Gen Z อุบัติแล้ว! 4 เคล็ดลับเด็ดทำการตลาดหลังยุคมิลเลนเนี่ยล

ขณะที่คุณเพิ่งจะสร้างสมดุลในกลยุทธ์การตลาดซึ่งจะต้องเอาใจทั้งกลุ่มเบบี้บูมเมอร์, Gen X, Gen Y, และเหล่ามิลเลนเนี่ยล ตอนนี้ Gen Z ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
 
Generation Z หรือที่รู้จักกันในอีกหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์มิลเลนเนี่ยล (Post-Millennials) เซนเทนเนี่ยล (Centennials) หรือพลูรัล (Plurals) คือเด็กๆ ที่เกิดมาช่วงปลายยุค 1990 จนถึงยุค 2010 สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเด็กยุคนี้ก็คือการรู้จักใช้อินเทอร์เน็ตตั้งแต่ยังเด็กมากๆ นี่คือเจเนอเรชั่นที่เติบโตมากับเทคโนโลยีและการอินเทอร์แอ็คผ่านโซเชี่ยลมีเดีย แถมยังใช้โซเชี่ยลในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง
 
Gen Z คือกลุ่มลูกค้าใหม่อีกกลุ่มที่เจ้าของธุรกิจต้องทำความเข้าใจ Gen Z ที่โตที่สุดอายุเกือบ 20 ปีแล้ว รวมถึงเด็กๆ Gen Z ก็ส่งอิทธิพลสำคัญต่อการซื้อสินค้าเช่นกัน กว่า 50% ของพ่อแม่ทั่วโลกนะบุว่าลูกๆ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของตนเอง
 
ขณะนี้ คาดว่าเหล่า Gen Z มีกำลังการซื้ออยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านเหรียญ แต่การพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าวัยเด็กเหล่านี้มีความแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ แม้แต่กลุ่มมิลเลนเนี่ยลเองก็ต่างกัน
 
เหล่า Gen Z ชอบดูรูปภาพและคลิปวิดีโอมากกว่า แถมยังไม่ชอบจดจ่อกับอะไรนานๆ แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่ม Gen Z ต้องเข้าถึงธรรมชาติของพวกเขาให้ได้ การสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ให้เกิดขึ้นกับ Gen Z ไดเตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้คุณมีลูกค้าในอนาคตอย่างแน่นอน
 
เรามาดู 4 เทคนิคที่นักการตลาดต้องจดจำเอาไว้หากจะวางกลยุทธ์เพื่อชนะใจเหล่า Gen Z กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
 
1. ภาพคือทุกสิ่ง
 
Gen Z เติบโตมากับการสื่อสารด้วยภาพหรือวิช่วลต่างๆ เด็กรุ่นนี้มีแท็ปเล็ตหรือสมาร์ตโฟนจอใหญ่เป็นของตัวเอง พวกเขาใส่ฟิลเตอร์ ตกแต่งภาพ ใช้อีโมจิ หรือแม้แต่คุยกันด้วยสติ๊กเกอร์รูปภาพเพียงอย่างเดียวก็ยังได้ ดังนั้น หากวางกลยุทธ์เพื่อดึงดูดใจ Gen Z ต้องใช้อินโฟกราฟฟิค มีม วิดีโอ ภาพ GIF หรือรูปแบบการสื่อสารอื่นๆ ที่ดึงดูดทางสายตา
 
2. พูดให้สั้น
 
ระยะเวลาเฉลี่ยที่ Gen Z จะจดจ่อกับอะไรสักอย่างอยู่ที่เพียง 8 วินาที ซึ่งสั้นกว่าปลาทองเสียอีก ตั้งแต่ปี 1998 ความสามารถในการมีสมาธิเฉลี่ยสั้นลงถึง 11 นาที คอนเทนต์สำหรับแคมเปญต่างๆ ของคุณจึงจำเป็นต้องดึงความสนใจเหล่า Gen Z ในทันทีไม่เช่นนั้นพวกเขาก็เลื่อนผ่านข้อความของคุณไป ดังนั้น นอกจากภาพสวยๆ แล้ว ข้อความที่ใช้ก็ต้องตรงเป้า ง่าย สั้น กระชับ แต่ได้ใจความสำคัญ
 
3. จริงใจ
 
Gen Z ชอบแชร์เรื่องราวผ่านโซเชี่ยล และจะไม่ถูกหลอกด้วยลูกไม้การตลาดตื้นๆ แบบเก่า การตลาดแบบจริงใจจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่สำคัญ Gen Z รักและเชื่อความคิดเห็นจากอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ต่างๆ อย่างยิ่ง การโพสต์ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจริง รีวิว เทสติโมเนี่ยล และเคล็ดลับจากผู้ใช้จริงจึงเป็นกลยุทธ์ที่ขาดไม่ได้ ลองเปลี่ยนลูกค้าปัจจุบันของคุณให้กลายเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ให้แบรนด์ของคุณดูสิ
 
4. อยู่ในโซเชี่ยลที่ Gen Z อยู่
 
ไม่ใช่ว่าทุกโซเชี่ยลจะเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ได้ แม้ว่า Facebook จะเป็นโซเชี่ยลที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีตัวเลขการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เหล่าโพสต์มินเลนเนี่ยลนั้น เริ่มไม่ปลื้มกับการเล่น Facebook นัก เพราะนอกจากอายุจะยังไม่ถึงกำหนดการใช้งานของเฟซบุตแล้ว ยังมีโซเชี่ยลอื่นๆ ที่พวกเขาจะสามารถสื่อสารกันได้ระหว่างกลุ่มเด็กๆ ด้วยกันเองโดยไม่มีพ่อแม่อยู่ในโซเชี่ยลด้วย ดังนั้น ต้องค้นหาให้ได้ว่าโซเชี่ยลใดที่เหล่า Gen Z กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานกันอยู่จริงๆ อาจเป็นทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรม แล้วคุณก็ต้องเข้าไปอยู่ในโซเชี่ยลนั้นเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด
 
คุณอาจคิดว่าการทำการตลาดกับเด็กสิบขวบเป็นเรื่องเสียเวลาและเปลืองงบประมาณ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เด็กรุ่นนี้เริ่มสร้างทัศนคติต่อแบรนด์สินค้ากันเร็วกว่าเด็กรุ่นก่อนมากนัก นอกจากเด็ก Gen Z จะมีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าของพ่อแม่อย่างมากแล้ว พวกเขายังจะเติบโตมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตอีกด้วย