“อีเมล์-มาร์เก็ตติ้ง” บูม ตลาดโตต่อเนื่อง 30%

ผู้จัดการรายวัน 360 – ผู้นำด้านออนไลน์มาร์เก็ตติ้งทุ่มงบ 70 ล้านบาทพัฒนาระบบ Taximail ให้บริการด้าน “อีเมล์-มาร์เก็ตติ้ง” สัญชาติไทยรายแรก พร้อมครองส่วนแบ่ง 14% จากตลาดรวม 350 ล้านบาทในปี 58 เป็นรองเพียงผู้นำระดับโลก “monkeychimp” เผยกลางปี 59 รุกตลาดอินโดฯ หวังทำรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า
 
นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอริสมา เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำด้านออนไลน์มาร์เก็ตติ้งและผู้ให้บริการด้านการสื่อสารออนไลน์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้เวลา 2 ปีและงบลงทุน 70 ล้านบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้บริการ “Taximail” ซึ่งเป็นบริการเกี่ยวกับ “อี-เมล์ มาร์เก็ตติ้ง” และแบบการผูกการทำธุรกรรมครบวงจร (Transactional) ด้วยระบบส่งออกขนาดใหญ่ที่รองรับความเร็วในการส่งออกสูงที่สุดในประเทศไทยถึง 40 ล้านฉบับต่อชั่วโมง ทั้งยังสามารถตรวจสอบผลแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
 
Taximail คือการบริการส่ง “อี-เมล์ มาร์เก็ตติ้ง” อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบบนคลาวด์ทำหน้าที่ช่วยวางแผนกลยุทธ์ในการจัดส่งข้อมูลที่สามารถรองรับการส่งออกที่ความเร็วสูง ปรับปรุงฐานข้อมูลให้ถูกต้อง ช่วยวัดค่าสแปมของอีเมล์ก่อนส่งออกไป ทำให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและช่วยวิเคราะห์ผลการตอบรับของผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์ให้ใช้งานได้ง่ายและสามารถทำได้ด้วยตนเอง
 
บริษัทฯ มีการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดของอีเมล์-มาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยพบว่า ในปี 2558 มีมูลค่าประมาณ 350 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 31% และคาดว่าในปี 2559 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30%คิดเป็นมูลค่าประมาณ 451.8 ล้านบาท โดยมีผู้นำตลาดเป็นบริษัทฯ ระดับโลกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยคือ mailchimp ครองส่วนแบ่งถึง 60% ขณะที่บริษัทฯ ถือเป็นอันดับสองด้วยส่วนแบ่ง 14% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ประกอบการด้านให้บริการเครือข่ายต่างๆ ที่ไม่ได้ทำตลาดด้านนี้เป็นหลัก มีส่วนแบ่งใกล้เคียงกันคือรายละประมาณ 2-3%
 
“อี-เมล์ มาร์เก็ตติ้ง” คือการทำตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางอี-เมล์ ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มมีการใช้อินเทอร์เน็ต ถือเป็นเครื่องมือที่มีความโดดเด่นกว่าสื่ออื่นๆ ที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน รวดเร็ว มีค่าใช้จ่ายต่ำ และสามารถวัดผลได้ทันที โดยจากรายงานของ VentureBeat (US) ได้เปรียบเทียบอี-เมล์, โทรทัศน์, วิทยุ, Banner Ads และ Paid Search พบว่าอี-เมล์มีค่าการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ Return On Invetment (ROI) สูงที่สุด โดยทุก 1 เหรียญสหรัฐฯ สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 38 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 38 เท่า
 
 
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ในปี 2557 ซึ่งบริษัทฯ เริ่มพัฒนาระบบ Taximail มีลูกค้าที่ใช้บริการเพียง 5 ราย แต่ในปี 2558 มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 250-300 ราย คิดเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 60-70 ราย โดยกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสูงสุด 3 อันดับแรกคือกลุ่มโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก ขณะเดียวกันยังสามารถทำรายได้เติบโตขึ้นถึง 400% โดยสามารถส่งข้อความอี-เมล์ได้ถึง 1 พันฉบับและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5-3 พันล้านฉบับในปี 2559
 
“ในปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 50 ล้านบาท โดยบริการ Taximail มีสัดส่วนรายได้ถึง 50% โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของบริษัทฯ คือจำนวนประชากรของประเทศ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงเตรียมขยายบริการไปยังประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีจำนวนประชากรมากถึง 200 ล้านคนภายในไตรมาสที่สองของปี 2559 โดยคาดว่าจะสามารถทำให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2559 นอกจากนั้นยังจะขยายธุรกิจไปยังประเทศลาวเป็นลำดับถัดไป โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในการเป็นผู้แทนให้บริการทั้งสองประเทศ
 
นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องมือของ Taximail จะทำหน้าที่ช่วยวางแผนกลยุทธ์ในการจัดส่งข้อมูล ปรับปรุงฐานข้อมูลให้ถูกต้อง ช่วยวัดค่าสแปมของอี-เมล์ก่อนจะส่งออกไป ทำให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทำได้ง่ายและช่วยวิเคราะห์ผลการตอบรับของลูกค้า โดยหลังจากที่บริษัทฯ พัฒนาระบบและให้ลูกค้าได้ทดลองใช้จริง ปรากฏว่าจากอดีตที่ลูกค้าส่งอี-เมล์ 1 แสนฉบับแต่มีผู้สนใจเปิดอ่านเพียง 100-200 ราย หรือคิดเป็น 0.2% เท่านั้น แต่เมื่อเริ่มใช้บริการ Taximail กลับมีคนเปิดอ่านมากถึง 25-40%
 
สำหรับแผนการตลาดในปี 2559 บริษัทฯ จะเน้นทำความเข้าใจกับนักการตลาดให้มากขึ้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการส่งอี-เมล์ไปยังกลุ่มลูกค้าแล้วไม่ถึงตัวผู้รับ หรือเข้าไปติดในกล่องอี-เมล์ขยะ รวมทั้งการเลือกใช้คอนเทนท์ที่เจาะจงเฉพาะตัวบุคคลเพื่อช่วยให้มีอัตราการเปิดอี-เมล์สูงขึ้น เช่น การระบุชื่อผู้รับ Taximail โดยจะมีการทำเวิร์คช้อปเป็นประจำทุก 1-2 เดือน เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาและวิธีแก้ไข รวมทั้งให้ความรู้แก่นักการตลาดในการไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้รับอี-เมล์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของคอนเท้นท์ เพื่อขยายให้เกิดการใช้งานที่ถูกต้องมากขึ้น
 
นอกจากนั้นยังจะขยายขอบเขตของการจัดส่งอี-เมล์ในแบบแคมเปญไปยังอี-เมล์ธุรกรรมต่างๆ (Transactional) อาทิ อี-เมล์ตอบรับการเป็นสมาชิก อี-เมล์ยืนยันการซื้อสินค้า อี-เมล์แจ้งยอดการใช้บริการ หรือแม้แต่การจัดส่ง e-Invoice ผ่านทางอี-เมล์ให้รวดเร็วขึ้น หรืองาน CRM ของค่ายประกันชีวิตในการส่งอี-เมล์ร่วมอวยพรวันเกิด โดยอี-เมล์เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และยังมีส่วนช่วยสร้างทราฟฟิกกลับไปยังเว็บไซต์เพิ่มเติมด้วย ซึ่งเมื่อเรานำผลลัพธ์มาวิเคราะห์จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบในการทำการตลาดให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น