าสนใจเพื่อเกริ่นเรื่องและบอกว่าเนื้อหาที่จะได้อ่านต่อไปจะเป็นการตอบคำถามดังกล่าว หรือดึงดูดความสนใจด้วยสถิติที่น่าประหลาดใจซึ่งจะทำให้ผู้อ่านอยากรู้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการที่จะรู้เคล็ดลับเพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การเกริ่นเรื่องด้วยคำคมหรือแนวคิดเจ๋งๆ ก็ถือเป็นอีกเทคนิคที่น่าสนใจเช่นกัน
 
มีอีกหลายเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ในการเกริ่นเรื่องได้ ซึ่งผู้เขียนคอนเทนต์จะต้องวิเคราะห์และหาแนวทางที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของตนเองมากที่สุด เพราะการเกริ่งเรื่องที่น่าสนใจก็เหมือนกับเรามีคอนเทนต์ที่น่าสนใจไปครึ่งนึงแล้ว
 
ระวังการสะกดคำและไวยากรณ์การใช้ภาษาต่างๆ
 
ชื่อเรื่องจะไม่เป๊ะ เกริ่นเรื่องจะไม่ปัง และเนื้อหาจะไม่มีทางสตรองได้ หากเต็มไปด้วยคำสะกดผิด ใช้คำผิดความหมาย ผิดหลักไวยากรณ์ หรือการใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิดที่ผิดทาง ก่อนจะเป็นคอนเทนต์ที่ดีได้ เราจะต้องเขียนคอนเทนต์ไม่ให้มีข้อผิดพลาดทางภาษาเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน การเขียนคอนเทนต์โดยยังมีข้อผิดพลาดด้านภาษาทำให้ผู้อ่านเชื่อถือเนื้อหาที่เราเขียนได้ยาก 
 
คอนเทนต์ที่เขียนไม่ผิดนอกจากจะช่วยให้ผู้อ่านไม่รำคาญจนปิดหน้าต่างหนีไปแล้ว ยังช่วยให้อ่านง่าย เข้าใจง่าย อ่านแล้วไม่มีสะดุด ดังนั้นการระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดด้านการใช้ภาษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งอาจต้องใช้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญอย่างพรูฟรีดเดอร์ที่จะช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดในคอนเทนต์ของคุณ ออกที่จะออกไปสู่สายตาของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการสื่อสารที่ลื่นไหล เข้าใจง่าย และเพื่อให้คอนเทนต์ที่คุณเขียน เป็นคอนเทนต์ที่ทุกคนเชื่อถือ
 
เนื้อหาเป็นประโยชน์ ทันเหตุการณ์ สนุกสนาน และ สดใหม่
 
เนื้อหาของคอนเทนต์ที่จะขึ้นแท่นคอนเทนต์ขั้นเทพและกลายเป็นคอนเทนต์ไวรัลได้นั้น จะต้องมีประโยชน์ ให้ความบันเทิง และต้องเป็นเรื่องราวที่ยังไม่มีใครเคยพูดถึง เพราะหากเป็นประเด็นที่ใครๆ ก็พูดถึงกันมาแล้วเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง เนื้อหานั้นก็ไม่น่าสนใจพอ
 
ดังนั้นด้วยปัจจัยดังกล่าวการสร้างคอนเทนต์เจ๋งๆ จึงเป็นเรื่องยากมาก และเราจำเป็นต้องติดตามเนื้อหาของคู่แข่งอยู่เสมอ เพื่อจะดูว่าคู่แข่งเคยพูดเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง และประเด็นแบบไหนที่ไม่เวิร์ค หรือมุมมองแบบไหนที่ยังไม่มีใครเคยพูดถึง เพื่อที่จะทำให้เนื้อหาคอนเทนต์ของเราสดใหม่และไม่ซ้ำซากจำเจ
 
หากไม่มีประเด็นที่โดดเด่นหรือแปลกใหม่ อาจลองใช้เทคนิคการเล่าเรื่องก็ได้เช่นกัน การเล่าเนื้อหาอย่างเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกัน จะทำให้คอนเทนต์ดูน่าใจขึ้น เพราะเรื่องเล่าที่สนุกสนานนั้นทรงพลังเสมอ
 
ความบันเทิงเป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้น ลองสมมุติตัวเองเป็นผู้อ่านดูด้วย เพื่อพิจารณาว่า การเล่าเรื่องแบบใดที่น่าสนใจ
 
ข้อมูลเชื่อถือได้
 

 
การเขียนคอนเทนต์นั้น เราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่สื่อสารออกไป ดังนั้นเนื้อหาหลักๆ เช่น ตัวเลขหรือข้อเท็จจริงทุกอย่างที่อ้างอิงในคอนเทนต์ ต้องมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ อย่างสำนักข่าว องค์กรวิจัย หรือสถาบันการศึกษา ข้อมูลที่ถูกต้องนั้นนอกจากจะทำให้คอนเทนต์ของเรามีคุณภาพแล้ว การพูดข้อมูลผิดๆ อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้อ่านที่เชื่อ หรืออาจทำให้เราเองโดนฟ้องร้องได้
 
การสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนานไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งหากเราไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงใดๆ ที่จะมาจำกัดจินตนาการการเขียนคอนเทนต์ของเรา แต่ข้อมูลที่ถูกต้องจะทำให้คอนเทนต์ของเราน่าเชื่อถือ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
 
ภาพประกอบเนื้อหาต้องดึงดูด
 

 
ภาพหนึ่งภาพสามารถสื่อสารได้เป็นพันคำ โดยเฉพาะเมื่อนำมาประกอบกับเนื้อหาคอนเทนต์ที่เจ๋งอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ภาพประกอบจึงมีหน้าที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาโดยรวมก่อนในเวลาอันรวดเร็ว เห็นได้ชัดจากกระแสความนิยมที่หลายเว็บทำอินโฟกราฟฟิคมาประกอบเนื้อหาคอนเทนต์และช่วยให้คอนเทนต์นั้นกลายเป็นไวรัล
 
ภาพประกอบนอกจากจะช่วยสร้างอิมแพ็คให้กับเนื้อหาแล้ว ยังเป็นที่พักสายตาให้กับผู้อ่านได้ด้วย เมื่อต้องอ่านเนื้อหาที่มีความยาวมากๆ สีสันของรูปภาพที่สดใสช่วยให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจ แต่ต้องอย่าลืมเลือกรูปภาพที่มีคุณภาพความละเอียดสูงเพื่อให้ภาพที่ออกมาดูสวยงามชัดเจน และที่สำคัญต้องให้เครดิตรูปภาพด้วย 
 
เลือกสไตล์การจัดเนื้อหาที่สวยงามอ่านง่าย
 

 
หากเนื้อหาที่ดีที่เขียนอย่างไม่ผิดหลักการทางภาษาเป็นหัวใจหลักของคอนเทนต์ของเรา การเลือกฟอนต์ ขนาดฟอนต์ การทำตัวหนา ขีดเส้นใต้ และการเว้นช่องไฟก็คือสไตล์ของคอนเทนต์ที่มีความสำคัญควบคู่ไปกับเนื้อหา การเลือกรูปแบบฟอนต์ ขนาดฟอนต์ สีฟอนต์ที่เหมาะสม และรู้ว่าควรขีดเส้นตใต้ ทำตัวหนา ตัวเอียง หรือเว้นช่องไฟตอนไหน จะช่วยให้คอนเทนต์ของเราอ่านง่ายและอ่านสนุก
 
การคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายก็ช่วยให้เราเลือกสไตล์การจัดเนื้อหาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุฟอนต์ที่เลือกก็ควรมีขนาดใหญ่ การใช้ฟอนต์ขาวบนพื้นดำก็อาจไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ชอบความสดใสสนุกสนาน หากเราไม่ได้ทำตัวเอียง ตัวหนา หรือขีดเส้นใตคำบางคำอาจทำให้ผู้อ่านพลาดประเด็นหลักหรือใจความสำคัญของเรื่องได้เลยทีเดียว หรือการเขียนเนื้อหาที่ยาวติดกันเป็นพรืดโดยไม่เว้นช่องไฟ ก็จะทำให้ผู้อ่านอ่านยากและไม่อยากอ่านต่อ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อสร้างคอนเทนต์ชั้นเยี่ยม
 
อย่าลืม Call-to-action
 

 
สุดท้ายแต่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางปุ่ม Call-to-action เอาไว้ในคอนเทนต์ด้วย หากไม่มีปุ่มนี้ คอนเทนต์ของเราก็เหมือนเขียนโดยไร้จุดหมาย เมื่อพูดถึง Call-to-action หลายคนคิดถึงเพียงการมีลิงค์เข้าสู่หน้าหน้ารายละเอียดสินค้าหรือบริการ หรือไปสมัครสมาชิกรับข่าวสาร  แต่อันที่จริงแล้วปุ่ม Call-to-action อาจเป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านรู้สึกอยากแชร์ข้อมูล ให้ความช่วยเหลือ หรือพัฒนาตัวเอง ดังนั้น ปุ่ม Call-to-action จึงมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของเนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย และกลยุทธ์การตลาดที่เรากำลังทำอยู่
 
การเขียนคอนเทนต์ที่ดีนั้นต้องใช้ความทุ่มเท ความขยัน และความสม่ำเสมอ แต่ผลลัพท์จากคอนเทนต์ที่ดีนั้นจะทำให้คุณหายเหนื่อยอย่างแน่นอน ดังนั้น คงคุณภาพของการเขียนคอนเทนต์ไว้ให้ดี คำนึงถึงหลักการ 9 ข้อข้างต้นไว้เสมอ แล้ววันหนึ่งคอนเทนต์ของคุณจะกลายเป็นคอนเทนต์ไวรัลได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน จำไว้ว่า การมีคอนเทนต์ไวรัลเพียงคอนเทนต์เดียวก็เพียงพอให้แบรนด์คุณเข้าไปอยู่ในสายตาของกลุ่มเป้าหมายและประสบความสำเร็จในตลาดดิจิตอลด้วยคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งแล้ว