ทำไมใครๆ ก็ทำคลิป? 5 สาเหตุการตลาดผ่านคลิปวิดีโอถึงเปรี้ยงสุดใน พ.ศ. นี้

การทำการตลาดผ่านคลิปกลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ในโลกออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างบรรจุการทำคลิปของตัวเองลงในแผนการตลาดกันอย่างคึกคัก เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค สร้างเอ็นเกจเมนต์ และเปลี่ยนผู้ชมให้เป็นลูกค้าในที่สุด
 
ถ้าคุณยังไม่เชื่อว่ากระแสการตลาดผ่านคลิปกำลังมาละก็ มาดูตัวเลขยืนยันเสียก่อน ตามข้อมูลจาก Syndacast ทราฟฟิคในโลกออนไลน์ 74% ในปี 2017 นี้ จะอยู่ที่การชมวิดีโอ ยิ่งไปกว่านั้น ผลการศึกษายังพบว่า การใส่คำว่า “วิดีโอ” ลงไปในชื่ออีเมล ช่วยให้อัตราการเปิดอ่านอีเมลสูงขึ้น 19% อัตราการคลิกในอีเมลสูงถึง 65% และช่วยลดการยกเลิกการรับข่าวสารได้ 26% อีกทั้งข้อมูลจาก Twitter ยังระบุว่าทวีตที่มาในรูปแบบรูปภาพและวิดีโอจะถูกรีทวีตมากกว่า
 
โดยปัจจัยที่ทำให้การตลาดผ่านวิดีโอเฟื่องฟูนั้นมีสาเหตุ ดังนี้
 
Facebook เปลี่ยนกลยุทธ์เน้นด้านวิดีโอ
 
เมื่อปีที่แล้ว Facebook ประกาศยอดวิววิดีโอผ่านโซเชี่ยลของตนเองเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 4 พันล้านวิว เป็น 8 พันล้านวิวในเวลาเพียง 7 เดือน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ชี้ให้เห็นโอกาสที่ Facebook จะทำเงินจากการโฆษณาเพิ่มขึ้นได้ แถมยังช่วยเพิ่มเอ็นเกจเมนต์และเพิ่มยอดวิวด้วย ซึ่ง Facebook ก็ได้ออกฟีเจอร์ดูคลิปผ่านฟีดได้ทันทีมาในปีที่แล้ว และกำลังพัฒนาฟีดสำหรับการดูคลิปโดยเฉพาะขึ้นมาอีกด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ดูคลิปที่แชร์ลง Facebook เพียงอย่างเดียว ดังนั้น ในเมื่อสื่อโซเชี่ยลอย่าง Facebook ทุ่มลงทุนกับการพัฒนาเกี่ยวกับคลิปขนาดนี้แล้ว นักการตลาดอย่างเราก็ควรใช้ประโยชน์จากเครื่องมือตรงนี้กันให้คุ้ม
 
ช่วยเสริมด้าน SEO
 
วิดีโอช่วยเสริมโดยตรงในส่วนของผลการค้นหาในเสิร์ชเอ็นจิน เนื่องจากริชมีเดียซึ่งรวมถึงวิดีโอจะถูกดึงขึ้นมาแสดงในหน้าแรกๆ ตามอัลกอริทึมในการเสิร์ช แต่ที่สำคัญกว่านั้น การที่ Google เป็นเจ้าของ YouTube คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเผยแพร่คอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอเป็นที่นิยมขนาดนี้ Google มีการปรับอัลกอรึทึมในการแสดงผลการค้นหาให้ตรงใจผู้ใช้ให้มากที่สุดอยู่เสมอ ผลการค้นหาที่โชว์จึงมีหลากหลายรูปแบบและอาจไม่ใช่คีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหาโดยตรง ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบัน วิดีโอถูกดึงขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งบนๆ ในหน้าผลการค้นหาของ Google
 
เข้าใจง่าย ดูเพลิน
 
ในโลกดิจิตอลที่ข้อมูลต่างๆ หลั่งไหลผ่านสายตาเราไปมากมาย ผู้คนถูกยัดเยียดให้รับสารจนบางครั้งมากเกินกว่าจะย่อยไหว วิดีโอจึงเปรียบเสมือนอาหารอร่อยที่ย่อยง่าย เพราะสมองรับรู้และเข้าใจข้อมูลแบบวิชวลได้มากกว่าข้อมูลที่เป็นข้อความ นอกจากนั้นการสร้างอิมเพ็คด้วยคลิปวิดีโอยังทำได้ง่ายกว่าด้วย
 
กลายเป็นไวรัลได้มากกว่า
 
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มที่จะแชร์วิดีโอมากกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่น ดังนั้น วิดีโอจึงถือเป็นสื่อที่ดีสำหรับธุรกิจต่างๆ ในการเผยแพร่วิสัยทัศน์ ความเชี่ยวชาญ สินค้า บริการ ข่าวสารของบริษัท และประกาศต่างๆ เพื่อให้ถึงผู้รับสารในวงกว้างที่สุดในรูปแบบไวรัล
 
ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
 
ไม่ว่าเป้าหมายในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณคืออะไร ให้ความรู้ สร้างความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ หรือสร้างการรับรู้แบรนด์ คลิปวิดีโอก็ตอบโจทย์ได้หมด ผู้คนในปัจจุบันนิยมอ่านและหาข้อมูลจากรีวิวและบล็อกต่างๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าเสมอ บริษัทวิจัย Animoto’s ระบุว่า 96% ของลูกค้าคิดว่าวิดีโอมีประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บริโภค 58% ยังคิดว่าบริษัทที่สร้างคลิปวิดีโอได้นั้นเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ
 
วิดีโอสามารถสร้างทราฟฟิคและเอ็นเกจเมนต์ได้เป็นอย่างดี สามารถส่งสารไปยังผู้บริโภคได้ดีกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทและสินค้าชิ้นนั้นๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่วิดีโอจะกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่หลายบริษัทต่างเลือกบรรจุลงในแผนการตลาดของตัวเองใน พ.ศ. นี้